บทที่ 55 คนลากเรือ
จินเฟิงคุยกับชิ่งไหวถึงเรื่องต่าง ๆ ในซีเหอวาน ขณะเดียวกันก็เรียนรู้สถานการณ์ในต้าคังไปพร้อม ๆ กัน
อาณาเขตของต้าคังค่อนข้างคล้ายคลึงกับราชวงศ์ซ่งในชาติก่อน ทางตะวันตกเฉียงเหนือใช้ระบบการปกครองตั่งเซี่ยง ที่ก่อตั้งโดยชาวตั่งเซี่ยงเอง ด้านชาวชี่ตันอาศัยอยู่ทางเหนือ พวกเขาถนัดเรื่องการขี่ม้าและใช้แส้ ส่วนที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชาวถู่ปัวกับอาณาจักรอีกแห่งที่มีชื่อว่าต้าจ้าว
โดยอาณาจักรต้าจ้าวกับต้าคังนั้นแบ่งออกจากกันด้วยภูเขาที่คั่นกลางหลายลูก
ในประวัติศาสตร์กล่าวว่า ชาวถู่ปัวนั้นโหดร้ายมาก พวกเขามีความขัดแย้งกับระบอบการปกครองของที่ราบตอนกลางหรือจงหยวน*[1] ตอนนี้ถู่ปัวเริ่มแตกคอและต่อสู้กันเองอย่างดุเดือดจึงไม่มีเวลามารุกรานต้าคัง
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของต้าคังในปัจจุบันคือ ชาวชี่ตันที่อยู่ทางตอนเหนือและชาวตั่งเซี่ยงที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พวกเขามักจะโจมตีต้าคังบริเวณชายแดนและจุดชนวนสงครามอยู่เสมอ
แต่อันที่จริง นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้าคังทำตัวเอง
ในช่วงเริ่มต้นการสถาปนาแคว้น ชาวต้าคังมีนายทหารจำนวนมากและเป็นอาณาจักรที่ร่ำรวย ผู้คนต่างก็เข้มแข็ง ในขณะที่ชาวชี่ตันและชาวตั่งเซี่ยงนั้นยังคงล้าหลังอยู่ พวกเขาใช้ไม้ไผ่เป็นอาวุธในสนามรบ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต่างก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมามากกว่าร้อยปีและยังเป็นพันธมิตรกันทางการค้าด้วย
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น ชาวชี่ตันและตั่งเซี่ยงค่อนข้างล้าหลัง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ ชาวต้าคังจึงนำเครื่องเหล็ก ธัญพืช และสิ่งทอไปแลกกับวัวและแกะจากพวกเขา
ผู้มั่งคั่งจำนวนนับไม่ถ้วนทำเงินได้มหาศาลจากการใช้วิธีนี้
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะเมื่อวิธีการถลุงเหล็กแพร่กระจายไปยังชาวชี่ตันและตั่งเซี่ยง พวกเขาก็ผลิตอาวุธและชุดเกราะที่แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจ็ดสิบปีก่อน ชาวชี่ตันเริ่มบุกโจมตีจงหยวนเป็นครั้งแรก
ทหารม้าที่ดุร้ายสองพันตัวและนักรบหุ้มเกราะมุ่งหน้าเข้าสู่แนวชายแดน
ในเวลานั้นต้าคังสนับสนุนข้าราชการฝ่ายพลเรือนมากกว่าฝ่ายทหาร ในกองทัพเต็มไปด้วยขุนนางฝ่ายพลเรือนที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้อ่อนแอ แล้วพวกเขาจะเผชิญหน้ากับทหารม้าที่ดุร้ายของชาวชี่ตันได้อย่างไร?
โชคดีที่กองทหารรักษาการณ์อู่โจวกว่าหนึ่งหมื่นสามพันนายได้กำแพงเมืองที่สูงและแข็งแกร่งช่วยเอาไว้ ไม่เช่นนั้น คงถูกชาวชี่ตันกว่าสองพันชีวิตสังหาร พวกเขาต้องโยนหมวกและถอดชุดเกราะทิ้ง พร้อมเอามือกุมศีรษะแล้ววิ่งหนีไป
ชาวชี่ตันกว่าสองพันชีวิตเดินทัพมาจนกระทั่งถึงแม่น้ำฮวงโหก่อนที่จะหยุดลง
การสู้รบครั้งนั้นทำให้ฮ่องเต้แห่งต้าคังทรงหวาดกลัวและรีบส่งทูตไปยังแม่น้ำฮวงโหเพื่อเจรจา ในที่สุดก็ต้องส่งมอบองค์หญิงและทรัพย์สมบัติไปเป็นเครื่องบรรณาการ พร้อมแนบสาส์นตราตั้งที่ระบุว่าจะส่งเครื่องบรรณาการให้ชาวชี่ตันทุกปี พวกเขาจึงยอมกลับเฉ่าเหยวียน
เมื่อตั่งเซี่ยงเห็นดังนั้นก็คิดว่าชาวต้าคังเป็นผู้ที่รังแกได้โดยง่าย หากไม่ทำการปล้นคงเสียดายแย่?
ดังนั้นหลังจากที่ชาวชี่ตันจากไป ชาวตั่งเซี่ยงก็พาทหารม้ากว่าห้าพันนายบุกโจมตีชายแดน ทำให้กองกำลังทหารของต้าคังกว่าสามหมื่นนายต้องยอมถอยอย่างจนมุม
จากนั้นชาวตั่งเซี่ยนก็กลับไปพร้อมองค์หญิง เสบียงต่าง ๆ และสาส์นตราตั้ง
เมื่อได้รับผลประโยชน์ที่พึงพอใจแล้ว ชาวชี่ตันและตั่งเซี่ยงก็อยู่อย่างสงบมาเป็นระยะเวลาสองปี
สิ่งนี้ทำให้ฮ่องเต้แห่งต้าคังและเหล่าขุนนางคิดไปว่า ชาวตั่งเซียงและชี่ตันพอใจกับการได้ตัวองค์หญิงและเครื่องบรรณาการรายปีไปจึงไม่สร้างปัญหาอีก
ต่อมาก็ค้นพบว่ามนุษย์ไม่สามารถเอาชนะความโลภได้
ชาวต้าคังต้องส่งองค์หญิงไปยังเกอปี้และเฉ่าเหยวียนมากขึ้นเรื่อย ๆ บรรณาการประจำปีก็เช่นกัน แต่ถึงกระนั้น ชาวชี่ตันและตั่งเซี่ยงก็ยังบุกโจมตีชายแดนจนก่อให้เกิดการปะทะกันอยู่เรื่อย ๆ
ต้าคังทำได้เพียงต้องสู้อย่างสิ้นหวัง
ทหารม้าของตั่งเซี่ยงและชี่ตันแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ เมื่อเผชิญหน้ากับกองทหารม้า ทหารต้าคังก็ทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมเท่านั้น
ตั้งแต่ปีที่แล้ว ชาวตั่งเซี่ยงเริ่มรุกล้ำดินแดนอีกครั้ง ตอนแรกเป็นเพียงการหยั่งเชิง แต่หลังจากผ่านวันข้ามปีไป พวกเขาก็ตั้งกองทัพขนาดใหญ่ขึ้นที่ชายแดน เตรียมรุกรานต้าคังอย่างเต็มรูปแบบ
จินชวนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของชวนเป่ย และจุดหมายปลายทางของชิ่งไหวครั้งนี้ก็คือเว่ยโจวที่อยู่สานเป่ยหรือตอนเหนือของส่านซี วัดระยะทางในแนวตรงจากเหนือถึงใต้เกือบหนึ่งลี้ หากเป็นยุคหลังคงสามารถขับรถไปที่นั่นได้ในไม่กี่ชั่วโมง
แต่ต้าคังไม่มีทางด่วน และภูเขาหลายแห่งก็ไม่มีแม้แต่ถนนด้วยซ้ำ การเดินทางจึงค่อนข้างล่าช้า
ก่อนอื่นต้องไปแม่น้ำเจียหลิงเพื่อใช้เส้นทางน้ำ พายเรือทวนกระแสน้ำขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงเฟิ่งหยาง จากนั้นก็เปลี่ยนมาเดินทางทางบกต่อ
การเดินทางครั้งนี้น่าจะใช้เวลามากกว่าสิบวัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชิ่งไหวรีบออกเดินทาง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์