บทที่ 231 เริ่มการขายอย่างเป็นทางการ
“สามร้อยก้อนอย่างนั้นหรือ…”
เมื่อนายแม่เสิ่นได้ยินสิ่งนี้ มุมปากของนางก็กระตุก
อีกฝ่ายนำสบู่มาถึงสามร้อยก้อน แล้วยังจะบอกว่าไม่ได้เตรียมตัวมา นังคนหลอกลวง
แต่เมื่อรู้ว่าถังเสียวเป่ยกำลังหลอกลวงตนเอง นายแม่เสิ่นก็ทำได้เพียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยอมรับมันเท่านั้น
“เช่นนั้นข้าขอซื้อสามสิบก้อน”
“นายแม่เสิ่นรอสักครู่ ข้าจะให้คนไปจัดเตรียมให้”
ถังเสี่ยวเป่ยก้าวไปด้านหน้าสองก้าว แล้วหันหลังกลับมาพูดว่า “ใช่แล้ว นายแม่เสิ่น สบู่หอมนั้นมีหลากหลายกลิ่น นายแม่ต้องการกลิ่นใดหรือ?”
“มีกลิ่นที่แตกต่างออกไปด้วยอย่างนั้นหรือ?” นายแม่เสิ่นถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว มีกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ ดอกมะลิ ดอกพุดซ้อน ดอกกล้วยไม้ และดอกเหมย…”
ถังเสียวเป่ยผายมือแนะนำไปที่สบู่กลิ่นต่าง ๆ “ส่วนกลิ่นที่แม่นางลวี่หลิ่วยนำกลับไปเมื่อวานคือกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้”
“ข้าขอลองดมได้หรือไม่?” ความอยากรู้อยากเห็นของนายแม่เสิ่นเองก็ถูกกระตุ้นเช่นกัน
“แน่นอน” จากนั้นถังเสียวเป่ยก็พูดกับอาหลานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “พี่อาหลาน รบกวนพี่ไปนำสบู่กลิ่นต่าง ๆ มาอย่างละหนึ่งก้อนหน่อยเถิด”
“คุณหนูรอสักครู่”
อาหลานตอบรับและรีบออกไปทันที
หลังจากนั้นไม่นาน กล่องเล็ก ๆ ก็มาตั้งเรียงรายกันเป็นแถวด้านหน้านายแม่เสิ่น
“อืม นี่คือดอกหอมหมื่นลี้… นี่ดอกมะลิ อันนี้หอมมาก… กลิ่นดอกพุดซ้อนนี่เอง กลิ่นหอมมากทีเดียว…”
นายแม่เสิ่นเปิดดมทีละกล่องและชื่นชมทีละกลิ่น ๆ สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
หากมีแค่กลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ นางซื้อไปสามสิบก้อนก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่นี่มีกลิ่นให้เลือกสรรมากมาย หรือนางต้องซื้อคละไปหลาย ๆ กลิ่นกัน?
โดยปกติกลิ่นหอมนั้นย่อมคู่กับสตรี ยิ่งนายแม่เสิ่นได้กลิ่นเหล่านี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดนางก็ตัดสินใจสั่งซื้อสบู่ไปทั้งหมดแปดสิบก้อน
ก่อนที่นางจะกลับไป นางกลับรู้สึกว่ายังไม่พึงพอใจเท่าที่ควร แต่นายแม่เสิ่นก็รู้ดีว่าวันนี้นางมีเงินไม่เพียงพอที่จะซื้อเพิ่ม คงจะดีหากนางมีเงินมากพอที่จะซื้อสบู่ไปทั้งหมดสามร้อยก้อน
ถังเสียวเป่ยยืนอยู่ที่ประตูและมองดูนายแม่เสิ่นกลับออกไป จากนั้นนางก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นบาง ๆ
แผนการของนางสำเร็จแล้ว!
เพราะหลังจากที่นายแม่เสิ่นกลับไป เรื่องสบู่หอมก็ถูกกระจายข่าวออกไปเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ทว่าสิ่งที่ถังเสียวเป่ยไม่คาดคิดคือ ผลลัพธ์ของสบู่ที่ถูกใช้ในสถานเริงรมย์หลวงนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่นางคาดไว้มาก
หลังจากที่นายแม่เสิ่นกลับไป นางก็เริ่มนำสบู่หอมนี้ไปแจกจ่าย
อีกทั้งยังทำการแจกจ่ายสบู่แต่ละกลิ่นให้เข้ากับบุคลิกของหญิงสาวแต่ละคนด้วย
สตรีที่มีบุคลิกร่าเริงและน่ารักจะได้รับสบู่ที่มีกลิ่นหอมแรงอย่างเช่น ดอกหอมหมื่นลี้และดอกพุดซ้อน ส่วนสตรีที่มีบุคลิกเงียบขรึมหรือเป็นหญิงสาวที่ชื่นชอบด้านศิลปะมากกว่าจะได้รับสบู่ที่มีกลิ่นหอมเย็นอย่างเช่น ดอกเหมย ดอกกล้วยไม้ และดอกมะลิ
และข่าวที่ว่านายแม่เสิ่นแห่งสถานเริงรมย์หลวงสนับสนุนสบู่หอมให้หญิงสาวในหอนางโลมก็ถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งตรอกเฟิงเยว่
และชื่อเสียงของสบู่หอมก็แพร่ไปทั่วทั้งกวางเหยวียน แต่เนื่องจากถังเสียวเป่ยจงใจควบคุมปริมาณการจำหน่ายจึงมีคนได้เห็นมันไม่มากนัก
และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ผู้คนก็ยิ่งสนใจสบู่มากขึ้นตามไปด้วย
ในยุคที่ความบันเทิงไม่ได้รับความนิยมและทุกคนไม่ค่อยได้ออกไปสังสรรค์ ในคืนนั้นที่สถานเริงรมย์หลวงกลับเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาเที่ยวจนแน่นขนัด
ในคืนเดียว มูลค่าการซื้อขายของสถานเริงรมย์หลวงเกินยอดรวมของหกวันก่อนหน้านี้เสียอีก รายได้ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อสบู่มาก
จากที่แต่เดิมมีลูกค้าไปเยี่ยมชมที่สถานเริงรมย์หลวงไม่มาก กลับกลายเป็นว่ามีคนเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นทำให้หอนางโลมแห่งอื่นมีลูกค้าน้อยลง
เมื่อเป็นเช่นนี้ แม่เล้าจากหอนางโลมอื่นจะอดทนอยู่ได้อย่างไร?
คืนนั้นนายแม่โจวจากหอวาโยวสันต์ก็รีบปรี่ไปที่โรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่นางเห็นถังเสียวเป่ย นายแม่โจวก็เริ่มร้องไห้และซับน้ำตาของตนเองเบา ๆ “เสียวเป่ย ตั้งแต่เจ้าออกไปจากหอวาโยวสันต์ของเรา ข้าก็มีชีวิตที่ยากลำบาก กว่าที่จะฟื้นตัวดีขึ้นมาบ้างนั้นไม่ง่ายเลย การที่เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าอยากเห็นข้าตายไปจริง ๆ ใช่หรือไม่?”
ครั้งนี้นายแม่โจวไม่ได้เสแสร้งและนางก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจริง ๆ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์