บทที่ 53 ความเสียใจของกวานเสี่ยวโหรว
แม้ถังตงตงจะเตรียมใจมานานแล้วว่าจะแต่งงานกับจินเฟิง แต่เมื่อพบว่าห้องนี้มีเตียงนอนเพียงหลังเดียวก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”
จินเฟิงเองก็ทำหน้าไม่ถูก เขากำลังจะหันกลับไปเรียกหลิวเสิ่น แต่ถูกกวานเสี่ยวโหรวคว้าแขนเสื้อเอาไว้ก่อน
“สามี… นอนเบียด ๆ กันก็ได้”
“นอนเบียดอะไรกัน เรื่องแบบนั้นควรเป็นเรื่องระหว่างข้ากับเจ้ามิใช่หรือ?”
บัณฑิตหนุ่มกล่าวด้วยอารมณ์โกรธ
“เรื่องนี้ก็แล้วแต่เจ้าตัดสินใจว่าอยากจะใกล้ชิดกับใคร”
“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว ไว้ข้ากลับมาก่อน เจ้าโดนแน่!”
จินเฟิงเขกเข้าที่ศีรษะของกวานเสี่ยวโหรวเบา ๆ ก่อนจะรีบวิ่งตามหลิวเสิ่นออกไป
กวานเสี่ยวโหรวหดคอและแลบลิ้นเล็กของนางออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าจินเฟิงออกไปแล้ว นางก็พูดขึ้นเสียงเข้ม “ตงตง ตอนอยู่ที่บ้านเราตกลงกันแล้วมิใช่หรือ เหตุใดเจ้าถึงได้ทำตัวโง่เขลานัก?”
“…”
ถังตงตงยืนกุมชายเสื้อของนางแน่นโดยไม่ตอบโต้อะไร
“เจ้านี่นะ!”
กวานเสี่ยวโหรวกระทืบเท้าอย่างหมดหนทาง พลางรู้สึกเสียดาย
เกือบจะสำเร็จแล้วเชียว…
“หลิวเสิ่น เหตุใดท่านเตรียมห้องให้เราแค่ห้องเดียวล่ะ?”
จินเฟิงไล่ตามหลิวเสิ่นและถามนาง พร้อมยิ้มออกมาเจื่อน ๆ
“หืม?”
เห็นได้ชัดว่าหลิวเสิ่นเข้าใจบัณฑิตหนุ่มผิด “คุณชาย เตียงที่เตรียมเอาไว้เล็กไปงั้นหรือ?”
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว หญิงที่สวมกระโปรงสีฟ้าไม่ใช่ภรรยาของข้า”
“ข้ารู้ นางคืออนุภรรยาของท่าน”
ทันใดนั้น หลิวเสิ่นก็ตระหนักได้ทันที “หรือฮูหยินไม่เต็มใจที่จะนอนร่วมกับอนุภรรยาของท่าน?”
ในหมู่บ้านของพวกนาง ไม่ว่าสามีจะมีภรรยากี่คน ทุกคนล้วนนอนรวมกันหมด
เพราะบ้านของคนส่วนใหญ่จะมีเตียงแค่หลังเดียว อย่างมาก เมื่อลูกโตขึ้นก็อาจจะหาเตียงมาเพิ่มอีกสักหลัง
จนกระทั่งเข้าเมืองมา นางจึงตระหนักได้ว่าในครอบครัวที่ร่ำรวย ฮูหยินมักไม่เต็มใจที่จะนอนร่วมกันกับอนุภรรยา
“ตงตงไม่ใช่อนุภรรยาของข้า”
“หากนางไม่ใช่อนุภรรยาของท่าน เหตุใดจึงมาส่งท่านไปสนามรบด้วยเล่าเจ้าคะ?”
หลิวเสิ่นเริ่มสนใจเรื่องนี้และเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก “คนสนิทหรือ? คุณชาย ข้าเป็นเพียงหญิงชราคนหนึ่ง ไม่ควรพูดอะไรมากเกินควร ทว่าเรื่องนี้ข้าไม่พูดไม่ได้ หากมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ท่านก็ควรให้สถานะแก่นาง…”
“นางไม่ใช่คนสนิทของข้าเช่นกัน!”
จินเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “นาง… นางคือคนที่ข้าจ้างมาเพื่อดูแลร้าน ช่วยข้าดูแลเรื่องกิจการ”
“สตรีดูแลร้านหรือ?”
หลิวเสิ่นมีท่าทีไม่เชื่อ “จริงหรือ?”
จินเฟิงห่อไหล่ลงเล็กน้อยแล้วถาม “จะจริงหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน แค่บอกมาว่าจะเตรียมห้องให้ข้าเพิ่มอีกสักห้องได้หรือไม่ก็พอ!”
“ได้! ข้าจะไปเตรียมห้องเพิ่มให้ท่านอีก”
หลิวเสิ่นเห็นจินเฟิงมีท่าทีร้อนใจจึงรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
จงอู่ที่กำลังเดินลาดตระเวนบังเอิญได้ยินบทสนทนาของทั้งสองเข้า เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจนท้องคัดท้องแข็ง แต่เมื่อเห็นท่าทางที่ตึงเครียดของจินเฟิง เขาก็รีบเก็บอาการ
“จงอู่ หลิวเสิ่นมักเป็นเช่นนี้ประจำหรือ?”
จินเฟิงถามอย่างสงสัย
คนรับใช้ในสมัยโบราณไม่มีสถานะไม่ใช่หรือ?
แต่หลิวเสิ่นช่างซุบซิบนินทา เหตุใดนางจึงยังรอดมาถึงทุกวันนี้?
“ท่านอาจารย์ บุตรชายของหลิวเสิ่นเคยต่อสู้อยู่เคียงข้างท่านโหวและได้เสียชีวิตลงในหน้าที่ ท่านโหวรู้ดีว่าหลิวเสิ่นไม่มีที่พึ่งพิง เขาเลยพานางมาอยู่ที่เรือนชิ่งเฟิงนี่ด้วยกัน นางจะได้มีชีวิตรอดต่อไป”
จงอู่กล่าว “ท่านโหวยังไม่ได้แต่งงานจึงไม่มีนายหญิงมาช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้ ท่านก็น่าจะพอรู้นิสัยของท่านโหว เขาไม่เคยปล่อยให้ผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาลำบากใจ คนรับใช้บางคนเลยกำเริบเสิบสาน ข้าหวังว่าท่านจะไม่ถือสา ไว้ข้าจะช่วยคุยกับหลิวเสิ่นให้อีกที”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์