เสี่ยวเอ้อร์จากหอจวี้เซียนตามซือลั่วมาตลอดทาง มองดูนางจะเข้าร้านไหนอีกถึงจะกลับบ้าน
ผู้ดูแลเจียงได้ให้คนทำอาหารไม่กี่อย่างนั่นที่ซือลั่วเขียนออกมา วัตถุดิบเรียบง่ายและราคาถูกอย่างยิ่ง รสชาติที่ได้ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกทึ่งอย่างมาก
เหล่าพ่อครัวของหอจวี้เซียนเมื่อได้กินก็ชมซ้ำแล้วซ้ำเล่า “รสชาติไม่เลว ทั้งราคาถูกและเรียบง่าย ทำได้เร็วอีกด้วย ที่สำคัญคือมีความแปลกใหม่เพราะที่อื่นต่างก็ไม่มี ทั้งตำบลหย่วนซานเกรงว่าทั้งเมืองหรงคงจะมีเพียงแค่พวกเราที่มี”
"ใช่แล้วท่านผู้ดูแลร้าน ข้ามทีลางสังหรณ์ว่าคราวนี้พวกเราจะต้องเอาชนะหอเทียนเซียงได้อย่างแน่นอน”
หลายคนแย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์
ผู้ดูแลร้านเจียงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า “ไปเตรียมตัวกันเถอะ พรุ่งนี้พวกเราจะขายอาหารจานนี้เลย!”
ทุกคนเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง ผู้ดูแลร้านเจียงมองดูอาหารบนโต๊ะ อาหารทั้งสองรสชาติดีมาก ตอนขายก็มีความสดใหม่และวิธีการทำก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเช่นกัน
ใช้เวลาไม่นานคนอื่นๆ ก็คงจะพิจารณาได้ หากหอจวี้เซียนอยากอยู่รอดก็ยังต้องออกอาหารใหม่ๆ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องติดต่อร่วมมือกับแม่นางผู้นั้นอยู่
และนี่คือสาเหตุที่คนเขารับเงินไปเพียงครึ่งเดียว
ผู้ดูแลร้านเจียงกำลังดีใจและคัดลอกสูตรอาหารอีกหนึ่งฉบับเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับร้านสาขาอื่น เสี่ยวเอ้อร์ที่ติดตามซือลั่วไปก็กลับมาพอดี
“ตรวจสอบแล้วหรือยัง” ผู้ดูแลร้านเจียงถาม
เสี่ยวเอ้อร์พยักหน้าและบอกที่อยู่บ้านของซือลั่ว
มือของผู้ดูแลร้านเจียงชะงัก “ที่แท้ก็เป็นพวกเขา!”
เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นผู้ดูแลร้านเจียงจู่ๆ ก็มีสีหน้าจริงจังจึงอดถามไม่ได้ “เจ้านาย มีอะไรไม่ถูกต้องหรือขอรับ”
เจ้าของร้านเจียงโบกมือและเผาจดหมายที่คัดลอก
เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยวันหลังเถอะ
ในตำบลนี้มีคนไม่มากที่รู้ฐานะของซือลั่วกับเว่ยฉงซี คนส่วนใหญ่ล้วนคิดไปว่าพวกเขาเป็นคุณชายและคุณหนูที่ตกอับ ไม่มีใครคาดคิดว่าท่านอ๋องน้อยเว่ยที่เคยโด่งดังไปทั่วเมืองจะอยู่อาศัยที่ตำบลของพวกเขาและยังมีชีวิตเช่นนั้นอีก
เรื่องราวตั้งมากมาย หากไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลเว่ยจะต้องมีปัญหาอย่างมากแน่
โทษทัณฑ์ของตระกูลเว่ยคือการก่อกบฎ แม้ว่าคนที่มีสายตาเฉียบแหลมล้วนรู้ดีว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันในนั้นต้องการกำจัดผู้เห็นต่างทิ้ง การที่เหลือเว่ยฉงซีไว้ก็เป็นเพราะไม่อยากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาโหดเหี้ยมอำมหิตเพียงเท่านั้น จะช้าหรือเร็วเว่ยฉงซีก็ต้องตายอย่างแน่นอน ชะตากรรมของเขาล้วนขึ้นอยู่กับคำพูดเดียวของจักรพรรดิเท่านั้น
ผู้ดูแลร้านเจียงเคยได้ยินชื่อเสียงของซือลั่วมาก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลืออาจไม่เป็นความจริง ไม่แน่ว่าเมื่อก่อนคุณหนูสามแห่งตระกูลซืออาจจะแสร้งทำ
ผู้ดูแลร้านเจียงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ร้านของเขาต้องอยู่รอด แต่ถ้าหากไปเกี่ยวพันกับเว่ยฉงซีแล้วถูกคนที่ชักใยอยู่ด้านหลังรู้เข้าคงไม่เป็นการดีแน่
แต่ผู้ดูแลร้านเจียงก็ไม่ต้องการถูกหอเทียนเซียงกดไว้อีกต่อไป คิดไปคิดมาจึงตัดสินใจที่จะรอดูไปก่อน
ซือลั่วไม่ได้สนใจมากนัก นางรู้ว่าเจ้าของร้านเจียงจะต้องส่งคนมาติดตามนาง และในไม่ช้าก็จะรู้ตัวตนของนาง ต้องการที่จะร่วมมือกันหรือไม่นั้นก็ต้องดูท่าทีของฝ่ายนั้น อย่างไรเสียนางก็มีหนึ่งร้อยตำลึงอยู่ในมือแล้ว
ซือลั่วเข้าบ้านและเห็นเว่ยฉงซียังคงอยู่ในท่าทางเหมือนตอนที่นางจากไปโดยเอนตัวลงบนเก้าอี้แล้วหลับไป
แสงแดดยามบ่ายส่องกระทบใบหน้าของเขาจนดูผุดผ่องทองอร่าม
เว่ยฉงซีราวกับเป็นผลงานแกะสลักชิ้นหนึ่งที่งดงาม
สีหน้าของเว่ยฉงซีที่หลับอยู่ในความฝันดูไม่ค่อยดี คิ้วขมวดเป็นปม ซือลั่วมองดูแล้วรู้สึกปวดใจเล็กน้อย
นางเดินเข้าไปเพื่อที่จะนำผ้าคลุมที่ตกลงไปมาคลุมบนกายเขา ไม่คาดคิดว่าทันใดนั้นเว่ยฉงซีจะตื่นขึ้น จ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำอย่างแน่วแน่แล้วพลิกฝ่ามือดันนางลงบนเก้าอี้
"เว่ยฉงซี เป็นข้าเอง...เจ็บ...” ซือลั่วร้องเสียงดัง
เว่ยฉงซีจึงได้สติกลับมาและดวงตาก็กลับมาเหมือนตอนปกติ
เขาปล่อยซือลั่ว
ซือลั่วรู้สึกว่าแขนของตนน่าจะหลุดแล้ว ใบหน้าจึงซีดขาวด้วยความเจ็บปวด แต่นางก็ยังอดทนและมองไปทางเว่ยฉงซี “เว่ยฉงซี เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม"
เว่ยฉงซีส่ายหัวตะลึงไปครู่หนึ่งถึงพึ่งจะพบว่าซือลั่วไม่ค่อยปกติ จึงกล่าวเสียงต่ำว่า “กระดูกเคลื่อนแล้ว”
ซือลั่วลอบถอนหายใจ แต่กลับจ้องเขาเขม็ง
“มานี่!” เว่ยฉงซีกล่าว
ซือลั่วเดินไป เว่ยฉงซีจึงจับแขนของนาง แขนของซือลั่วขาวมากและมีผิวหนังบางอีก ข้อมือที่โผล่พ้นออกมาส่องประกายเจิดจ้าในดวงตาของเว่ยฉงซี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...