บทที่ 22 อานุภาพของตั่ง
ยุคนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านที่นี่ต้องจุดตะเกียงน้ำมัน เมื่อฟ้ามืดลงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ก็เริ่มเงียบสงบ
มีเพียงเสียงเอี๊ยดเอี๊ยดเท่านั้นที่ดังมาจากบ้านของจินเฟิง
ถังตงตงมุ่งความสนใจไปที่การปั่นด้าย โดยมีตะเกียงน้ำมันอันใหญ่คอยให้แสงสว่าง
ฝั่งเสี่ยวเอ๋อ นางกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ไม่รู้ว่ากำลังฝันถึงสิ่งใดหมอนหนุนใบนั้นถึงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย
“ตงตง เจ้าเลิกปั่นด้ายได้แล้ว รีบเข้านอนเถิด”
กวานเสี่ยวโหรวสวมเสื้อคลุมแล้วพูดอย่างเป็นห่วง “ช่วงนี้เจ้าพักผ่อนน้อย ดูเจ้าสิ ผอมไปหมดแล้ว”
“ครอบครัวเจ้ากินข้าววันละสามมื้อ อีกทั้งยังเป็นข้าวสวยอีก ข้าจะผอมลงได้อย่างไร”
ถังตงตงเอ่ย “เสี่ยวโหรว เจ้าเข้านอนก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจะนั่งปั่นด้ายอีกสักพัก”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็อย่านอนดึกมากล่ะ”
กวานเสี่ยวโหรวเช็ดมุมปากของเสี่ยวเอ๋อ จากนั้นก็กลับไปยังห้องทางทิศตะวันตก
“ดูเหมือนว่าวันนี้คงหมดหวังแล้วล่ะ…”
เมื่อได้ยินเสียงเอี๊ยดเอี๊ยด จินเฟิงก็รู้สึกหมดหนทาง
เขากับกวานเสี่ยวโหรวกำลังอยู่ในช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์และมีความปรารถนาอันแรงกล้า ทว่าบ้านหลังนี้มีเพียงห้องตรงกลางที่กั้นระหว่างห้องทางทิศตะวันออกและตะวันตกเท่านั้น ไม่มีประตู กลางดึกจินเฟิงสามารถได้ยินเสียงเสี่ยวเอ๋อละเมอได้อย่างชัดเจน ดังนั้นหากเขาและภรรยาอยากทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ต้องรอให้ถังตงตงหลับก่อนถึงจะทำได้
แต่ช่วงนี้ถังตงตงมีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมาก เพราะนางปั่นด้ายจนดึกดื่นทุกคืน
กว่านางจะเข้านอน จินเฟิงและกวานเสี่ยวโหรวก็ผล็อยหลับไปแล้ว
“พรุ่งนี้คงต้องสร้างกระท่อมที่ลานบ้านให้คนที่เป็นก้างขวางคอย้ายไปอยู่ที่นั่น”
บัณฑิตหนุ่มคิดเรื่องนี้อย่างไม่พอใจ ก่อนจะค่อย ๆ หลับไป
ด้านหลังภูเขา เซี่ยกวางเดินออกจากป่ามาพร้อมกับชายหัวโล้น ทั้งสองค่อย ๆ ย่องเข้าไปในหมู่บ้านภายใต้แสงจันทร์อันเลือนราง
ทั้งคู่ถือขวานที่เพิ่งลับให้คมเมื่อบ่ายวันนี้ไว้ในมือ ขอบของคมมีดสะท้อนแสงจันทร์แวววาว
พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะฆ่าปิดปาก
“หมู่บ้านของเจ้าไม่มีสุนัขหรือ?”
ชายหัวโล้นกระซิบถามเสียงต่ำ
“พี่สาม ไม่ต้องกังวล หมู่บ้านของเรายากจนมาก ชาวบ้านทั่วไปมีอาหารไม่พอกินด้วยซ้ำ ผู้ใดจะมีเงินเลี้ยงสุนัขได้?”
“เช่นนั้นก็ดี”
หากไม่มีสุนัข ก็จะไม่มีเสียงเห่าให้ชาวบ้านตื่น
“หืม เหตุใดบ้านหลังนั้นยังมีแสงไฟอยู่ล่ะ”
เซี่ยกวางชี้ไปยังหน้าต่างที่มีแสงสลัวแล้วเอ่ย “พี่สาม ลงมือได้เลยหรือไม่?”
“ลงมืออะไรของเจ้า แสงไฟสว่างไสวขนาดนั้น คนในบ้านคงยังไม่นอน หากเกิดเสียงตะโกนร้องขึ้นมาคงได้ยินไปทั้งหมู่บ้าน”
ชายหัวโล้นตบเข้าที่ศีรษะของเซี่ยกวาง
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เซี่ยกวางหดคอและนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นหญ้าด้านนอกลานบ้านกับชายหัวโล้นอย่างอดทน
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
หนึ่งชั่วยาม…
สองชั่วยามผ่านไป นี่ก็ดึกมากแล้ว เหตุใดยังคงเปิดหน้าต่างและไม่ดับไฟอีก
“หรือพวกเขาไม่ได้ดับไฟก่อนนอน?”
ชายหัวโล้นทนไม่ไหวแล้ว
หลังจากนั่งยอง ๆ รออยู่เป็นเวลานาน ขาของเขาก็เริ่มชา
“เป็นไปได้ แต่ก่อนชายหนุ่มผู้นี้เป็นชายที่ไม่รู้จักการใช้ชีวิต ทรัพย์สินของครอบครัวที่พ่อทิ้งไว้ให้ก็ถูกล้างผลาญในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี”
เซี่ยกวางกล่าวต่อ “หลังจากทำเงินได้มากมาย เขาคงกลับมาใช้ชวิตอย่างฟุ่มเฟือยอีกครั้ง”
“นี่คือเงินของข้า อย่าปล่อยให้เขาใช้ออกไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้!”
ดวงตาของชายหัวโล้นเผยความชั่วร้ายออกมา “ไป ลงมือ!”
หลังจากรอมาเป็นเวลานาน เซี่ยกวางก็เริ่มหมดความอดทน ตัดสินใจลุกขึ้นและตั้งใจจะลงมือ
ทว่าใครจะไปรู้ว่าเมื่อทั้งสองยืนขึ้น ประตูห้องหลักจะถูกเปิดออก
เซี่ยกวางและชายหัวโล้นตกใจมากจนรีบหมอบลงอีกครั้ง
ที่ทางเข้าห้องหลัก ถังตงตงกำลังเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์และยืดตัวออก
สตรีผู้นี้รูปร่างเพรียวบางอย่างเห็นได้ชัด
“ภรรยาไอ้หนุ่มนี่มันสวยจริง ๆ!”
ชายหัวโล้นกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่ตั้งใจ
“นี่ไม่ใช่ภรรยาของเขา นางมีนามว่าถังตงตง เป็นสตรีจากกวานเจียวาน”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์