บทที่ 229 การมาเยือนของลวี่หลิ่ว
“ตอนนี้ไม่ต้องตอบอะไร รอนายแม่โจวเข้ามาถามข้าด้วยตัวเองก่อน”
ถังเสียวเป่ยตอบกลับ
หญิงสาวในหอนางโลมเองก็เป็นคนยากจน สถานะของพวกนางแย่กว่าทาสเสียอีก เก้าในสิบส่วนของเงินที่พวกนางหามาได้ล้วนตกเป็นของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เงินจะตกไปอยู่ในมือของพวกนางเอง ถังเสียวเป่ยทนไม่ได้ที่จะใช้พวกนางเป็นช่องทางหาเงิน
หากต้องการขายก็ขายตรงให้กับแม่เล้าเหมือนกับชาดที่เอาไว้แต่งเติมสีสันให้ใบหน้าดีกว่า
ในหอนางโลมหญิงสาวไม่ได้เป็นผู้ซื้อชาดเอง แต่ทางหอนางโลมเป็นผู้ซื้อแล้วแจกจ่าย
เป้าหมายของถังเสียวเป่ยคือการตีตลาดสบู่แบบเดียวกับการขายชาด กล่าวคือทำให้สบู่เป็นสิ่งที่ต้องมีในหอนางโลมทุกแห่ง หากไม่มีก็ดำเนินการไม่ได้
หลังจากเล่นในห้องของเสี่ยวถิงไปสักพัก เมื่อถังเสียวเป่ยแน่ใจแล้วว่าพวกนางทั้งสองไม่ได้สนใจที่ถูกนางใช้ประโยชน์ ถังเสียวเป่ยจึงกลับออกมา
“แม่นางเสียวเป่ย มีหญิงสาวหลายคนมาถามว่าพอจะขายสบู่หอมให้พวกนางได้หรือไม่?”
ต้าหลิวซึ่งรออยู่ที่ประตูเห็นถังเสียวเป่ยออกมาและถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เราจะเริ่มเมื่อใดหรือ?”
“ทำการค้าก็ต้องใจเย็น ๆ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
ถังเสียวเป่ยส่ายหัว
นางต้องรอจนกระทั่งนายแม่แห่งหอนางโลมกระวนกระวายใจจนนั่งไม่ติด
ถังเสียวเป่ยคิดว่าจะต้องรออีกสองสามวัน แต่เมื่อกลับไปที่โรงเตี๊ยม เสี่ยวเอ้อร์ก็เข้ามาแจ้งว่า ฮวาขุยอย่างแม่นางลวี่หลิ่วมารออยู่สักพักใหญ่แล้ว
“แม่นางลวี่หลิ่ว?”
ดวงตาของถังเสียวเป่ยเป็นประกายขึ้นเล็กน้อยและสัมผัสได้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว
ในลานเล็ก ๆ ถังเสียวเป่ยได้เข้าไปต้อนรับแม่นางเสียวเป่ยจากสถานเริงรมย์หลวง
“แม่นางเสียวเป่ย ข้าไม่ได้เจอเจ้าไม่กี่วัน แต่เจ้ากลับดูมีเสน่ห์ดึงดูดเพิ่มมากขึ้นไม่น้อย”
ลวี่หลิ่ววางถ้วยชาลงแล้วมองถังเสียวเป่ยด้วยสายตาอิจฉา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถังเสียวเป่ยได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ในตรอกเฟิงเยว่ แม้แต่กลุ่มชนชั้นสูงของเมืองนี้ทั้งหมดก็ยังเมินฮวาขุยที่ดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกันไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางอิจฉาถังเสียวเป่ยมากที่สุด สิ่งที่ทำให้ลวี่หลิ่วอิจฉาจริง ๆ คือนางรู้สึกได้ว่า ถังเสียวเป่ยเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและพลังงาน
นี่คือสิ่งที่สตรีคนอื่นในหอนางโลมไม่มี
หากเป็นไปได้ นางยินดีที่จะสละตำแหน่งฮวาขุยเพื่อแลกกับการถูกจินเฟิงไถ่ตัวออกไป
“แม่นางลวี่หลิวชื่นชมกันเกินไปแล้ว เจ้าได้ตำแหน่งฮวาขุยมาสี่ปีติดต่อกัน แต่ข้านั้นตกรอบแรกจะกล้าเอ่ยว่าตนเองนั้นงดงามได้อย่างไร”
ถังเสียวเป่ยยกย่องอีกฝ่ายแล้วตรงเข้าประเด็น “แต่ข้าสงสัยว่า แม่นางลวี่หลิ่วมาพบข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางคงต้องพูดจาเยินยอลวี่หลิ่วอยู่ครึ่งวัน ก่อนจะลงมือทำการค้า
แต่หลังจากใช้เวลาสองสามวันกับจินเฟิง นางก็ค่อย ๆ เรียนรู้นิสัยการพูดตรงประเด็นมาจากอีกฝ่าย และคิดว่าการสุภาพกับคนที่ยังไม่รู้จักดีนั้นเป็นการเสียเวลา
แน่นอนว่านี่เป็นความกล้าหาญที่จินเฟิงมอบให้นางด้วย
“แม่นางเสียวเป่ยเป็นคนตรงไปตรงมาจริง ๆ เช่นนั้นข้าก็จะไม่อ้อมค้อม”
ลวี่หลิ่วยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าอยากซื้อสบู่หอมจากแม่นางเสียวเป่ย”
“ซื้อสบู่หอม?”
ถังเสียวเป่ยยังคงยิ้มจาง ๆ และถามว่า “ข้าสงสัยว่าแม่นางลวี่หลิ่วต้องการซื้อไปใช้เองหรือซื้อในนามของสถานเริงรมย์หลวง?”
“มันต่างกันหรือ?” ลสี่หลิ่วถาม
“หากซื้อใช้เอง ข้าสามารถแบ่งขายให้เจ้าได้หนึ่งก้อน”
ถังเสียวเป่ยกล่าวว่า “แต่หากแม่นางเป็นตัวแทนของสถานเริงรมย์หลวงก็ขอให้นายแม่เสิ่นมาเจรจาด้วยตัวเองเถิด เพราะสบู่นี้ไม่ใช่ถูก ๆ”
“หืม?”
ดวงตาของลวี่หลิ่วเป็นประกายขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ถังเสียวเป่ยบอกว่ามันไม่ถูก หมายความว่าสามารถซื้อได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์