บทที่ 230 มาต่อรองการค้าถึงที่
“นึกว่าจะรอได้นานกว่านี้เสียอีก”
ถังเสียวเป่ยแอบหัวเราะกับตัวเองในใจ แต่ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของนางเอาไว้ และตอบเบา ๆ ว่า “ก้อนละห้าตำลึงเงิน!”
“อะไรนะ ห้าตำลึงเงิน!” จู่ ๆ นายแม่เสิ่นก็ตกใจจนร้องเสียงหลง “เหตุใดจึงแพงเช่นนี้เล่า?”
“นายแม่เสิ่น ท่านอาจารย์ของข้าใช้เวลาสามวันสามคืนในการทำสบู่นี้ขึ้นมา และใช้แต่ส่วนผสมล้ำค่าอย่างไข่มุกทะเลใต้ เครื่องเทศจากภูมิภาคตะวันตก และบัวหิมะจากเทียนซานมาทำสบู่ ก้อนละห้าตำลึงเงิน ถือว่าราคาสูงอย่างนั้นหรือ?”
ถังเสียวเป่ยเริ่มพูดเกินจริงอีกครั้ง “อีกอย่าง หากได้ใช้สบู่หอมนี้ บรรดาหญิงสาวก็ไม่จำเป็นต้องทาชาดแต่งแต้มมากนัก ประหยัดเงินไปได้มากทีเดียว”
สบู่ชุดนี้ถังเสียวเป่ยขอให้หว่านเหนียงทำขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ด้วยความช่วยเหลือของจินเฟิง มันจึงค่อนข้างแตกต่างจากสบู่ที่ชายหนุ่มใช้ในชีวิตที่แล้วของเขา ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือกลิ่นที่หอมมาก
หากชีวิตที่แล้วกลิ่นหอมบนสบู่แรงเกินไป อาจทำให้คนคิดว่ามันไม่มีคุณภาพ แต่สำหรับในต้าคังที่ล้าหลัง ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม
คุณภาพของชาดในตลาดต้าคังแย่มาก ราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ และการต้องซื้อชาดปริมาณมากในทุก ๆ เดือนก็ทำให้สถานเริงรมญ์หลวงมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จำนวนไม่น้อย
เมื่อนายแม่เสิ่นได้กลิ่นสบู่ที่ลวี่หลิ่วนำกลับมาเมื่อคืนนี้ กลิ่นหอมเข้มข้นของสบู่นั้นก็ดึงดูดนางทันที
นางเลยมาที่นี่แต่เช้าด้วยความตั้งใจที่จะซื้อสบู่และหวังว่าในอนาคตจะซื้อชาดให้น้อยลง
บางทีนี่อาจเป็นความแตกต่างของยุคสมัย จักรยานที่ราคาถูกมากในชีวิตที่แล้ว หากอยู่ในต้าคังก็น่าจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ในทำนองเดียวกัน จินเฟิงไม่สามารถผลิตทุกอย่างที่เขาเคยเห็นในชีวิตที่แล้วได้ แม้ว่าจะทำงานหนักในซีเหอวานมาเป็นเวลานานก็ตาม
“แม่นางเสียวเป่ย แม้ว่าข้าจะไม่ได้เห็นโลกมาก แต่ข้าก็แก่ปูนนี้แล้ว ข้าไม่ใช่คนที่ถูกหลอกง่ายเช่นนั้น”
แม้ว่านายแม่เสิ่นจะรู้สึกสะเทือนใจแต่นางก็ยังครองสติไว้ได้ “หากสบู่ทำจากส่วนผสมอันมีค่าเช่นเครื่องเทศตะวันตกจริง ๆ ราคาก็น่าจะสูงกว่าห้าตำลึงเงินมิใช่หรือ?”
“นายแม่เสิ่นมีสายตาที่แหลมคมจริง ๆ” ถังเสียวเป่ยยิ้มเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้และไม่ได้ปฏิเสธ “แน่นอนว่าสบู่ไม่ได้ทำจากส่วนผสมล้ำค่าทั้งหมด แต่มีส่วนผสมอื่นอยู่ในนั้นด้วย”
“อะไรอีกเล่า?” นายแม่เสิ่นถามอย่างสงสัย
“ข้าต้องขอโทษจริง ๆ แต่นี่เป็นความลับของท่านอาจารย์และข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน”
ถังเสียวเป่ยส่ายศีรษะแล้วพูด
หากบอกอีกฝ่ายว่าสบู่ทำจากน้ำมันหมูและขี้เถ้าจะขายออกได้อย่างไร… จะขายออกหรือ?
“แม่นางเสียวเป่ย สบู่ราคาห้าตำลึงเงินนั้นสูงเกินไปจริง ๆ” นายแม่เสิ่นพูดว่า “ข้าต้องการจำนวนมาก ขอราคาถูกกว่านี้ได้หรือไม่?”
“นายแม่เสิ่น สบู่ก้อนหนึ่งสามารถใช้ได้หลายเดือน เฉลี่ยราคาตกเพียงวันละไม่กี่สิบเหรียญทองแดง มันช่วยให้หญิงสาวหารายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าได้อย่างง่ายดาย” ถังเสียวเป่ยยังคงโกหกต่อไป
สำหรับคนที่ขาดแคลน ด้วยเงินจำนวนนี้ บางทีพวกเขาอาจสามารถซื้ออาหารเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม สถานเริงรมย์หลวงเป็นหอนางโลมที่ดีที่สุดในเมือง และผู้คนที่เข้าและออกต่างก็เป็นนายน้อยผู้มั่งคั่ง แค่เข้าไปฟังหญิงสาวร้องเพลงก็ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากแล้ว
ถังเสียวเป่ยตัดสินใจขายสบู่ในราคานี้หลังจากพิจารณาปัจจัยแวดล้อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สถานเริงรมย์หลวงสามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน และยังสามารถเพิ่มผลกำไรจากสบู่ได้อีกด้วย
การหารค่าเฉลี่ยเป็นวิธีการทั่วไปที่บริษัทอีคอมเมิร์ซใช้ เดิมทีผลิตภัณฑ์มีราคาหลายพันหยวน แต่ระบบจะบอกว่าสามารถใช้งานได้นานเท่าใด จากนั้นก็จะคำนวณออกมาว่าวันหนึ่งต้องจ่ายเพียงไม่กี่หยวนหรือไม่กี่เหมาเท่านั้น
มันฟังดูคุ้มค่าขึ้นไม่ใช่หรือ?
ด้วยเคล็ดลับดังกล่าว ลูกค้าหลาย ๆ คนจะประทับใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นี้แบบผ่อนชำระ
บางทีนี่อาจเป็นจุดอ่อนตามธรรมชาติของมนุษย์ แม้แต่นายแม่เสิ่นก็ไม่ได้รับการยกเว้น เมื่อถังเสียวเป่ยพูดแบบนี้ นางจึงรู้สึกสะเทือนใจ
แต่นายแม่เสิ่นยังไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ “แม่นางเสียวเป่ยที่เจ้าพูดดูมีหลักการดี สามารถหาข้อได้เปรียบมาพูดให้ข้าฟังได้”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์