บทที่ 248 ต้องทำอย่างรอบคอบ
ต้าหลิวเกลียดโจรทั้งสองที่ลักพาตัวถังเสียวเป่ย
แต่จินเฟิงบอกให้ไว้ชีวิตพวกเขา ดังนั้นจึงทำได้แค่มัดตัวเอาไว้และส่งให้โหวจื่อดูแล
เวลานี้โจรทั้งสองไม่มีอาการมึนเมาอีกต่อไป พวกเขาต่างก็หน้าซีดตัวสั่นด้วยความกลัว
ทั้งคู่เห็นสายตาเคียดแค้นของต้าหลิวและโหวจื่อจึงรู้ได้ในทันทีว่า คราวนี้พวกเขาจนมุมแล้วจริง ๆ
ก่อนหน้านี้จินเฟิงอดหลับอดนอนเพราะเป็นห่วงถังเสียวเป่ย แต่ตอนนี้เมื่อพบตัวถังเสียวเป่ยแล้ว เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาทันที แต่ก็ยังไม่อยากที่จะจัดการกับโจรทั้งสองในตอนนี้ อีกอย่างเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นผู้ถูกจ้างวานมาเท่านั้น
และเพราะกลัวว่าพวกหัวหน้าโจรลักพาตัวจะไหวตัวทัน พวกของจินเฟิงเลยบุกเข้าไปช่วยเสียวเป่ยอย่างเงียบ ๆ แต่หากจะให้เขาอุ้มถังเสียวเป่ยกลับไปที่โรงเตี๊ยม แขนของจินเฟิงคงเมื่อยล้าจนทนไม่ไหว
ชายหนุ่มไม่มีวิธีอื่น นอกเสียจากให้ต้าหลิวไปนำตั่งมาและอุ้มถังเสียวเป่ยไปนั่งรออยู่ในลาน ขณะที่รอให้โหวจื่อกลับไปเอาม้า
ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ ถังเสียวเป่ยหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากจินเฟิงพาตัวเองและนางไปนั่งได้ไม่นาน หญิงสาวก็หลับไป นางหลับลึกขนาดที่ว่าตอนถังตงตงมาถึงก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้น
แต่ถึงแม้นางจะผล็อยหลับไป มือของถังเสียวเป่ยก็ยังคงคล้องคอจินเฟิงเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยจนกลับไปถึงโรงเตี๊ยม จินเฟิงวางหญิงสาวลงบนเตียง นางหรี่ตามองไปรอบ ๆ เพื่อยืนยันว่านี่เป็นห้องพักของตน จากนั้นจึงยอมปล่อยมือ
จินเฟิงเองก็ง่วงนอนมากเช่นกัน หลังจากวางถังเสียวเป่ยลงแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องของตัวเองและผล็อยหลับไป
ถังเสียวเป่ยและจินเฟิงนอนหลับสนิท ในขณะที่นายน้อยเหวินเหยวียนนั้นนอนหลับไม่ลง
เมื่อครู่นี้ผู้คุ้มกันของเขามาแจ้งว่า ถังเสียวเป่ยได้รับการช่วยเหลือจากจินเฟิง!
หลังจากมาที่กวางเหยวียน นายน้อยเหวินเหยวียนก็เข้าใจถึงเสน่ห์ของสบู่หอมจริง ๆ
ถังเสียวเป่ยจะให้คนนำสบู่หอมออกมาขายสามสิบถึงห้าสิบกล่องทุก ๆ หนึ่งหรือสองวัน และแต่ละครั้งพวกเขาจะขายหมดโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชาด้วยซ้ำ
มีอยู่สองครั้งที่สบู่เพิ่งนำออกมาจัดวางก็ถูกหญิงรับใช้จากบ้านผู้มีฐานะมารุมล้อมและแย่งชิงไปจนหมดแล้ว
นายน้อยเหวินเหยวียนไม่เคยเห็นกิจการที่เฟื่องฟูขนาดนี้มาก่อน เขาจึงสนใจในตัวสบู่หอมนี้เพิ่มมากขึ้น
จากนั้นเขาก็ส่งคนไปซื้อสบู่สองสามกล่องและไปพบหลางจงที่เก่งที่สุดในกวางเหยวียนเพื่อค้นหาว่าสบู่นั้นทำมาจากอะไร
หลังจากตรวจสอบแล้ว หลางจงก็แจ้งว่าสบู่หอมไม่มีส่วนผสมของไข่มุก บัวหิมะเทียนซาน หรือโสมอยู่ แต่แม้ว่าจะมี ก็ถือว่ามีน้อยมาก
ต่อมานายน้อยเหวินเหยวียนจึงไปพบหลางจงอีกสองคนและจ่ายค่าตอบแทนพวกเขาในราคาสูง ซึ่งก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกัน
ในเวลานั้น เขารู้ได้ในทันทีว่าถังเสียวเป่ยโกหกและสบู่หอมไม่ได้ทำมาจากวัตถุดิบอันล้ำค่าเหล่านี้
บางทีของที่นำมาผลิตสบู่อาจเรียบง่ายมาก
การค้นพบนี้ทำให้นายน้อยเหวินเหยวียนแทบกระโดดดีใจด้วยความตื่นเต้น
ในเมืองหลวงมีคนรวยมากกว่าในกวางเหยวียนเยอะมากและหากว่าเขามีสบู่หอมเป็นของตนเอง เขาต้องร่ำรวยมากแน่ ๆ?
สิ่งสำคัญที่สุดคือสบู่หอมเป็นที่นิยมของสตรี น่าจะเป็นของขวัญที่ดีเยี่ยมเพื่อเอาใจหญิงสาวในเมืองหลวง
นายน้อยเหวินเหยวียนสัญญาว่าหากหลางจงวิเคราะห์สูตรสบู่ได้ เขาจะให้ค่าตอบแทนอย่างงาม
น่าเสียดายที่หลางจงคิดไม่ถึงว่าสบู่ที่ใช้ขจัดคราบน้ำมันจะทำมาจากน้ำมันหมู
หลังจากค้นคว้ามาหลายวันโดยไม่มีความคืบหน้า หลางจงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม สิ่งล่อใจที่เกิดจากสบู่หอมนั้นรุนแรงเกินไป และนายน้อยเหวินเหยวียนก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้แบบนี้จริง ๆ
หลังจากคิดอยู่สองสามวัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเสี่ยงและปล่อยให้ผู้คุมลักพาตัวถังเสียวเป่ย ก่อนจะนำตัวนางไปขังไว้ชั่วคราว และตอนที่เขาจะเดินทางกลับเมืองหลวง เขาก็ตั้งใจจะพาตัวนางไปด้วย
เมื่อไปถึงเมืองหลวง ถังเสียวเป่ยจะไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขาต้องการเชียวหรือ?
ถึงตอนนั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำสบู่อีกต่อไป
ตามแผนของนายน้อยเหวินเหยวียน ถังเสียวเป่ยและโจวเต๋ออู้มีความขัดแย้งกันเป็นทุนเดิม รวมไปถึงฮูหยินโจวที่พูดคำรุนแรงหลายอย่างใส่นาง การที่ถังเสียวเป่ยหายตัวไป ทุกคนคงสงสัยเพียงตระกูลโจวเท่านั้น แต่จะไม่มีใครสงสัยเขา
อันที่จริง ในตอนแรกเหมือนว่าแผนของเขาจะประสบความสำเร็จเกินคาด เขาให้คนลักพาตัวถังเสียวเป่ยมาได้สำเร็จ และทหารท้องถิ่นก็ไปค้นหาตัวนางที่จวนตระกูลโจว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์