ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 36

ซือลั่วไปที่ร้านขายผ้าในวันนั้น ครานี้นางมีเงินจึงมีความมั่นใจ ตอนซื้อของจึงต้องซื้อของที่ดีหน่อยป็นธรรมดา

ซือลั่วเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก ในความคิดของนางหากมีเงินก็ต้องใช้ ไม่เช่นนั้นนางก็จะสูญเสียคุณค่าของการหาเงิน

“คราวนี้จะซื้ออะไรเล่า” เถ้าแก่ร้านผ้าถามด้วยรอยยิ้ม

ซือลั่วมองดูและชี้ไปที่ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดสีเหลืองไข่ไก่ผืนหนึ่ง “ข้าเอาผืนนี้ ราคาเท่าใด”

เถ้าแก่ร้านผ้าไม่แปลกใจกับวิธีการซื้อของเช่นนี้ของนาง ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดผืนนี้มีความบางเบาและระบายเหงื่อได้ดี ทั้งยังทนทานอีกด้วย”

"ราคาเท่าไหร่" ซือลั่วไม่ชอบการต่อรองมากนัก

“ห้าร้อยเหวิน” เถ้าแก่กล่าว

ซือลั่วเปรียบเทียบคำนวณราคาสิ่งของในยุคนี้ไม่เป็นจริงๆ นางไม่รู้ว่าห้าร้อยเหวินแพงหรือไม่ 

เมื่อเถ้าแก่เห็นว่านางไม่พูดไม่จาจึงเริ่มขายผ้าของเขาอีกครั้ง

“ผ้าประเภทนี้ห้าร้อยเหวินเลยหรือ” จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ซือลั่วและเถ้าแก่เงยหน้าขึ้นพร้อมกันและเห็นชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวยืนอยู่ที่ประตู

ซือลั่วรู้สึกคุ้นตาเล็กน้อย เมื่อคิดดูครู่หนึ่งก็รู้แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ยืนข้างโจวซืออี้เมื่อวานนี้หรือ

จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นนี้ทำให้เถ้าแก่ไม่พอใจอย่างมาก “คุณชายผู้นี้ ผ้าผืนนี้...”

“มากสุดก็แค่สามร้อยเหวิน หากอยู่ในพื้นที่อื่นอาจขายได้ถึงห้าร้อยเหวิน ทว่านี้คือซีเป่ยที่เป็นแหล่งผลิตฝ้าย” ไป๋ซิวหย่วนกล่าว

เถ้าแก่หัวเราะแห้งๆ

ไป๋ซิ่วหย่วนกล่าวอีกว่า "ที่ซีเป่ยมีเพียงผ้าแพรต่วนกับผ้าทอเท่านั้นที่จะขายได้ในราคาสูง”

ซือลั่วชำเลืองมองเถ้าแก่เลยรู้ว่าที่หนุ่มรูปงามผู้นี้พูดเป็นความจริง นางขมวดคิ้ว นึกขึ้นได้ว่าผ้าสองผืนที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ก็ต้องโดนเถ้าแก่ผู้นี้โกงเช่นเดียวกันเป็นแน่

ซือลั่วยิ้มและหันกายเดินออกไปด้านนอก

เถ้าแก่จ้องไป๋ซิวหย่วนเขม็ง ไป๋ซิวหย่วนมองย้อนกลับมาทางเขาจากนั้นจึงออกจากประตูตามไปเช่นกัน

"ถุย!"

เถ้าแก่ถ่มน้ำลาย "สตรีที่แต่งงานมีสามีแล้วกลับล่อลวงหนุ่มหน้าขาว*ได้อีกคน!” (คำอธิบาย 小白脸 แปลตรงตัวว่า หนุ่มหน้าขาว เป็นคำด่าที่หมายถึง ชายหนุ่มที่อ่อนต่อโลก)

เมื่อไป่ซิวหย่วนออกมาก็เห็นซือลั่วยืนพิงกำแพงด้านข้างรอเขาอยู่

เขาประเมินนางเล็กน้อย แม้ว่านางจะแต่งตัวธรรมดา แต่รูปลักษณ์กลับไม่ธรรมดาเลย ยิ่งรวมกับบรรยากาศรอบกายในวันนี้อีกด้วย...

ไป๋ซิวหย่วนคิดว่าสภาพแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้จริงๆ คุณหนูสามแห่งตระกูลซือผู้นี้ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อน

“คุณหนูสามซือ” ไป่ซิวหย่วนประสานมือคาราวะ

ซือลั่วยิ้ม "ฮูหยินเว่ย!”

ซือลั่วพยักหน้า "เจ้ากับโจวซืออี้ไม่ใช่พวกเดียวกันหรือ”

ซือลั่ว พยักหน้า "เจ้ากับโจวซืออี้ เป็นพวกเดียวกันไม่ใช่เหรอ"

นางพูดตรงด้วยความเด็ดขาดอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับไป๋ซิวหย่วน ในเมื่อนางไม่รู้จักคนเหล่านี้แม้แต่น้อย และเว่ยฉงซีอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก นางจึงไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เขา

ยิ่งไปกว่านั้น วันแรกโจวซืออี้ละทิ้งเจ้าของร่างเดิมไป วันต่อมาก็ยังไปสู่ขอพี่สองของนางอีก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นบุรุษห่วยแตก ยิ่งบวกกับพฤติกรรมของเขาเมื่อวานนี้ ซือลั่วทำใจชอบเขาไม่ลงจริงๆ แม้แต่คนข้างกายของเขานางก็เกลียดไปแล้ว

ถูกต้อง นางเป็นคนที่เกลียดใครก็เกลียดอีกาบนหลังคาบ้าน*เขาด้วย (คำอธิบาย 恨乌及屋 เป็นสำนวนจีนที่เปลี่ยนความหมายตรงข้ามจากสำนวนเดิมที่กล่าวว่า 爱屋及乌 ที่หมายถึงเมื่อรักหรือชอบบ้านหลังนี้ก็ต้องรักหรือชอบแม้กระทั้งนกอีกาที่เกาะอยู่บนหลังคาบ้านหลังนี้ด้วย หรือเมื่อรักเขาก็ต้องรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา มีความหมายเหมือนกับสำนวนอังกฤษที่กล่าวว่า Love me love my dog)

“ไม่ใช่ พวกเราเพียงคแค่รู้จักกันเท่านั้น”

ไป่ซิวหย่วนรีบพูดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวที่จะยุ่งเกี่ยวกับโจวซืออี้

ซือลั่วพยักหน้าและมองไปทางไป๋ซิวหย่วนด้วยความทึ่ง "เช่นนั้นคุณชายไป๋กับข้าพบเจอกันโดยบังเอิญหรือ”

ไป๋ซิวหย่วนพยักหน้า

สายตาของซือลั่วเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที "คุณชายไป๋แต่งตัวดีและยังสนิทสนมกับโจวซืออี้ถึงเพียงเพียงนั้น ครอบครัวน่าจะมั่งคั่งร่ำรวย คงไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านมาที่ร้านค้าเล็กๆ เช่นนี้เพื่อซื้อผ้าทำชุดด้วยตัวเองหรอกกระมัง”

ไป่ซิวหย่วนผงะไปครู่หนึ่งแล้วจึงยิ้ม "ซือ...ฮูหยินเว่ยฉลาดเป็นกรดแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก”

ซือลั่วลุกขึ้นแปะมือ "สามีที่บ้านข้ามีฐานะอะไรคุณชายไป๋น่าจะรู้ชัด เพื่อที่จะไม่เพิ่มปัญหาให้กับคุณชายโดยไม่จำเป็นข้าคงต้องขอตัวก่อน”

เมื่อกล่าวจบก็หันกายจากไป

ไป่ซิวหย่วนมองเงาด้านหลังของนางแล้วยิ้ม “ฮูหยินเว่ย ด้านหน้ายังมีร้านขายผ้าไป๋จี้ ราคาเป็นธรรม ฮูหยินสามารถไปดูได้”

เว่ยฉงซีเหลือบมองและพยักหน้า "ดีมาก"

เพียงแต่มันดูคลุมเครือเล็กน้อย

ซือลั่วไม่ได้รับผลกระทบจากโจวซืออี้โดยสิ้นเชิง นางรื้อของที่ซื้อมาวันนี้ออกมา แล้วขมวดคิ้ว “เว่ยฉงซี เจ้าดูสิข้าซื้อผักเหล่านี้มามากเกินไปแล้ว หากกินไม่หมดพรุ่งนี้ก็ไม่น่ากินแล้ว”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าลุกไม่ขึ้นหรือ” เว่ยฉงซีถาม

ซือลั่วผงะและหัวเราะแห้งๆ "ที่พูดมาก็ใช่ ที่พูดมาก็ใช่ วันนี้ตอนเย็นพวกเราทำผัดไข่ไก่ อาหารจานเย็นจากผักปวยเล้งจานหนึ่ง แล้วค่อยทำน้ำแกงเกอต่าอีกอัน ใช่แล้ว...”

ซือลั่วหยิบห่อกระดาษน้ำมันที่มีซาลาเปาลูกใหญ่สามลูกอยู่ข้างในออกมา "นี่ให้เจ้า"

เว่ยฉงซีไม่เกรงใจและรับมันไป กินอย่างช้าๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นซือลั่วกำลังจ้องเขาอยู่ บนใบหน้าเขียนคำว่า “อยากกิน” สองคำ

“กินด้วยกันไหม”

“ได้เลย!" เมื่อครู่ซือลั่วไม่ค่อยหิว ทว่าเมื่อเห็นเว่ยฉงซีกินจึงหิวนิดหน่อย แต่ตนเองก็อายเกินกว่าจะพูด คำพูดตอนนี้ของเว่ยฉงซีตรงกับใจของนางอย่างยิ่งพอดี

ทั้งสองกินซาลาเปาอยู่ แต่โจวซืออี้ที่อยู่ด้านนอกและได้ยินเสียงเอะอะจากด้านในก็โมโหจนสะบัดแขนเสื้อจากไป

เมื่อกลับมาถึงหอเทียนเซียงที่โดยปกติจะเต็มไปด้วยผู้คน แต่ตอนนี้กลับมีแขกเพียงแค่สองโต๊ะและทั้งหมดยังมองไปทางหอจวี้เซียนที่อยู่ถัดไปอีก

ทั้งหมดเป็นเพราะสตรีที่น่ารังเกียจผู้นั้น

"คุณชาย แขกผู้นั้นกำลังมาแล้ว ถ้าหากเห็นฉากนี้เข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะ!"

"ให้คนไปซื้ออาหารสองสามอย่างกลับมาจากหอจวี้เซียน ข้าไม่เชื่อว่าพวกเราจะทำออกมาไม่ได้ ถ้าหากยังทำไม่ได้อีก ก็ไปขุดเอาพ่อครัวจากที่นั้นมา!"

โจวซืออี้ตัดสินใจแล้ว ตระกูลโจวของพวกเขาจะไม่ยอมเสียหน้าต่อหน้าชายคนใหญ่คนโตผู้นั้นอย่างเด็ดขาด

ผู้ดูแลร้านถงรู้สึกว่าวิธีนี้อาจจะใช้ได้ จึงรีบไปทำอย่างรีบร้อน

โจวซืออี้หยิบถ้วยชาบนโต๊ะมาจิบหนึ่งอึก จากนั้นก็วางถ้วยชาลงไปอย่างแรง

แต่ในใจกลับปรากฏใบหน้าของซือลั่ว โจวซือยิ่งรู้สึกว่านางน่ารังเกียจมากขึ้นไปอีก เป็นแค่สตรีไร้ยางอายผู้หนึ่งยังจะหลงคิดไปว่าทำอาหารเป็นแค่ไม่กี่อย่างก็เก่งแล้วงั้นหรือ ช่างน่าขันยิ่งนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน