เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 216

บทที่ 216 กลับตาลปัตร

“สวรรค์ จวิ้นโส่วกลับไปแล้ว!”

“เขาจะไม่กลับออกไปได้อย่างไรเล่า ในเมื่อท่านอาจารย์จินเป็นผู้มีบรรดาศักดิ์!”

“บรรดาศักดิ์คืออะไรหรือ?”

“ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์ คือผู้ที่ประสบความสำเร็จทางการทหารจึงได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาท ตัวอย่างเช่น จวิ้นเฉิง ก็มียศเป็นท่านโหว!”

“แต่จวิ้นเฉิงไม่ได้มีอำนาจเท่ากับจวิ้นโส่ว”

“เจ้าจะไปรู้อะไร ทั่วทั้งเมืองนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการหลายสิบหลายร้อยคน แต่มีขุนนางเพียงไม่กี่คนเท่านั้น พูดตามตรงก็คือ หากเป็นเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการ เมื่อทำผิดก็จะโดนไล่ออกจากตำแหน่ง แต่พวกขุนนางจะไม่เป็นเช่นนั้น ยกเว้นแต่จะมีความผิดฐานกบฏร้ายแรง โดยทั่วไปแล้วฝ่าบาทจะไม่แตะต้องขุนนาง”

“เช่นนี้เองหรือ ไม่แปลกใจเลยที่จวิ้นโส่วจะยอมแพ้”

“หากเขาไม่ยอมแพ้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะเขาไม่สามารถแตะต้องท่านอาจารย์จินได้”

“ท่านอาจารย์จินมิใช่บัณฑิตหรือ? เขาจะมีผลงานทางทหารได้อย่างไร?”

“เมื่อเจ้าพูดถึงเรื่องนี้ข้าก็พอจะนึกอะไรออก ลูกพี่ลูกน้องของข้าปลดประจำการจากกองทัพเพราะได้รับบาดเจ็บ เขากลับมาบอกข้าว่า คราวก่อนที่ชาวตั่งเซี่ยงบุกเข้ามาที่ชายแดนและถูกกองทัพเถี่ยหลินขับไล่ คนที่เป็นแม่ทัพในการต่อสู้ครั้งนั้นคือ ท่านอาจารย์จิน จากจินชวน!”

“หากเจ้าไม่รู้จริงก็อย่าพูดไปเรื่อยดีกว่า ลูกพี่ลูกน้องของป้าคนที่สามของข้าเคยรับราชการในกองทัพเถี่ยหลิน เขาบอกข้าว่ากองทัพเถี่ยหลินเป็นของท่านโหว ชิ่งไหว!”

“เป็นเจ้าต่างหากที่รู้ไม่จริง ลูกพี่ลูกน้องของข้าเองก็อยู่ในกองทัพเถี่ยหลินเช่นกัน เขาบอกว่าท่านโหวได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกับทหารม้าตั่งเซี่ยง และท่านอาจารย์จินก็ได้รับคำสั่งให้เป็นผู้บัญชาการในกองทัพเถี่ยหลินชั่วคราว ในช่วงเวลาวิกฤต เขาไม่เพียงแต่คิดกระบวนทัพเพื่อต่อสู้กับทหารม้าตั่งเซี่ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สร้างเครื่องเหวี่ยงหินที่สามารถขับเคลื่อนได้และมีแรงเหวี่ยงไกลกว่าร้อยจั้ง จนสามารถเอาชนะชาวตั่งเซี่ยงได้ในที่สุด!”

“เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง ลูกพี่ลูกน้องของข้าเพิ่งกลับมาจากกองทัพเถี่ยหลินเมื่อไม่นานนี้ ใครจะรู้ดีไปกว่าเขาอีกเล่า?”

“ที่ชายคนนี้พูดเป็นความจริง ข้าเองก็มาจากจินชวนและมาทำการค้าที่นี่ คราวที่แล้วข้าได้ยินมาว่า ท่านอาจารย์จินใช้เกวียนออกรบที่สามารถขว้างก้อนหินสังหารกลุ่มโจรได้หลายกลุ่ม เขายังบอกด้วยว่าใครก็ตามที่กล้ามาเก็บส่วยข้าวที่จินชวนอีก เขาจะจัดการเสียให้หมด!”

“หากไม่มีโจรมาเก็บส่วยข้าวประจำปีแล้ว คนในพื้นที่ก็สบายเลยน่ะสิ?”

“ไม่ใช่แค่คนในท้องถิ่นเท่านั้น แต่พ่อค้าอย่างเรา ๆ ก็ต้องขอบคุณท่านอาจารย์จินด้วย ตอนนี้เมื่อเดินทางไปกลับจินชวน ข้าเองก็ไม่ต้องมากังวลว่าจะเจอโจรดักปล้นระหว่างทางอีกต่อไป!”

“ท่านอาจารย์จินสามารถเขียนบทกวีดี ๆ สะท้อนชีวิตชาวบ้านออกมาได้ตรงใจ และเขาก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของผู้คนแล้ว”

“ท่านอาจารย์จินมีความสามารถมากจริง ๆ!”

หลายคนรู้เรื่องที่จินเฟิงปราบโจร จินชวนอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนัก มีพ่อค้ามากหน้าหลายตาที่เดินทางผ่านเส้นนั้นได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวซึ่งกันและกัน ทำให้เรื่องของจินเฟิงค่อย ๆ แพร่กระจายออกไป

ทว่าจินเฟิงวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาพูดถึงกำลังมองไปที่ถังตงตงด้วยสีหน้าเป็นทุกข์

ตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าน่องของถังตงตงนั้นปริออก และเลือดก็เปื้อนผ้าขาวที่พันเท้าจนชุ่มไปด้วยสีแดง

“ต้าหลิว ดูหน่อยว่ามีโรงหมออยู่ใกล้ ๆ หรือไม่ พาถังตงตงไปรักษาเร็ว!”

“จินเฟิง ไม่ต้องหรอก แค่กลับไปขอให้รุ่นเหนียงทายาสมุนไพรให้ข้าก็พอแล้ว”

ถังตงตงยิ้มและส่ายหัว “ข้ายังอยากเห็นเสียวเป่ยแขวนหญิงดุร้ายผู้นี้ประจานไว้ที่ประตูทางเข้าตรอกเฟิงเยว่”

“เหลวไหล เมื่อแผลเจ้าเกาะติดกับชายกระโปรงแล้วจะถอดออกได้ยาก”

จินเฟิงอดไม่ได้ที่จะอุ้มถังตงตงขึ้นมาแล้ววางนางลงบนหลังม้าอย่างระมัดระวัง

จากนั้นเขาก็บอกให้ต้าหลิวจัดทหารผ่านศึกสามคนพานางกลับไปที่โรงเตี๊ยม

แม้ว่าถังตงตงจะคิดมานานแล้วว่าตัวเองเป็นคนของจินเฟิง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มอุ้มนางขึ้นหลังม้าในที่สาธารณะ

เวลานี้ นางรู้สึกสับสนในใจแล้วก็รู้สึกเขินอายเสียจนต้องก้มหน้าลงบนหลังม้า ไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นมองผู้ใด

กว่านางจะตั้งสติได้ ม้าก็เดินมาไกลแล้ว

ถังตงตงจำได้ว่าถังเสียวเป่ยเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน นางจึงตะโกนไปบอกคนด้านหลัง แต่ทหารผ่านศึกไม่ได้ยินนางและส่งนางกลับไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อให้กวานเสี่ยวโหรวช่วยดูแล

หลังจากส่ง ถังตงตงออกไปแล้ว จินเฟิงก็ไม่ลืมถังเสียวเป่ย

บทที่ 216 กลับตาลปัตร 1

บทที่ 216 กลับตาลปัตร 2

บทที่ 216 กลับตาลปัตร 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์