บทที่ 65 แฟแลงซ์มาซิโดเนีย
“จ้าวซาน เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้เฒ่าจ้าวนั่งบนเตียงแล้วตะโกนออกไปข้างนอก
“ท่านปู่ ชาวตั่งเซี่ยงมาแล้ว พวกเขามุ่งหน้าไปยังชิงสุยกู่!”
เขารีบเข้าไปในกระโจม ในขณะที่กำลังช่วยผู้เฒ่าจ้าวสวมรองเท้าก็พูดไปด้วย “ท่านปู่ ม้าพร้อมแล้ว ท่านรีบกลับไปยังเมืองเว่ยโจวโดยเร็วเถิด”
“แม่ทัพฟ่านส่งข้ามาดูแลกองทัพ ข้าจะถอยได้อย่างไร!”
ผู้เฒ่าจ้าวรีบออกจากกระโจมและมองไปที่ชิงสุยกู่
ในเวลานี้กองหน้าของทหารม้าตั่งเซี่ยงได้บุกเข้าไปในหุบเขาเป็นที่เรียบร้อย พวกเขามีสีหน้ามุ่งมั่น ส่งเสียงร้องและพุ่งเข้าโจมตีอย่างดุเดือดด้วยดาบในมือ
เมื่อมองเข้าไปยังพื้นที่แห่งความมืดนั้น กะประมาณคร่าว ๆ ได้ว่ามีทหารและม้านับพัน
ทหารและม้ากว่าพันตัวอาจดูไม่มากนัก แต่เมื่อมาเห็นด้วยตาตนเองนั้นน่ากลัวมาก
ฝุ่นจากม้าศึกที่ควบผ่านฟุ้งขึ้นบนอากาศราวกับก้อนเมฆ เสียงฝีเท้าม้าดังจนหนวกหู
ทหารใหม่บางคนตกใจมากจนอยากจะวิ่งหนี หากไม่มีฝ่ายควบคุมวินัยถือดาบคอยดูการต่อสู้จากด้านหลัง ทหารเหล่านี้อาจเผ่นราบไปนานแล้ว
แม้ว่าผู้เฒ่าจ้าวจะเย่อหยิ่งแต่ก็ค่อนข้างกล้าหาญ เขากลับเข้าไปในกระโจม หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนจดหมายอย่างรวดเร็วพร้อมส่งให้ผู้ติดตาม “เร็วเข้า นำข้อความนี้ไปส่งถึงแม่ทัพฟ่าน ขอให้เขาส่งกองกำลังไปยังชิงสุยกู่โดยทันที!”
ผู้ติดตามรับจดหมายวิ่งออกจากกระโจม ผู้ส่งสารที่รออยู่บนหลังม้ารับจดหมายและรีบมุ่งไปที่เมืองเว่ยโจวทันที
หลังจากเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือแล้ว ผู้เฒ่าจ้าวก็วิ่งออกจากกระโจมอีกครั้ง
ในเวลานี้ทหารม้าของชาวตั่งเซี่ยงเดินทัพเกือบถึงกลางหุบเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ จากกองทัพเถี่ยหลิน
ผู้เฒ่าจ้าวกังวลขึ้นมาทันที “เหตุใดกองทัพเถี่ยหลินไม่จัดทัพเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเล่า? จินเฟิงอยู่ที่ใดกัน?”
“เขาอยู่ตรงนั้น!”
ผู้ติดตามชี้ไปยังที่ราบสูงซึ่งอยู่ไม่ไกล
จินเฟิงพร้อมด้วยองครักษ์และเหล่านายทหารจำนวนหนึ่ง ยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนที่ราบสูง พลางทอดสายตาลงไปที่หุบเขาเบื้องล่าง
“เด็กคนนี้สติกระเจิงไปแล้วหรืออย่างไร!?”
ผู้เฒ่าจ้าวกระทืบเท้า พร้อมหยิบเสื้อคลุมของเขาขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปหา “แม่ทัพฟ่านพูดถูก ช่างฝีมือเชื่อถือไม่ได้จริง ๆ”
แต่ขาทั้งสองจะเร็วกว่าเท้าทั้งสี่ได้อย่างไร?
ทันทีที่ผู้เฒ่าจ้าววิ่งไปถึงด้านล่างของที่ราบเชิงเขา ทหารม้าก็เกือบจะวิ่งไปถึงสุดหุบเขาแล้ว
อีกไม่กี่สิบจั้งก็จะถึงหน้าค่ายของกองทัพเถี่ยหลิน
ทหารม้าตั่งเซี่ยงจะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า หากปล่อยให้พวกเขาบุกเข้ามาก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น!
ผู้เฒ่าจ้าวไม่สนใจคำเตือนของชิ่งไหวที่ไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการทางทหารอีกต่อไป ชายชราไม่สนใจว่าจินเฟิงจะฆ่าเขาหรือไม่ เขาคำรามใส่บัณฑิตหนุ่มซึ่งอยู่บนที่ราบเชิงเขา
“เจ้าเด็กโง่เขลา เจ้ามัวทำอะไรอยู่? รีบจัดขบวนทัพต้านกับศัตรูเร็วเข้า!”
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจินเฟิงจะไม่ได้ยิน เขาไม่ได้มองมาที่ชายชราหรือเคลื่อนไหวใด ๆ แต่ยังคงมองลงไปที่หุบเขาด้านล่าง
“ชิ่งไหวตามืดบอดขนาดนี้ได้อย่างไร เขาถึงไว้วางใจให้คนโง่เขลานี้ดูแลกองทัพเถี่ยหลิน!”
ผู้เฒ่าจ้าวนั่งลงบนพื้นและร้องเสียงดัง “มันจบลงแล้ว กองทัพเถี่ยหลินจบเห่! …เมืองเว่ยโจวก็จบเห่เช่นกัน!”
ชายชราคิดไปว่าตนเองอาจจะได้เห็นทหารม้าตั่งเซี่ยงบดขยี้กองทัพเถี่ยหลิน และบุกเข้าไปยังเมืองเว่ยโจวเพื่อเผา ฆ่า และปล้นสะดม
ด้วยความโกรธ เขาปล่อยหมัดลงกับพื้นหลาย ๆ ครั้ง จากนั้นก็ชักดาบของผู้ติดตามออกมา เตรียมพร้อมที่จะไปที่หุบเขาเพื่อต่อสู้กับชาวตั่งเซี่ยง
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ กลับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเกิดขึ้น
เขาเห็นม้าศึกของชาวตั่งเซี่ยงวิ่งมาด้านหน้า จากนั้นขาหน้าข้างขวาของมันก็ก้าวเข้าไปในหลุมลึกใหญ่เท่ากับชาม
เมื่อม้าศึกกระโดด มันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากหลุมได้โดยง่าย
เพียงครู่เดียว ม้าศึกที่ไม่สามารถดึงขาออกได้ก็ล้มลงกับพื้น ขาหน้าข้างขวาที่ติดอยู่ในหลุมทรุดลง!
ทหารตั่งเซี่ยงบนหลังม้ากระเด็นไปไกลกว่าสามจั้ง และล้มลงกับพื้นเสียงดังโครมคราม ก่อนจะกลิ้งตลบไปหลายจั้งและหยุดลง
แขนขวาของเขางอผิดรูป เห็นได้ชัดว่ามันหัก
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น…
ม้าศึกทยอยล้มลงกับพื้นมากขึ้นเรื่อย ๆ!
ทหารตั่งเซี่ยงก็ถูกเหวี่ยงออกไปเรื่อย ๆ เช่นกัน!
นอกจากนี้ยังมีทหารที่โชคร้ายบางคนถูกม้าทับทับตายตรงนั้นด้วย!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์