บทที่ 208 หมดผลประโยชน์
ทาสนั้นมีสถานะต่ำต้อยและกฎหมายในยุคนี้ก็เลวร้าย
จนกว่าจินเฟิงจะไถ่ตัวของถังเสียวเป่ยได้ ถังเสียวเป่ยถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของหอวาโยวสันต์ แม่เล้ามีสิทธิ์ทุบตีและดุด่านางได้ตามใจ และแม้ว่านางจะถูกทุบตีจนตายก็จะไม่มีผู้ใดสน
ตามที่กล่าวไว้ ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร ความผิดหวังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หอวาโยวสันต์ใช้ทรัพยากรและความพยายามมากมายในการฝึกอบรมถังเสียวเป่ย จินเฟิงกังวลมากว่าแม่เล้าผู้ชั่วร้ายจะทำร้ายถังเสียวเป่ยด้วยความโกรธ
ท่ามกลางแสงจากโคมไฟ เขาจ้องมองไปที่เรือนของถังเสียวเป่ย หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงและเร็ว พร้อมกับคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรถ้าแม้เล้านั้นลงไม้ลงมือกับนาง
โชคดีที่เรือนของถังเสียวเป่ยเงียบสงบตลอดเวลาและไม่มีเสียงร้องไห้ดังลอดออกมาให้ได้ยิน
แม่เล้าเข้าไปด้านในเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนจะออกมา ถังเสียวเป่ยเดินตามมาข้างหลังเพื่อส่งแม่เล้าที่ประตู
ดูจากท่าทางที่นางเดินแล้วไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บตรงไหน
“ดูเหมือนแม่เล้าจะยับยั้งชั่งใจได้อยู่”
ในที่สุดจินเฟิงก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
หลังจากปิดประตูลานบ้าน ถังเสียวเป่ยก็หันกลับมาและมองไปที่หน้าต่างของจินเฟิง จากนั้นก็ย่อตัวเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ
เห็นได้ชัดว่านางเข้าใจความกังวลของเขาเป็นอย่างดี
เถี่ยฉุยจ้องมองไปที่หน้าต่างจนถึงกลางดึกจนแน่ใจว่าแม่เล้านั้นกลับไปพักผ่อนแล้ว เขาถึงจะเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่จินเฟิงตื่น แม่เล้าก็เดินมาพร้อมกับหญิงรับใช้ของนาง
“ท่านอาจารย์พักที่นี่สะดวกสบายดีหรือไม่?”
“ค่อนข้างดี” จินเฟิงถาม “แม่นางเสียวเป่ยเป็นอย่างไรบ้าง”
“เป็นเพราะคำพูดดี ๆ ของท่านอาจารย์ นางเพียงแค่ติดเชื้อจากลมร้ายเท่านั้น เมื่อวานหลังจากกลับมาพักผ่อน อาการของนางก็ดีขึ้น”
แม่เล้ายิ้มแล้วพูดว่า “อีกเดี๋ยวเรือแห่ก็จะมาถึงบริเวณริมแม่น้ำ ท่านอาจารย์จะไปกับพวกข้า หรือจะไปด้วยตนเองหรือ?”
“ไปพร้อมกันก็ได้”
ก่อนที่จะไถ่ตัวนางออกมา จินเฟิงวางแผนที่จะปกป้องถังเสียวเป่ยให้ดีที่สุด
“เช่นนั้นข้าขอไปเตรียมรถม้าสักครู่”
แม่เล้าตอบรับและกำลังจะจากไป แต่แล้วหญิงรับใช้ส่วนตัวของนางก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
“แย่แล้ว นายแม่!”
“กิริยามารยาทที่ข้าสอนเจ้านั้นหายไปไหนหมด อาการรีบร้อนเช่นนี้ช่างเป็นภาพที่ไม่สมควร ขายหน้าท่านอาจารย์ยิ่งนัก!”
แม่เล้าตำหนิก่อนจะเอ่ยปากถาม “มีเรื่องอะไรหรือ?”
“เรียนนายแม่ ทางการส่งคนมาแจ้งว่า เนื่องจากเสียวเป่ยป่วย เพื่อให้ร่างกายของนางฟื้นตัวดีขึ้น จึงไม่ต้องให้นางเข้าร่วมการคัดเลือกตำแหน่งฮวาขุยแล้ว”
หญิงรับใช้ตอบอย่างสั่น ๆ
“คนส่งข่าวไปที่ใดแล้ว?!”
เมื่อแม่เล้าได้ยินเช่นนี้ นางก็ไม่สนใจเรื่องมารยาทอีกต่อไป รีบหันหลังพร้อมวิ่งออกไปพร้อมกับร่างอวบอ้วน “บอกเหล่าเหลียงให้ไปเตรียมเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงิน!”
“นายแม่ หลังจากแจ้งข่าวเสร็จ คนส่งข่าวก็กลับออกไปแล้ว”
หญิงรับใช้ตอบอย่างรวดเร็ว
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?” แม่เล้ากระทืบเท้าอย่างฉุนเฉียว “ให้เหล่าเหลียงเตรียมม้า ข้าจะไปพบนายท่านหลิว!”
หลังจากพูดจบ นางก็วิ่งออกไปโดยลืมเรื่องจินเฟิงไปสนิท
เมื่อเป็นอิสระแล้ว บัณฑิตหนุ่มจึงกลับไปนั่งลงอีกครั้ง
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแต่แม่เล้าก็ยังไม่กลับมา
เรือแห่ของหอวาโยวสันต์ได้ออกเดินทางไปโดยไม่มีถังเสียวเป่ย
เมื่อถังเสียวเป่ยไม่ได้ร่วมขบวน จินเฟิงเองก็ไม่ไปเช่นกัน
หญิงสาวทุกคนต่างพากันไปที่ริมแม่น้ำ จนหอวาโยวสันต์แห่งนี้ดูเหมือนสถานที่รกร้าง กระทั่งช่วงเย็นเมื่อขบวนแห่กลับมา หอวาโยวสันต์ถึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์