บทที่ 45 ดูแลเรื่องอาหาร
ชิ่งไหวหวนคิดถึงกองทัพเถี่ยหลินที่อยู่ในหัวใจของเขามาโดยตลอด ท่านโหวหนุ่มรีบลงจากเขาและไปที่บ้านพักทันที เขาเขียนหนังสือถึงชิ่งกั๋วกงผู้เป็นบิดาเพื่อขออำนาจการควบคุมกองทัพเถี่ยหลินกลับคืนมา
เดิมทีเขาอยากจะเขียนลงไปด้วยว่าค้นพบวิธีจัดการกับกองทหารม้าแล้ว แต่เมื่อนึกคำพูดของจินเฟิง เขาก็ตัดสินใจไม่เขียนมันลงไป
“เจิ้งฟาง หลิวฉยง พวกเจ้าทั้งสองขี่ม้าออกไปส่งจดหมายฉบับนี้ที่เปี้ยนจิงโดยเร็วที่สุด”
ชิ่งไหวยื่นจดหมายพร้อมประทับครั่งประจำตระกูลจากนั้นก็ส่งให้องครักษ์
“ท่านโหว แล้วคำสั่งโยกย้ายจะได้รับการตอบกลับเมื่อใดหรือ?”
จินเฟิงมองตามหลังองครักษ์ที่ออกเดินทางไปแล้ว ก่อนจะเอ่ยปากถามชิ่งไหว
“จากที่นี่เดินทางไปเปี้ยนจิง ไปกลับใช้เวลาเกินยี่สิบวัน หากทุกอย่างราบรื่นก็อาจจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน แต่หากมีใครเข้ามาขัดขวาง… ก็ยากที่จะคาดเดา” ชิ่งไหวตอบ
“จะมีใครมาขัดขวางเขาได้ล่ะ นอกเสียจากคุณชายใหญ่และคุณชายรอง?”
จงอู่พึมพำเบา ๆ
“หุบปาก”
ท่านโหวหนุ่มตำหนิพลางลอบถอนหายใจออกมา
ชิ่งกั๋วกงบิดาของเขาเป็นอดีตแม่ทัพ เขามีเส้นสายทางการทหารอยู่ทั่ว ฉะนั้นการขออำนาจทางทหารของกองทัพเถี่ยหลินคืนให้กับบุตรชายคงจะไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่น่ากังวลคือพี่ใหญ่และพี่รองของเขาเท่านั้น
“ข้าขอตัวไปนอนก่อน หลังจากซื้อของกลับมาแล้วค่อยเรียกข้า”
เมื่อเห็นว่าชิ่งไหวไม่ได้มีท่าทีอะไรเพิ่มเติม จินเฟิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงพร้อมกับโบกมือและขอตัวกลับห้องไปนอนพักผ่อน
หลังจากที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืน ชายหนุ่มก็พักผ่อนอย่างเต็มที่จนเวลาล่วงเลยมื้อกลางวัน สุดท้ายเขาก็ตื่นขึ้น
ทันทีที่ลืมตา เขาก็เห็นกวานเสี่ยวโหรวนั่งเย็บผ้าอยู่ข้างเตียง
ตั้งแต่แต่งงานกันมา เสี่ยวโหรวก็มัวยุ่งอยู่กับเรื่องอื่นจนไม่มีเวลาตัดเสื้อผ้า เสื้อผ้าสำเร็จรูปก็หาซื้อไม่ได้ จนถึงตอนนี้นางและจินเฟิงจึงยังคงสวมใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะอยู่
หากเป็นเมื่อก่อนเสี่ยวโหรวคงไม่คิดอะไรมาก เพราะชาวบ้านในซีเหอวานล้วนมีรอยปะบนเสื้อผ้าเป็นเรื่องปกติจึงไม่มีใครหัวเราะเยาะใครได้
ทว่าเมื่อชิ่งไหวมาเยือนที่นี่ ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าของเขาดูสะอาดและเรียบร้อยอยู่เสมอ ทำให้จินเฟิงดูโทรมเมื่อยืนอยู่เคียงข้างเขา
เมื่อกวานเสี่ยวโหรวเห็นดังนั้น นางก็อุทิศเวลาของตนสำหรับทำเสื้อผ้าใหม่ให้สามี
“สามี เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
นางรู้ว่าจินเฟิงชอบดื่มน้ำหลังตื่นนอนจึงรีบวางงานในมือลงแล้วส่งถ้วยน้ำให้เขา
น้ำในถ้วยนี้นางจะเปลี่ยนทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง เพื่อรักษาความร้อนและความเย็นให้พอดีอยู่เสมอ
“สามี เจ้ามาลองสวมเสื้อผ้าดูสิว่าใส่พอดีหรือไม่ หากหลวมหรือคับไปข้าจะได้ปรับแก้”
กวานเสี่ยวโหรวรับถ้วยน้ำกลับมา จากนั้นก็นำเสื้อผ้าที่เพิ่งตัดเย็บช่วยสวมใส่ให้จินเฟิง
“หืม ตรงช่วงไหล่เหลือเยอะเลย? ส่วนช่วงเอวก็เหมือนจะหลวม…”
นี่เป็นครั้งแรกที่กวานเสี่ยวโหรวตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเอง และผลงานที่นางทำออกมานั้นก็ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ช่วงไหล่และช่วงเอวหลวมเกินไป นอกจากนี้แขนเสื้อทั้งสองข้างก็ยาวไม่เท่ากันด้วย
“สามี เจ้ารีบถอดออกมาเถิด”
กวานเสี่ยวโหรวรู้สึกเสียหน้าที่ตัดเสื้อผ้าออกมาได้ไม่ดี นางวิตกกังวลจนอดไม่ได้ที่จะมีน้ำตา “สามี ข้าผู้นี้ไม่ได้เรื่อง แม้แต่เสื้อผ้าแค่ตัวเดียวข้าก็ทำไม่สำเร็จ…”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัดเย็บเสื้อผ้า แค่นี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากแล้ว หากเป็นข้าทำมีหวังได้ทำแขนเสื้อออกมาสามข้างเป็นแน่”
จินเฟิงกอดภรรยาเอาไว้ในอ้อมแขน “ไม่ต้องร้อง หากผิดพลาดก็แก้ไขได้มิใช่หรือ?”
“แล้วเจ้าจะใส่อะไร?”
“หากไม่มีเสื้อตัวนี้ของเจ้า ก็ใช่ว่าข้าจะต้องเปลือยกายเสียหน่อย”
“แต่ว่าเสื้อที่เจ้าสวมใส่มันมีรอยปะ”
“มีรอยปะแล้วทำไมเล่า? เสื้อผ้าของทุกคนก็มีเหมือนกัน ดูสิ เสื้อผ้าของเจ้ามีรอยปะมากกว่าข้าเสียอีก”
จินเฟิงยกยิ้มและชี้ไปที่เสื้อผ้าของกวานเสี่ยวโหรว
“สามีเป็นบัณฑิต หากใครมาเห็นว่าเจ้าสวมใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะสนทนากับท่านโหว ข้าไม่สบายใจนัก”
ไก่ฟ้าถูกตุ๋นมาเป็นวัน เนื้อไก่จึงเปื่อยจนหลุดออกจากกระดูกอย่างง่ายดาย เมื่อยกฝาหม้อขึ้น กลิ่นหอมน่าอร่อยชวนให้อยากอาหารก็ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ
เขารับข้าวสวยมาจากมือรุ่นเหนียง เตรียมจะเทน้ำตุ๋นเนื้อไก่ลงไปหนึ่งกระบวยเพื่อกินกับผักที่สดกรอบ
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะกิน จงอู่ก็เดินเข้ามาพร้อมชะโงกหน้าดูอาหารในชามเล็ก ๆ พลางแอบกลืนน้ำลาย “ท่านอาจารย์ ผู้ดูแลกลับมาแล้ว ท่านโหวให้ข้ามาถามว่าจะให้นำสิ่งของเหล่านั้นไปไว้ที่ใด?”
“หาซื้อของที่ข้าต้องการได้หมดแล้วหรือ?”
จินเฟิงขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม
ระยะทางจากซีเหอวานไปยังตัวอำเภอไม่ไกลนัก จางเหลียงเองก็มักจะออกเดินทางตั้งแต่รุ่งสาง ถ้ากลับมาทันอาหารเย็น นั่นก็ถือว่าทำเวลาได้ดีแล้ว
หลายครั้งที่เขาต้องขนของมากมายและกลับมาถึงตอนดึกดื่น
แต่ผู้ดูแลออกไปตอนยามเฉิน นี่เพิ่งจะช่วงบ่ายเท่านั้นเอง เขากลับมาแล้วหรือ?
อย่าบอกนะว่าเขาหาซื้อของเหล่านั้นไม่ได้?
“ท่านอาจารย์วางใจเถิด ผู้ดูแลแจ้งว่านอกจากถ่านหิน ของอื่น ๆ ล้วนหาซื้อได้หมด”
จงอู่กล่าว “ที่จินชวนไม่มีถ่านหิน ต้องไปหาซื้อมันที่ฮั่นจง ผู้ดูแลได้ส่งคนไปที่นั่นแล้ว อย่างเร็วที่สุดพรุ่งนี้ก็น่าจะหากลับมาได้”
“ดีจริง ๆ”
จินเฟิงเอ่ย “ผู้ดูแลท่านนี้ทำงานได้ว่องไวนัก”
“เพราะเขารู้ว่าท่านอาจารย์รีบใช้จึงขี่ม้าเร็วไปกลับเพื่อเร่งหาของให้ท่าน”
“ไม่แปลกใจเลย”
บัณฑิตหนุ่มเข้าใจได้ในทันที
โดยปกติแล้วจางเหลียงจะเดินทางไปยังตัวอำเภอพร้อมกับรถเข็น ทว่าผู้ดูแลนั้นขี่ม้าไปกลับ ความเร็วจึงแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
“ที่บ้านของข้าไม่มีที่ให้วางของแล้ว ตอนนี้มีด้ายป่านมากเกินไป ข้ารบกวนฝากของไว้ที่พวกท่านก่อน”
จินเฟิงรีบกินข้าวที่เหลือ “ไปเถอะ ข้าจะไปพร้อมเจ้า”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์