บทที่ 198 มีแฟนคลับ
“ทำอะไรของเจ้า?”
เถี่ยฉุยผลักชายแปลกหน้าออกไปพร้อมกับก้าวไปอยู่ด้านหน้าจินเฟิงอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่มือขวาจับด้ามดาบเอาไว้มั่น
มือซ้ายของจินเฟิงก็หดกลับเข้าไปในแขนเสื้อของตนเองทันที
“พี่ใหญ่ อย่าเพิ่งเข้าใจข้าผิด เมื่อวานนี้เราได้พบกันที่งานเลี้ยงน้ำชาของแม่นางเสียวเป่ยอย่างไรเล่า!”
ชายหนุ่มรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว
จินเฟิงเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงข้ามสักพัก พบว่าเมื่อวานเขาเห็นชายผู้นี้จริง ๆ
“อ้อ ข้าจำได้แล้ว เจ้าคือนายน้อยโจว”
เถี่ยฉุยจำชายหนุ่มตรงหน้าได้
“ข้า โจวเหยวียนเฉียง ยินดีที่ได้พบท่านอาจารย์จินอีกครั้ง”
ชายหนุ่มทักทายจินเฟิงตามมารยาทอันควร “ข้าต้องขอโทษด้วย แต่ข้านั้นตื่นเต้นมากที่ได้พบกับท่านอาจารย์ ข้าเพียงอยากที่จะทักทายเท่านั้น กลับมีกริยาหยาบคายและทำให้ท่านอาจารย์ตกใจแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ชายผู้นี้เพียงแค่เข้ามาทักทายเท่านั้น ว่าจบจินเฟิงจึงโบกมือและเตรียมจะจากไปพร้อมกับเถี่ยฉุย
คิดไม่ถึงว่าโจวเหยวียนเฉียงผู้นี้ยังไม่ลดละความพยายาม อีกฝ่ายรีบติดตามจินเฟิงและถามด้วยท่าทีสนิทสนม “ท่านอาจารย์ ท่านมาที่ตรอกเหย่เลี่ยนแห่งนี้มีธุระอะไรหรือ?”
“ข้ามาซื้อของ”
ถนนแห่งนี้เป็นถนนสาธารณะ จินเฟิงจึงไม่สามารถขับไล่ผู้คนออกไปได้ เขาเอ่ยตอบคู่สนทนาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“ครอบครัวของข้าอาศัยอยู่ในตรอกเหย่เลี่ยนนี้มาหลายชั่วอายุคน ท่านอาจารย์ต้องการซื้อสิ่งใดบอกข้ามาได้เลย ข้าจะช่วยนำทางให้เอง!” โจวเหยวียนเฉียงเสนอตัวอย่างกระตือรือร้น
ดูเหมือนว่าหากมีเจ้าถิ่นคอยนำทางให้ก็ไม่เลว…
จินเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบรายการสิ่งที่ต้องการออกมาจากใต้แขนเสื้อ แล้วส่งให้กับชายตรงหน้า
หลังจากที่โจวเหยวียนเฉียงอ่านรายการแล้ว เขาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “ของเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ช่างตีเหล็กใช้ ท่านอาจารย์จะซื้อไปทำสิ่งใดหรือ?”
“ข้าเป็นช่างตีเหล็ก”
“ว่าอย่างไรนะ? ท่านอาจารย์เป็นช่างตีเหล็กอย่างนั้นหรือ?!”
โจวเหยวียนเฉียงอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ
เมื่อคืนเขาอ่านบทกวีหลายบทที่จินเฟิงเป็นผู้เขียนนับครั้งไม่ถ้วน ในความคิดของโจวเหยวียนเฉียง การที่อีกฝ่ายสามารถเขียนบทกวีดังกล่าวได้ ต้องมาจากครอบครัวบัณฑิตเป็นแน่ แต่ใครจะรู้ว่าท่านอาจารย์จินเป็นช่างตีเหล็ก
“เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้นเล่า” จินเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีอะไรหรอก บทกวีของท่านอาจารย์ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้ ข้าเพียงคิดว่าท่านต้องมาจากครอบครัวบัณฑิต คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอาจารย์จะเป็นช่างตีเหล็ก”
โจวเหยวียนเฉียงไม่เพียงแต่ไม่ดูถูกจินเฟิงเพราะเขาเป็นช่างตีเหล็ก แต่ยังเคารพจินเฟิงมากยิ่งขึ้น
“ครอบครัวของข้าเป็นช่างตีเหล็กมาหลายชั่วอายุคน เมื่อมาถึงรุ่นของข้า ถึงได้เริ่มร่ำเรียนและรู้หนังสือ”
จินเฟิงถามต่อ “รายการของที่ข้าจดไว้นั้น สามารถหาซื้อได้หรือไม่?”
ในรายการที่เขาจดไว้ ส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่ใช้ในการทำเหล็กโบราณ ไม่น่าจะหายาก แต่มีบางรายการที่ค่อนข้างพิเศษ จินเฟิงไม่รู้ว่าตอนนี้ต้าคังมีของเหล่านั้นหรือยัง
“ครอบครัวข้าจำหน่ายวัสดุเหล็กและมีของเกือบทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ต้องการ แต่กู๋ถู่*[1] อาจต้องไปซื้อที่ตรอกเถาสือที่จำหน่ายวัสดุเกี่ยวกับเครื่องเคลือบ”
โจวเหยวียนเฉียงส่งใบรายการคืนให้จินเฟิง “ข้ามีสหายคนหนึ่ง บังเอิญว่าครอบครัวของเขาทำเครื่องเคลือบ หากท่านอาจารย์ต้องการ ข้าขอให้เขาส่งของมาให้อีกทั้งยังรับประกันเรื่องราคาให้ได้ด้วย”
ในการผลิตคาร์ไบด์ นอกจากทังสเตนแล้วยังต้องมีโคบอลต์ด้วย
โคบอลต์ถูกนำมาใช้ในประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน โดยทั่วไปจะใช้ในการทำสีเซรามิก
ตอนนี้จินเฟิงยังหาแร่โคบอลต์ไม่พบ ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงหาซื้อมันเท่านั้น
“เช่นนั้น ข้าต้องรบกวนนายน้อยโจวแล้ว ข้าวของราคากี่ตำลึงเงิน ถึงเวลานั้นเจ้าบอกข้าได้เลย”
จินเฟิงเห็นว่าโจวเหยวียนเฉียงมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าหาจึงไม่บอกปฏิเสธ
“ไม่มีปัญหา! ไม่มีปัญหา! เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือท่านอาจารย์ในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้”
โจวเหยวียนเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาจารย์ ตอนนี้ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้แล้ว หากท่านออกไปข้างนอกและบอกว่าต้องการความช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าจะมีคนจำนวนเท่าไรจะมาต่อแถวเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน”
“ผู้มีชื่อเสียงอย่างนั้นหรือ?” จินเฟิงถามด้วยความสับสน
“ท่านอาจารย์คงยังไม่รู้ เมื่อคืนบทกวีของท่านหลายบทได้เผยแพร่ไปทั่วทั้งเมือง และเพราะบทกวีของท่านอาจารย์ที่กล่าวเอาไว้ว่างามค่าราวทองพันกว้าน แม่นางเสียวเป่ยจึงถูกขนานนามว่า ‘แม่นางเชียนจิน’ หอวาโยวสันต์จึงออกประกาศว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาของแม่นางเสียวเป่ยจะต้องเสียสิบตำลึงเงิน”
โจวเหยวียนเฉียงยิ้มและกล่าวต่อ “ข้าไม่รู้ว่ามีหญิงสาวกี่คนในหอนางโลมที่รอคอยที่จะพบกับท่านอาจารย์ หากท่านไม่ปฏิเสธจะต้องมีสตรีหลายคนที่ยินดีที่จะมอบกายของตนให้อย่างแน่นอน อีกทั้งท่านอาจารย์เป็นผู้มีความสามารถ แต่ยังเต็มใจที่จะทำงานเป็นช่างตีเหล็กบนภูเขา ช่างเป็นแบบอย่างของคนรุ่นเราจริง ๆ!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์