ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 33

ซือลั่วส่ายหัวและมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี "ข้าอาจจะตกน้ำแล้วเลนทรายเข้าสมองจนทำให้หลงลืมบางสิ่งไปก็ได้ ฮ่าฮ่า”

เว่ยฉงซีเล่นกับถ้วยชาในมือและพูดว่า "ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยเจ้ารำลึกความทรงจำแล้วกัน”

ซือลั่วกลืนน้ำลาย ไม่ค่อยอยากฟังเท่าไหร่ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย

“เจ้าโดนถอนหมั้นไปแล้วสามครั้ง”

“อะไรนะ” ซือลั่วยืนขึ้นด้วยความตกใจและมองไปที่เว่ยฉงซี

"เป็นไปได้ยังไง...ข้า...ข้าเพียงแค่หงุดหงิดงุ่นง่านนิดหน่อย!” ซือลั่วแก้ต่างแต่ในใจรู้ดีว่าที่เว่ยฉงซีพูดมานั้นเป็นความจริง

เว่ยฉงซีหรี่ตาจ้องมองซือลั่วอย่างเยือกเย็น

ซือลั่วกลืนน้ำลายและกลับมานั่งที่เดิม

“เช่นนั้นโจวซืออี้ผู้นั้นเป็นอดีตคู่หมั้นของข้าหรือ” นางถามอย่างเย้ยหยัน “คนที่เท่าไหร่นะ”

“คนที่สองสินะ..."

เว่ยฉงซีกล่าวเสริมอีก "แต่เขายังมีอีกฐานะหนึ่งนั่นก็คือเป็นสามีพี่สาวคนที่สองของเจ้า”

ซือลั่วรู้สึกว่าตนเองเหมือนถูกฟ้าผ่าจริงๆ การกระทำแบบนี้คืออะไรกันเนี่ย

เว่ยฉงซีกล่าวต่อไปว่า "ปีนั้นเมื่อเจ้าอายุสิบปีก็ได้หมั้นหมายกับลูกชายคนโตจากตระกูลเสนาบดีกรมโยธาธิการ ทว่ากลับไปทำเรื่องขายหน้าที่งานเลี้ยงของจวนเสนาบดีและล่วงเกินภรรยาของท่านเสนาบดีเข้าจนถูกถอนหมั้น คนที่สองก็คือโจวซืออี้ แต่สาเหตุที่เป็นรูปธรรมกลับไม่ชัดเจน เจ้าเพียงถูกโจวซืออี้ถอนหมั้น เมื่อวันแรกถอนหมั้น วันที่สองเขาก็ไปสู่ขอพี่สาวคนที่สองของเจ้าซือหว่านจากท่านอัครเสนาบดี คนที่สามก็คือทั่นฮวา*เมื่อสามปีก่อน ซึ่งแต่เดิมได้หมั้นหมายไว้แล้วทว่าจู่ๆ ทั่นฮวากลับไปตกหลุมรักนางโลมผู้โด่งดังในเมืองหลวงแล้วทิ้งเจ้าไป" (คำอธิบาย 探花 ทั่นฮวา เป็นชื่อเรียกผู้ที่สอบชิงตำแหน่งบัณฑิต 3 อันดับได้ในสมัยสอบรับราชการขุนนางในยุคโบราณ ใช้เรียกคนที่สอบได้ลำดับ 3)

ซือลั่วไม่ได้สติกลับมาเป็นเวลานาน นางคิดไม่ถึงว่าเจ้าของร่างเดิมจะยังมีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเหล่านี้ด้วย ถูกผู้ชายหลายคนถอนหมั้นด้วยความรังเกียจโดยไม่มีใครรับได้แม้แต่คนเดียว นางเข้าใจนิดหน่อยแล้วว่าเหตุใดนิสัยของเจ้าของร่างเดิมถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นบิดเบี้ยวถึงเพียงนั้น

เว่ยฉงซีกล่าวว่า "ซือลั่วที่เป็นคนเช่นนี้ยังจะแต่งให้ใครได้อีก”

เขาพูดอย่างเย้ยหยันตัวเองอย่างมาก

ซือลั่วชำเลืองมองเขา "เจ้ากำลังเยาะเย้ยตัวเองหรือเยาะเย้ยข้ากันแน่”

เว่ยฉงซีกล่าว "ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน รู้ไหมว่าคนที่หมั้นหมายกับข้าคือใคร”

ซือลั่วส่ายหัว เจ้าของร่างเดิมไม่ได้รู้จักเว่ยฉงซีมาก่อน เนื่องจากนางเป็นเพียงบุตรอนุแต่เว่ยฉงซีเป็นอ๋องน้อยที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง พวกเขาคนหนึ่งเป็นฟ้าอีกคนหนึ่งเป็นดินเลยทีเดียว

“ช่างมันเถอะ ไม่พูดถึงมันแล้ว” จู่ๆ เว่ยฉงซีก็ไม่เปิดปากอีก

ซือลั่วขมวดคิ้ว คนผู้นี้ท่าจะบ้าไปแล้ว ชอบพูดอะไรแล้วเหลือไว้อีกครึ่ง

แต่…

ในใจซือลั่วมีความโกรธเล็กน้อย เขาหมายความว่าอย่างไร หรือว่าในใจเขายังมีอดีตคู่หมั้นอยู่

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ในใจซือลั่วก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเล็กน้อย

ทั้งสองคนไม่พูดอะไร หลังจากนั่งไปสักพักซือลั่วก็พูดว่า "ข้าไปหุงข้าวแล้ว กินอิ่มดีกว่าอะไรทั้งนั้น!"

เมื่อเว่ยฉงซีเห็นว่านางดูไม่มีความสุข ก็คิดไปว่านางได้รู้เรื่องที่ตนเองโดนถอนหมั้นไปสามครั้งเลยหัวเสีย แตในเมื่อโจวซืออี้มาแล้ว ช้าเร็วนางก็ต้องได้รู้ นอกจากนี้พอเว่ยฉงซีคิดถึงโจวซืออี้ก็กำนิ้วมือจนแน่น

ตระกูลโจว โจวกุ้ยเฟย และจิ้นอ๋องหลี่ฉงเหยียน!

ในตอนนั้น คดีก่อกบฏของเว่ยเซียวก็เป็นจิ้นอ๋องที่จัดการ...

ความเย็นวาบพาดผ่านดวงตาของเว่ยฉงซี

ซือลั่วสับผักที่ซื้อมา ผัดกับข้าวง่ายๆ สองจาน เคี่ยวโจ๊กนิดหน่อยแล้วยกไปไว้บนโต๊ะ

อาหารมื้อนี้กล่าวได้ว่าทำได้ชุ่ยมาก

เว่ยฉงซีเป็นคนไม่เลือกกิน วันนี้ตัวเขาจึงหยิบชามมากินข้าวอย่างว่าง่าย

ทั้งสองเงียบลงอีกครั้ง ซือลั่วไม่ชอบความกดดันขณะรับประทานอาหารเช่นนี้อย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้อาหารไม่ย่อยได้ง่าย

“อร่อยไหม” ซือลั่วถาม

เดิมทีเว่ยฉงซีก็เป็นคนพูดน้อย ยิ่งนึกถึงตระกูลโจวก็เลยอารมณ์ไม่ค่อยดีและไม่ได้รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ เพราะอย่างไรเขาก็ชินกับมันแล้ว

“อืม พอได้” เว่ยฉงซีกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน