บทที่ 298 ต้องครอบครองเฮยสุ่ยโกว (รีไรท์)
“ใช่แล้ว หินและดินบนเนินเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้งเป็นสีดำ เมื่อลมพัดจึงมีฝุ่นสีดำลอยมา”
เอ้อร์ขุยพูดอย่างช่วยไม่ได้ “น้ำในคูน้ำตรงนั้นก็เป็นสีดำเช่นกัน เราไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว”
“หินที่อยู่บนภูเขาเป็นเช่นนี้หรือไม่?”
จู่ ๆ จินเฟิงก็หยิบหินขนาดเท่าวอลนัทขึ้นมาจากพื้นดินแล้วถาม
“ใช่แล้ว เป็นเช่นนี้เลย”
เอ้อร์ขุยเอ่ยว่า “นี่คือหินที่พี่เหลียงขอให้เราขุดบนภูเขาเพื่อใช้กับเครื่องเหวี่ยงหิน ไม่รู้ว่ามันมาตกอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ท่านอาจารย์ส่งมันให้ข้าเถิด ข้าจะได้นำไปทิ้ง”
“ห้ามทิ้งเชียว นี่คือของล้ำค่า!”
จินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เฮยสุ่ยโกว ที่แท้ก็คือเฮยสุ่ยโกวนี่เอง”
“ท่านอาจารย์?”
เอ้อร์ขุยมองดูจินเฟิงอย่างเป็นกังวล
หรือว่าท่านอาจารย์จะกลัวพวกโจรจนเพี้ยนไปแล้ว?
เขากำลังถือหินสกปรกแล้วบอกว่าเป็นของล้ำค่าอย่างนั้นหรือ?
ไม่เพียงแต่เอ้อร์ขุยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกวานเสี่ยวโหรวที่กำลังประคองถังเสียวเป่ยให้เดินเข้ามาในห้องพักด้วย นางรู้สึกว่าจินเฟิงมีบางอย่างผิดปกติ
แต่เมื่อดูจากการแสดงออกของสามีแล้ว พฤติกรรมของเขาก็ไม่ได้ดูผิดแผก นางจึงเอ่ยถาม “สามี สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”
“ที่ใดที่ปรากฏหินชนิดนี้และขุดลึกลงไปชั้นล่าง ที่นั่นจะมีถ่านหิน!”
จินเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น “และที่น้ำในคูเป็นสีดำ หมายความว่ามันอาจถูกย้อมเพราะถ่านหินอย่างไรเล่า”
เนินเขาที่เอ้อร์ขุยเพิ่งพูดถึงน่าจะเป็นเหมืองถ่านหินแบบตื้นหรืออาจเป็นเหมืองถ่านหินแบบเปิด หลังจากน้ำฝนไหลลงมาก็จะรวมตัวกันในแม่น้ำสายเล็กที่เชิงเขา น้ำในแม่น้ำจึงเปลี่ยนเป็นสีดำตามธรรมชาติ
“ถ่านหิน?”
กวานเสี่ยวโหรวและถังเสียวเป่ยต่างก็ตกตะลึง
พวกนางรู้ว่าจินเฟิงกำลังมองหาถ่านหิน
เพียงแต่ในต้าคังยังไม่ได้ขุดและใช้ทรัพยากรถ่านหินในวงกว้าง ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องการจึงจำเป็นต้องไปหาซื้อในที่ห่างไกล
เกวียนที่ขนถ่านหินมายังซีเหอวานถือว่ามีราคาแพงกว่าถ่านไม้หลายเท่า
แต่ถึงอย่างนั้น จินเฟิงก็ยังคงเพิ่มปริมาณถ่านหินที่ซื้อ
หากมีถ่านหินในเฮยสุ่ยโกว เราก็จะสามารถประหยัดเงินในอนาคตได้มาก
“เนินที่เจ้าพูดถึงนั้นอยู่ที่ใด? พาข้าไปดูเร็วเข้า!”
จินเฟิงตื่นเต้นมากจนไม่มีเวลาดูแลกวานเสี่ยวโหรวและถังเสียวเป่ย เขาสั่งให้เอ้อร์ขุยนำทางไป
เอ้อร์ขุยไม่มีทางเลือกนอกจากพาจินเฟิงไปที่เนินเขาพร้อมคบเพลิง
จินเฟิงหยิบคบเพลิงและไม่สนใจว่ามันจะสกปรกหรือไม่ ชายหนุ่มส่องไฟลงที่พื้นพร้อมสังเกตอย่างละเอียด
หลังจากจ้องไปที่พื้นนานกว่าสิบนาที จินเฟิงก็ลุกขึ้นอีกครั้ง
ในเวลานี้ ทั้งมือ ใบหน้า และเสื้อผ้าของเขาสกปรกไปหมด
แต่รอยยิ้มที่ตื่นเต้นกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบัณฑิตหนุ่ม
เขายืนยันว่าเนินเขาแห่งนี้เป็นเหมืองถ่านหินแน่นอน อีกทั้งคุณภาพของถ่านหินก็ดีมาก
โรงงานหลอมเหล็กไม่เคยมีการพัฒนาเลย สาเหตุส่วนใหญ่คือการขาดแคลนถ่านหิน
หากมีเหมืองถ่านหินแห่งนี้ จินเฟิงก็ไม่ต้องกังวลเรื่องถ่านหินอีกต่อไปอย่างน้อยสองสามปี
และไม่กี่ปีจากนี้เขาเองยังไม่รู้ว่าหอการค้าจินชวนและสำนักคุ้มกันภัยเจิ้นเหยวี่ยนจะพัฒนาไปอย่างไร
“เอ้อร์ขุย เหตุใดเจ้าจึงพาท่านอาจารย์ไปสถานที่สกปรกเช่นนี้ตอนกลางดึก”
หลังจากที่จางเหลียงจัดการสิ่งต่าง ๆ เสร็จ เขาก็ไปที่ห้องพักใต้หอสังเกตการณ์ ก่อนจะพบว่าจินเฟิงมาที่เฮยซานหรือเขาสีดำดังนั้นจึงรีบมองสำรวจจินเฟิงทันที
“พี่เหลียง อย่าโทษเขาเลย ข้าเป็นคนขอให้เขาพามาเอง”
การค้นพบเหมืองถ่านหินได้ขจัดความวิตกกังวลมากมายในใจของจินเฟิง ชายหนุ่มจึงอธิบายด้วยรอยยิ้ม “อีกอย่าง แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะสกปรก แต่ก็มีสมบัติล้ำค่าที่ฝังอยู่ใต้ดิน”
“สมบัติล้ำค่าหรือ?”
“มันคือถ่านหิน!”
“ท่านอาจารย์มองผิดหรือไม่?” จางเหลียงกล่าว “หอสังเกตการณ์บนกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างจากหินประเภทเดียวกัน หากมันทำจากถ่านหิน คงจะถูกเผาไปนานแล้ว”
“แน่นอนว่าหินประเภทนี้ไม่สามารถเผาได้ แต่ตราบใดที่ชั้นหินนี้ถูกขุดออกมาจะมีถ่านหินอยู่ข้างใต้”
จินเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ
สามารถกล่าวได้ว่าถ่านหินเป็นรากฐานของอุตสาหกรรม ในชีวิตที่แล้วเขาเคยเรียนเรื่องนี้เป็นวิชาเลือก ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะมองผิดพลาดอย่างแน่นอน
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ!”
จางเหลียงเองก็ประหลาดใจเช่นกัน “เช่นนั้น เราต้องครอบครองเฮยสุ่ยโกวให้ได้!”
นอกจากนี้เขายังเคยได้ยินหม่านชางพูดว่าจินเฟิงใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อถ่านหินและมันก็ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ
ทั้งสองพูดคุยกันสักพักบนเขาเฮยซานและกำลังจะกลับลงมา ทว่าทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงกีบม้าแผ่วเบาแว่วมาแต่ไกล

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์