เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 5

บทที่ 5 คืนวันวิวาห์

“กินสิ ทำไมไม่กินล่ะ?”

จินเฟิงชี้ไปที่ถ้วยข้าว

“ข้าอิ่มแล้ว”

กวานเสี่ยวโหรวตอบเขาเสียงแผ่วเบา

จินเฟิงอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงคำพูดของนางเมื่อเช้า “…ข้าทอผ้าได้ อีกทั้งยังกินน้อย…”

ด้วยความเป็นห่วง เขาหยิบถ้วยเปล่าของนางมาตักโจ๊กข้าวสาลีใส่จนเต็ม จากนั้นก็วางไว้ตรงหน้าของกวานเสี่ยวโหรว

“ข้าอิ่มแล้วจริง ๆ”

“กินให้หมด!”

คำสั่งของจินเฟิงหยุดคำพูดของกวานเสี่ยวโหรวได้ทันที จากนั้นนางก็ตอบเขาด้วยน้ำเสียงหวั่น ๆ

“…ก็ได้”

กวานเสี่ยวโหรวกลัวจินเฟิงจึงหยิบถ้วยข้าวขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง

จินเฟิงจึงเริ่มขยับตะเกียบแล้วคีบผักใส่ถ้วยของนาง “มากินด้วยกันเถิด!”

กวานเสี่ยวโหรวส่งเสียงตอบรับในลำคอ แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง

ในขณะที่นางกิน น้ำตาของนางก็ไหลอาบเต็มสองข้างแก้ม

“เจ้าไม่ต้องร้อง”

จินเฟิงตื่นตระหนกทันที “ข้าขอโทษนะ ข้าไม่ควรขึ้นเสียงใส่เจ้า เจ้าอย่าร้องไห้เลย…”

“สา… สามีไม่ต้องกล่าวเช่นนั้นหรอก เจ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว เจ้าจะทุบตีหรือดุด่าข้าย่อมเป็นเรื่องที่สมควร”

กวานเสี่ยวโหรวสะอึกสะอื้นและเอ่ย “ที่ข้าร้องไห้ เป็นเพราะตั้งแต่ข้าจำความได้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกให้กินข้าวให้มากหน่อย… อีกทั้งยังเป็นข้าวสาลีที่มีราคาสูงอีก…”

“เด็กโง่ หลังจากนี้ชีวิตเราจะดีขึ้นเรื่อย ๆ นะ”

จินเฟิงถอนหายใจพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบศีรษะกวานเสี่ยวโหรว “ไม่ต้องร้องแล้ว กินข้าวเยอะ ๆ”

สำหรับคนรุ่นหลัง การลูบศีรษะสามารถทลายกำแพงในใจของผู้คนได้ไม่น้อย นับประสาอะไรกับคนที่อยู่ในยุคศักดินาล้าหลังแบบนี้?

กวานเสี่ยโหรวรู้สึกชาที่ศีรษะเมื่อถูกเขาลูบ ราวกับว่ามีกระแสน้ำอุ่นกำลังหลั่งไหลเข้าสู่หัวใจของนาง การกระทำนี้ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ น้ำตาของนางเลยยิ่งไหลออกมามากขึ้น…

จินเฟิงกังวลว่าหากเขายังปลอบนางต่อไป คงกินอาหารมื้อนี้ไม่เสร็จสิ้น เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากทำเป็นไม่เห็นและก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

โชคดีที่กวานเสี่ยวโหรวสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว นางเช็ดน้ำตาของตัวเอง จากนั้นก็ลงมือกินข้าวเช่นกัน

หลังจากที่ล้างจานเสร็จ ทั้งสองก็นั่งหันหน้าเข้าหากันภายใต้แสงไฟสลัว บรรยากาศแบบนี้เป็นเหตุให้ทั้งคู่กระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก

กวานเสี่ยวโหรวก้มศีรษะลง มือทั้งสองของนางกุมชายเสื้อตัวเองไว้โดยไม่รู้ตัว ใบหน้างดงามของนางแดงก่ำและร่างกายก็สั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

สองปีก่อนตอนที่นางเข้าร่วมขบวนส่งตัวเจ้าสาวเป็นครั้งแรก แม่ของนางก็เคยเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในคืนวิวาห์…

จินเฟิงรู้ว่ากวานเสี่ยวโหรวรู้สึกประหม่า เขาเองก็พยายามหาเรื่องมาพูดคุยเพื่อทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น ในจังหวะนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงกุกกักดังมาจากด้านนอก

“ใครน่ะ?”

จินเฟิงเดินไปเปิดประตู

“ลิงยักษ์จินเฟิงออกมาแล้ว วิ่งเร็ว”

เด็กกลุ่มหนึ่งต่างก็วิ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ

ที่แท้ก็เป็นเด็กกลุ่มนี้นี่เองที่มาแอบฟังพวกเขาอยู่ที่กำแพง นี่ก็ถือว่าเป็นประเพณีในซีเหอวานเช่นเดียวกัน

“เด็กเหล่านั้นยังไม่ได้หนีไปไหนไกล คาดว่าอีกสักพักพวกเขาต้องย้อนกลับมาเป็นแน่” จินเฟิงชี้ไปที่โรงตีเหล็ก “เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ข้าจะไปที่โรงตีเหล็กเพื่อจัดข้าวของเสียหน่อย”

จินเฟิงไม่ใช่พระอิฐพระปูน มีหญิงสาวมานั่งอยู่ตรงกันข้ามแบบนี้ จิตใจของเขาก็สั่นไหวเหมือนกัน

ทว่าบ้านที่ทรุดโทรมหลังนี้ดันมีรอยรั่วจากทั่วทิศทาง หากมีคนมาแอบฟังที่ผนังจริง ๆ นั่นจะไม่เป็นการเล่นหนังสดเหรอ?

อีกอย่าง เขามองออกว่ากวานเสี่ยวโหรวผู้นี้ยังไม่พร้อม

“อย่างไรเสียเราก็แต่งงานกันแล้ว ยังมีเวลาอีกมาก จะช้าจะเร็วยังไงนางก็ต้องเป็นของเขา ไม่ต้องรีบร้อน นาทีนี้ต้องแก้ปัญหาเพื่อความอยู่รอดก่อน”

จินเฟิงปลอบใจตัวเอง จากนั้นเขาก็พุ่งความสนใจไปที่การทำหน้าไม้

แน่นอนว่าเด็กตัวแสบเหล่านั้นกลับมาอีกสองครั้งและส่งเสียงดังจนถึงกลางดึก

บทที่ 5 คืนวันวิวาห์ 1

บทที่ 5 คืนวันวิวาห์ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์