เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 38

บทที่ 38 แผนการของชิ่งไหว

เสี่ยวเอ๋อกลืนน้ำลาย นางไม่ได้ไปรับขาแกะมาทันทีแต่หันไปมองจินเฟิงแทน

เมื่อเห็นบัณฑิตหนุ่มพยักหน้า เด็กหญิงก็รีบเข้าไปรับขาแกะแล้วส่งหน้าไม้ให้ชิ่งไหว

ชิ่งไหวหยิบหน้าไม้ขึ้นมาและมองมันอย่างพิเคราะห์ จากนั้นก็ลองหมุนรอกกว้านเพื่อขึ้นสายธนู ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปกว่าสี่ฉื่อ

ปัก!

ลูกธนูพุ่งออกไปและปักเข้าที่เป้าหมายอย่างจัง

ลูกธนูฝังลงในเปลือกไม้จนมิดหัว ขณะที่หางของมันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงหึ่ง ๆ คลอเบา ๆ

ชิ่งไหวหมุนรอกกว้านอีกครั้ง จากนั้นก็ยิงออกไปอีกรอบ

ฉึก! ฉึก! ฉึก!

มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้นสามครั้งติดต่อกัน จากนั้นลูกธนูอีกสามดอกก็ปรากฏขึ้นบนต้นไม้

“ทักษะการยิ่งของท่านช่างยอดเยี่ยม!”

จินเฟิงปรบมืออย่างเต็มแรง

ลูกธนูสี่ดอกปักเข้ากับต้นไม้อย่างสวยงาม ช่องไฟของลูกธนูแต่ละดอกวัดจากบนลงล่างเท่ากันแบบเป๊ะ ๆ

“ดีมาก!”

ชิ่งไหวยังคงชื่นชมหน้าไม้ในมือของเขา “ข้าไม่เคยเห็นคันศรเช่นนี้มาก่อน ท่านนักรบไปเอามันมาจากที่ใดหรือ?”

“พ่อของข้าน้อยเป็นช่างฝีมือ ข้าคลุกคลีอยู่กับเขาและเรียนรู้วิชามาบ้าง หน้าไม้เหล่านี้ข้าเป็นคนทำขึ้นมาด้วยตัวเอง”

จินเฟิงอธิบาย

“ที่แท้ท่านอาจารย์ไม่เพียงแต่เป็นวีรบุรุษปราบเสือเท่านั้น แต่ยังเป็นช่างฝีมือระดับปรมาจารย์อีกด้วย ข้าขอแสดงความเคารพ”

ชิ่งไหวยกมือขึ้นคำนับเป็นครั้งแรกเพื่อแสดงความเคารพ ตำแหน่งของจินเฟิงเปลี่ยนจากนักรบเป็นท่านอาจารย์ทันที

ท่านโหวเริ่มสนใจบัณฑิตหนุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ภายนอกอีกฝ่ายดูผ่ายผอมและอ่อนแอ ทั้งยังถ่อมตนเรียกตัวเองว่าข้าน้อยทั้งที่เป็นถึงบัณฑิต มากไปกว่านั้นยังสามารถยิงเสือและสร้างหน้าไม้ที่ทรงพลังได้อีก…

“ข้าไม่กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์หรอกขอรับ นี่คือทักษะอันน้อยนิดที่ข้าน้อยพอมีติดตัวเท่านั้น”

จินเฟิงไม่ชอบวิธีพูดของคนโบราณมากนัก หากมีอะไรก็ควรจะกล่าวกันอย่างตรงไปตรงมา? ไม่ต้องมาคอยสำรวมกิริยาให้สุภาพเช่นนี้

แต่เขาก็ทำได้เพียงบ่นอยู่ในใจ

หากจินเฟิงวางแขนโอบไหล่ของชิ่งไหวและเรียกอีกฝ่ายว่าน้องชาย เกรงว่าจะถูกองครักษ์ที่อยู่ข้างหลังท่านโหวหนุ่มปลิดชีพในอีกลมหายใจถัดไปเสียก่อน

การเข้าเมืองตาหลิ่วแล้วหลิ่วตาตาม เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้อายุยืนยาวขึ้นได้

ในยุคสมัยที่ชีวิตมนุษย์ไม่ได้มีค่ามากนัก จินเฟิงว่าการไหลไปตามกระแส ไม่ทำตัวเป็นไม้ใหญ่ขวางทางลมเป็นการดีที่สุด

“ท่านอาจารย์เป็นคนถ่อมตัวนัก!”

ชิ่งไหวส่งสัญญาณให้องครักษ์เอาลูกธนูลงมาจากต้นไม้ จากนั้นเขาก็พลิกหน้าไม้ในมือแล้วเอ่ย “เดิมทีหน้าไม้มีพลังมหาศาล แต่ก็ยากที่จะขึ้นสาย อีกทั้งความเร็วในการเติมลูกธนูก็ช้าเกินไป ทว่าท่านอาจารย์ได้พัฒนามันจนทั้งสองปัญหาได้รับการแก้ไขเรียบร้อย นี่นับว่าน่าชื่นชมยิ่งนัก!”

น่าเสียดายที่การผลิตหน้าไม้ต้องใช้ไม้และเชือกที่มีคุณภาพสูงจึงไม่สามารถผลิตได้คราวละมาก ๆ ไม่เช่นนั้นกองทัพของเราก็จะมีอาวุธที่ร้ายกาจเพิ่มขึ้นอีกประเภทอย่างแน่นอน

หน้าไม้แบบดั้งเดิมจำเป็นต้องใช้ความยืดหยุ่นของตัวเชือกบนคันหน้าไม้ในการช่วยส่งลูกธนู ไม้และสายเชือกจึงเป็นวัสดุสำคัญที่พวกเขาต้องการ

แต่ตราบใดที่มีวัสดุเหล็กที่เหมาะสม ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่มีอีกต่อไป กองทัพจะสามารถผลิตหน้าไม้เป็นจำนวนมาก

เมื่อได้ยินชิ่งไหวพูดเช่นนั้น จินเฟิงเลือกที่จะไม่ถามถึงปัญหา เขาเพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วย

“ท่านอาจารย์ ท่านสังหารเสือด้วยหน้าไม้นี้หรือ?”

“ใช่ขอรับ”

จินเฟิงพยักหน้าและยอมรับ

ความผิดหวังฉายผ่านดวงตาของชิ่งไหวอย่างห้ามไม่ได้

ตอนเห็นร่างไร้วิญญาณของเสือตัวยักษ์ เขาคิดว่าตนได้พบกับปรมาจารย์ด้านการยิงธนูเข้าแล้ว แต่ตอนนี้ท่านโหวหนุ่มรู้แล้วว่าจินเฟิงพึ่งพาพลังจากสิ่งที่เรียกว่าหน้าไม้

ในมุมมองของชิ่งไหว แม้หน้าไม้ที่ผ่านการดัดแปลงของจินเฟิงจะสามารถเอาชนะปัญหาการขึ้นสายและเติมลูกธนูได้ แต่เวลาที่ใช้ในการยิงก็ยังช้าเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับธนูยาว

คันธนูยาวสามารถยิงออกไปได้ผ่านการดึงเชือกและปล่อยลูกธนูเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นปรมาจารย์ที่แท้จริงก็สามารถยิงธนูได้มากกว่าหนึ่งโหลในคราวเดียว

แต่หน้าไม้ที่ออกแบบใหม่โดยจินเฟิง ต้องหมุนรอกกว้านหลายครั้งก่อนจะทำการยิงออกไป ชิ่งไหวรู้สึกว่านั่นต้องใช้แรงไม่น้อย

พวกเขาทุกคนรู้ภูมิหลังของจงอู่เป็นอย่างดี อีกฝ่ายถูกเลี้ยงดูโดยมารดาที่มีอาชีพปั่นด้ายทอผ้าตั้งแต่ยังเป็นเด็กจึงมีความรักความผูกพันเป็นพิเศษต่อไนปั่นด้าย

จงอู่ยืนขึ้นหลังจากลองปั่นด้ายดูสักพัก

“ไนปั่นด้ายนี้ใช้งานง่ายมาก มันเร็วกว่าไนปั่นด้ายที่ข้าเคยเห็นถึงห้าหรือหกเท่า หากท่านแม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่ นางคงดีใจมากที่ได้เห็นไนปั่นด้ายที่ดีเช่นนี้”

ดวงตาของชายร่างใหญ่ที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าแดงขึ้นเมื่อพูดถึงมารดาอันเป็นที่รัก

ในความทรงจำ ท่านแม่ของเขามักจะปั่นด้ายอยู่ตลอดทั้งยามกลางวันและกลางคืน แต่เงินที่นางหามานั้นไม่เคยพอเลี้ยงปากท้อง เขาและมารดาจึงมักจะเผชิญกับความอดอยากอยู่เสมอ

หากในตอนนั้นมีไนปั่นด้ายเช่นนี้อยู่ ท่านแม่คงไม่ต้องเหนื่อยอย่างที่เคยใช่หรือไม่?

“ความเร็วของไนปั่นด้ายนี้เร็วกว่าไนปั่นด้ายอื่น ๆ ห้าหรือหกเท่าหรือ?”

หลังจากฟังคำพูดของจงอู่ ชิ่งไหวก็เริ่มสนใจเจ้าไนปั่นด้ายทันที

ในฐานะขุนนาง การศึกษาของเขาอยู่ไกลเกินกว่าองครักษ์อย่างจงอู่

ท่านโหวหนุ่มรู้ทันทีว่าการเพิ่มความเร็วในการหมุนสี่ห้าเท่านั้นหมายความว่าอย่างไร

อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และการคมนาคมขนส่ง เป็นสิ่งจำเป็น ไม่มีใครสามารถอยู่ได้โดยปราศจากสิ่งเหล่านี้

และเครื่องนุ่งห่มก็เป็นอันดับแรกที่เราสามารถจินตนาการถึงความสำคัญของมันได้

ชิ่งไหวตระหนักได้ทันทีว่า ไนปั่นด้ายนี้สามารถนำมาซึ่งความมั่งคั่งได้ขนาดไหน

“ท่านอาจารย์ ท่านทำวงล้อหมุนนี้ด้วยตัวเองหรือ?”

ชิ่งไหวถาม

“ถูกแล้วขอรับ”

สมองของจินเฟิงทำงานอย่างรวดเร็ว บัณฑิตหนุ่มรีบพยักหน้าทันที

ทว่าใบหน้าของถังตงตงเริ่มบึ้งตึง

เพราะพวกเขาพอจะเดาได้ถึงแผนการของชายสูงศักดิ์ตรงหน้า

ประโยคถัดมาของชิ่งไหวถามว่า “ข้าคิดว่าไนปั่นด้ายแบบนี้น่าสนใจทีเดียว ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์สามารถมอบมันให้ข้าได้หรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์