เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 60

บทที่ 60 เกินความคาดหมาย

“ท่านโหว อย่าเพิ่งรื้อเตาเผานี้เลย ข้าอาจได้ใช้มัน”

เมื่อจินเฟิงสังเกตเห็นว่านายกองมีสีหน้าลำบากใจ เขาจึงรีบหันกลับไปมองชิ่งไหว

“ได้”

ชิ่งไหวแค่ไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเหอหมิงชินที่ทำกับคนในค่ายเท่านั้น เขาจึงออกคำสั่งให้ทำลายเตาเผาเครื่องปั้น แต่จินเฟิงบอกว่ามันมีประโยชน์ เช่นนั้น เขาก็จะไม่รื้อถอนมัน

เมื่อเห็นชิ่งไหวพยักหน้า นายกองก็เบาใจราวกับว่าได้ยกหินหนักออกจากอก

ในใจของเขาให้ความสำคัญกับจินเฟิงผู้นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก

เพราะเขารู้ว่า ชิ่งไหวซื่อสัตย์ในคำพูดของตัวเองและซื่อสัตย์ต่อกองทัพเถี่ยหลิน แม้ในบางครั้งบางคราวคำสั่งของเขาที่เอ่ยออกไปจะผิดพลาด ท่านโหวหนุ่มก็ไม่เคยกลับคำมาก่อน

แต่เพราะเห็นแก่จินเฟิง ชิ่งไหวถึงได้ถอนคำสั่ง

และนี่เป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในกองทัพเถี่ยหลิน

“เตาเผานี้เคยผ่านการเผาเครื่องปั้นมาก่อนหรือไม่?” จินเฟิงเอ่ยถาม

“เคยเผา เคยใช้งานเตานี้ทั้งหมดสามครั้ง” นายกองตอบคำถาม

“แล้วเผาสำเร็จหรือไม่?”

“อดีตช่างเตาเผาบอกว่ามันเผาเครื่องปั้นออกมาได้ดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่แม่ทัพเหอไม่พอใจและสั่งไม่ให้เผาต่อ”

“พวกเจ้าใช้สิ่งใดในการเผา ถ่านหินหรือว่าถ่านไม้?”

“ถ่านหิน อดีตช่างเตาเผาบอกว่าหากต้องการเผาเครื่องปั้นจำเป็นต้องใช้ถ่านหิน”

นายกองบ่นต่ออีกว่า “และเพราะต้องใช้ถ่านหิน ข้าจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อค้นหามันให้ได้สิบกว่าคันรถ สุดท้ายก็ใช้ไปแค่ไม่กี่คันรถเท่านั้น และส่วนที่เหลือก็ถูกกองทิ้งไว้”

“ยังมีถ่านหินเหลืออีกเป็นสิบคันรถเลยหรือ?”

จินเฟิงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจ “เจ้ารีบพาข้าไปดูเร็ว!”

นายกองเหลือบมองชิ่งไหวเล็กน้อย เมื่อพบว่าท่านโหวหนุ่มไม่ได้คัดค้าน เขาจึงรีบนำทางจินเฟิงไป

เตาเผาเครื่องปั้นนั้นตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกองทหารช่าง มันมีขนาดเล็กกว่าเตาเผาอิฐที่จินเฟิงสร้างในซีเหอวานเล็กน้อย แต่รูปแบบโครงสร้างดูมืออาชีพและประณีตกว่า

“มืออาชีพ!”

จินเฟิงอุทานออกมา “พี่ใหญ่ ช่างที่สร้างเตาเผาผู้นั้นต้องเป็นปรมาจารย์ด้านนี้เป็นแน่”

“ใต้เท้า ท่านเรียกข้าว่าหลิวหยางก็พอ” นายกองกล่าว “สายตาของใต้เท้าช่างเฉียบแหลมนัก ครอบครัวของช่างที่สร้างเตาเผาผู้นี้ทำเครื่องปั้นดินเผามาหลายชั่วอายุคน ไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกชาวตั่งเซี่ยงบุกลงไปทางใต้และทำลายเครื่องปั้นดินเผาของเขา เตาเผาของเขาถูกทำลาย และญาติพี่น้องก็เสียชีวิตทั้งหมด ทว่าตัวเขาได้ขึ้นไปซ่อนตัวบนภูเขา ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะหาเขาพบ”

“แล้วอดีตช่างสร้างเตาเผาอยู่ที่ใด?”

ชายหนุ่มเอ่ยถาม

เพราะตัวเขาเรียนด้านวิศวะเครื่องกลในชีวิตที่แล้ว เขาพอจะเข้าใจเรื่องการทำเครื่องดินเผาอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าก็ไม่ได้ถึงกับคุ้นเคยชำนาญ หากได้อดีตช่างที่สร้างเตาเผามาคอยช่วยเหลือคงจะประหยัดเวลาไปได้มาก

“เนื่องจากเตาเผานี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการเผาอีกต่อไป ข้าเลยย้ายเขาไปอยู่ในส่วนของช่างซ่อมบำรุง น่าจะช่วยงานในส่วนของเตาหลอมอยู่” นายกองอธิบาย

“รีบไปเรียกตัวเขามาพบข้า”

“รับทราบ!”

นายกองรีบวิ่งออกไปทันที

“ท่านอาจารย์ ท่านต้องการใช้เตาเผาเครื่องปั้นนี้หลอมเหล็กหรือ?”

พอนายกองวิ่งออกไป ชิ่งไหวก็เอ่ยปากถาม

“ท่านโหวคงมองออกแล้วสินะ”

จินเฟิงยิ้มพร้อมพยักหน้ายอมรับ

อุณหภูมิของเตาถลุงเหล็กต้องสูงอย่างน้อยหนึ่งพันห้าร้อยองศาเพื่อให้ได้เหล็กที่ดี สำหรับประสิทธิภาพการผลิตเหล็กของต้าคังแล้ว เตาหลอมเหล่านั้นน่าจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

แต่ว่าเตาเผาเครื่องปั้นที่ว่าน่าจะมีอุณหภูมิที่สูงตรงตามความต้องการ

เพียงแต่ต้าคังไม่มีเครื่องมือในการวัดอุณหภูมิ ในสายตาของใครหลาย ๆ คนคิดว่าอุณหภูมิแปดร้อยองศากับหนึ่งพันห้าร้อยองศาไม่มีความแตกต่างกันมากนัก เพราะไม่ว่าจะอยู่ในอุณหภูมิแบบไหนก็สามารถเผาคนให้เป็นเถ้าถ่านได้

นอกจากนี้การตีเหล็กและการทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน จึงไม่เคยมีใครคิดนำเตาเผาของงานคนละประเภทมาใช้แทนกันมาก่อน

รวมถึงจินเฟิง หากนายกองไม่พูดถึงเตาเผาเครื่องปั้น เขาก็คงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้

“ในกองทหารช่างมีเตาหลอมอยู่สามเตา เหตุใดจึงต้องการใช้เตาเผาเครื่องปั้นเล่า?”

ชิ่งไหวถามอย่างไม่เข้าใจ

หลังจากตื่นนอน จงอู่ที่รับหน้าที่เฝ้าประตูก็แจ้งว่าชิ่งไหวได้กลับมาในตอนสาย

“ท่านโหวกลับมามีเรื่องอะไรหรือ?” จินเฟิงถาม

“ไม่มีเรื่องอะไรหรอก เพียงแต่คำสั่งโยกย้ายจากเปี้ยนจิงมาถึงแล้ว หลังจากที่ท่านโหวสับเปลี่ยนหนังสือกับแม่ทัพฟ่านเสร็จ เขาก็มาหาท่านอาจารย์ แต่พอเห็นว่าท่านอาจารย์ยังนอนหลับอยู่ เขาเลยกลับออกไป”

“ครั้งหน้าหากท่านโหวกลับมา อย่าลืมปลุกข้าเล่า”

จินเฟิงพูดออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก

เพราะหากชิ่งไหวมีบางสิ่งที่สำคัญคงจะต้องปลุกเขาอย่างแน่นอน

หลังจากรีบกินอะไรรองท้อง จินเฟิงก็กลับไปที่กองทหารช่างอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่หม่านชางคอยควบคุมคนจำนวนมากทำงาน เขาตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน เมื่อเขาเห็นว่าจินเฟิงกำลังเดินเข้ามาก็รีบวิ่งไปหาพร้อมกับใต้ตาที่ดำคล้ำ

“มีอะไรหรือ?”

ชายหนุ่มถาม

“ทุกอย่างราบรื่นดี มีทั้งเครื่องมือและกำลังคนจำนวนมาก ข้าคิดว่าคืนนี้ก็น่าจะปรับปรุงเตาเสร็จ”

“เช่นนั้นก็ดี” จินเฟิงพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าก็รีบกลับไปพักผ่อนเถิด วันข้างหน้ายังมีงานอีกมาก อย่าเพิ่งหมดแรงไปก่อนเล่า”

“ตกลง!” หม่านชางรับปาก แต่เขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะกลับไปนอน

หลังจากหม่านชางกลับไป จินเฟิงก็เข้าไปดูเตาเผาเครื่องปั้นอีกครั้ง

เตาเผาเครื่องปั้นมีอดีตช่างเตาเผาเป็นผู้คอยควบคุม ทำให้การปรับแก้นั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น

“หวังว่าน่าจะทันเวลา”

จินเฟิงได้แต่ภาวนาเงียบ ๆ ในใจ

ทว่าหลังจากภาวนาเสร็จ ชายหนุ่มก็เห็นม้าศึกควบเข้ามาทางนี้ ในขณะที่เจิ้งฟางที่อยู่บนหลังม้านั้นมีเลือดอาบตัว!

เมื่อเขามาถึงจุดที่จินเฟิงอยู่ เจิ้งฟางก็ตกจากหลังม้า

“ท่านอาจารย์… ชาวตั่งเซี่ยงมาแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์