บทที่ 25 โจรภูเขา
หัวหน้าหมู่บ้านแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้กลุ่มหนึ่งออกไปนอกหมู่บ้านเพื่อจัดการฝังศพ และอีกกลุ่มให้นำคนไปลาดตระเวนในหมู่บ้าน
แม้ว่าจางเหลียงจะมีแขนเพียงข้างเดียว แต่เขาก็เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน จึงได้รับมอบหมายให้อยู่ในทีมลาดตระเวน
เมื่อนายพรานเห็นจางเหลียงจ้องมองศพด้วยความตกตะลึง เขาจึงเร่งรัด “เหลียงจื่อ เจ้ามัวแต่งุนงงสิ่งใดอยู่ รีบไป”
“อือ ๆ”
จางเหลียงกลับมาตั้งสติอีกครั้ง และหันไปเห็นว่าจินเฟิงกำลังถูกรายล้อมไปด้วยสตรีในหมู่บ้าน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระงับความรู้สึกไม่สบายใจเอาไว้และติดตามนายพรานไปพร้อมขวาน
“จินเฟิง เจ้าอยากได้คนช่วยเหลือกี่คน?”
“บุตรสาวของข้าเหมาะสมหรือไม่ นางปั่นด้ายได้เร็วมาก ส่วนเรื่องค่าจ้างขอไม่รับ ขอแค่ดูแลเรื่องอาหารก็พอ”
“จินเฟิง แล้วเจ้าจะทำไนปั่นด้ายใหม่เสร็จเมื่อใดหรือ?”
…
บรรดาหญิงสาวตั้งคำถามมากมายกับเขา
พวกนางไม่สนหรอกว่าในบ้านหลังนี้ จะมีคนตายถึงสองคน และเลือดบนพื้นก็ยังไม่แห้งดี
อีกอย่างคนตายก็คือคนตายวันยันค่ำ ส่วนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป
อีกสิบกว่าวันก็จะไม่มีผักป่าให้เก็บแล้ว พวกนางคงจะไม่มีอะไรให้ทำ
การไม่มีงานทำ ก็แปลว่าจะไม่มีรายได้
พวกนางไม่กลัวการทำงานหนัก ไม่กลัวคนตาย แต่กลัวความอดอยาก
สุดท้ายจินเฟิงก็สัญญากับทุกคนว่าเขาจะสร้างไนปั่นด้ายขึ้นมาใหม่โดยเร็วที่สุด และจะพยายามทำให้ทุกคนมีงานทำ ดังนั้นบรรดาหญิงสาวในหมู่บ้านจึงจากไปด้วยความพึงพอใจ
และเพื่อสร้างความประทับใจที่ดีให้กับบัณฑิตหนุ่ม หญิงสาวบางคนแสดงความขยันขันแข็ง ด้วยการนำเสียมนำจอบไปขุดดินมาสองสามเข่งเพื่อกลบคราบเลือดอย่างระมัดระวัง
“สามี มือของเจ้าได้รับบาดเจ็บ เจ้าจะทำไนปั่นด้ายได้อย่างไร”
เมื่อสตรีในหมู่บ้านกลับไปหมดแล้ว กวานเสี่ยวโหรวก็ถามอย่างเป็นกังวล
“ข้าทำไม่ได้ แต่ข้าสามารถขอให้คนอื่นทำได้”
จินเฟิงกล่าว “ช่างไม้ในเมืองนั้นมีฝีมือไม่เลว เราแค่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากเขา”
“ไม่ได้! ห้ามสั่งทำไนปั่นด้ายจากข้างนอก เจ้าต้องเป็นคนทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองเท่านั้น”
ถังตงตงคัดค้านทันที
“ตงตง ตอนนี้ข้าไม่สามารถหยิบจับอะไรได้ ข้าจะให้ผู้ที่มีความสามารถช่วยทำไนปั่นด้าย แค่นี้ไม่ได้เชียวหรือ?”
จินเฟิงกล่าว “หากเจ้าต้องการโค่นตระกูลโจว เจ้าคงไม่คิดจะให้ข้าทำไนปั่นด้ายโดยลำพังหรอกนะ ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าก็จะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอยู่ดี”
“เมื่อเราหาเงินได้ ข้าจะไปในเมืองเพื่อซื้อตัวช่างไม้ แล้วปล่อยให้พวกเขาทำ”
ถังตงตงกล่าว “แต่ก่อนจะซื้อตัวช่างไม้ ไนปั่นด้ายนี้เจ้าต้องเป็นคนทำเท่านั้น”
“สามารถซื้อตัวช่างไม้ได้ด้วยหรือ”
จินเฟิงคิดว่าเขาได้ยินผิด
“แน่นอน ในเมืองมีพ่อค้าคนกลางคอยดูแลเรื่องนี้อยู่ บางคนมีสมาชิกในครอบครัวก่ออาชญากรรมและถูกหน่วยราชการส่งตัวมาขาย หรือบางคนก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องขายตัวเองเพื่อหาเงิน”
ถังตงตงกล่าวต่อ “ช่างไม้นั้นค่อนข้างหายาก ต้องพยายามสอบถามดู น่าจะยังพอหาได้”
จินเฟิงนึกถึงละครย้อนยุคที่ตัวละครต้องขายตัวเองเพื่อหาเงินมาจัดงานศพบิดา
“แล้วช่างไม้ที่ถูกซื้อตัวมาจะไม่เปิดเผยความลับหรือ?”
“มีการลงนามสัญญาซื้อขายชีวิตพวกเขา ชีวิตของพวกเขาจะตกเป็นของเจ้า หากกล้าเปิดเผยความลับ เจ้าหน้าที่จะสั่งฆ่าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น”
ถังตงตงอธิบาย “อย่างไรก็ตาม ช่างไม้ถือเป็นช่างฝีมือและมักจะถูกขายในราคาที่ค่อนข้างสูง อีกอย่างเมื่อซื้อตัวพวกเขามาแล้ว เราก็ต้องจ่ายภาษีให้พวกเขาด้วย เช่นนั้นตอนนี้พวกเรายังซื้อไม่ไหวหรอก”
“ตงตง เอาเช่นนี้ได้หรือไม่..”
จินเฟิงกล่าว “เราจะไม่มอบหมายให้ช่างไม้ทำไนปั่นด้ายทั้งหมด แต่มอบเพียงชิ้นส่วนที่ยุ่งยากให้กับพวกเขา เมื่อพวกเขาทำเสร็จ ข้าจะนำมันกลับมาและประกอบเข้าด้วยกัน นี่จะช่วยประหยัดแรงข้าและความลับของเราก็ไม่รั่วไหล เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
“นั่นเป็นความคิดที่ดี”
ถังตงตงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“เช่นนั้นก็ว่าตามนี้ ไม่กี่วันก่อนข้าได้ทำชิ้นส่วนที่ค่อนข้างซับซ้อนเอาไว้ เสี่ยวโหรว ตอนรุ่งสางเจ้าไปหาพี่เหลียงหน่อย รบกวนเขาให้นำชิ้นส่วนเหล่านี้ไปให้ช่างไม้ในเมือง”
“ได้”
แต่กวานเสี่ยวโหรวไม่ทันได้ไปหาเขา เพราะหลังจากการลาดตระเวนสิ้นสุดลง จางเหลียงก็เดินทางมาหาจินเฟิงด้วยตัวเอง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์