ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 37

เมื่อมองไปที่ร้านอาหารที่มีผู้คนพลุกพล่าน ผู้ดูแลร้านเจียงยุ่งมาตั้งแต่เช้าจวบจนตอนนี้ ที่จริงตอนแรกก็มีคนไม่มากนัก แต่คนเรามักจะชอบทำตามกระแส ที่หอจวี้เซียนทำอาหารเมื่อวานเหล่านั้นออกมาก็มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาลิ้มลอง แต่เพราะราคาอาหารทั้งถูกและอร่อย รสชาติก็แปลกใหม่ และยังทำให้หอเทียนเซียงปลดป้ายร้านได้อีก แน่นอนว่าต้องมีคนมาเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา

ผู้ดูแลร้านเจียงมีความสุขจนยิ้มปากไม่หุบ คาดไม่ถึงว่าหอจวี้เซียนที่โดนกดข่มมาหลายปีถึงเพียงนั้น จะมีวันหนึ่งที่สามารถกดข่มหอเทียนเซียงได้อย่างเกิดคาด

ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้อยู่ ก็มีคนมาส่งจดหมายมาจากด้านนอก

เมื่อเห็นจดหมาย ผู้ดูแลร้านเจียงก็จริงจังขึ้นมาทันที

มีคนสำคัญกำลังมา...

ผู้ดูแลร้านเจียงเข้าใจ อาหารไม่กี่อย่างในร้านของตนเหมาะสมกับลูกค้าระดับกลางถึงล่าง นอกจากนี้วิธีการทำก็เรียบง่ายมากจนอาจถูกผู้อื่นลอกเลียนได้ในไม่ช้า

เมื่อถึงเวลานั้น หอจวี้เซียนก็ยังคงต้องตกเป็นรองและพ่ายแพ้ให้กับหอเทียนเซียงอยู่ดี

นับประสาอะไรกับอาหารไม่กี่อย่างนี้ที่เดิมทีคงขายไม่ออก ถ้าอยากชนะหอเทียนเซียงยังต้องใช้กลยุทธ์มากกว่านี้

ผู้ดูแลร้านเจียงคิดถึงซือลั่ว แต่ทว่าฐานะของนางมีความพิเศษ หากจัดการได้ไม่ดีก็อาจพัวพันถึงหอจวี้เซียน

ผู้ดูแลร้านเจียงอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ซือลั่วไม่ได้รับรู้สถานการณ์เรื่องราวของร้านอาหารทั้งสอง

นางซื้อผ้ามาแล้วจึงทำชุดนอนอย่างสบายใจ ฝีมือปักเย็บของซือลั่วไม่ค่ออยดี หากฝึกฝนมากหน่อยอาจจะพอได้ แต่หากให้เทียบกับเหล่าสตรีในยุคนี้แล้วล่ะก็ ยังห่างชั้นกันอยู่มาก

ตอนที่นางทำชุด เว่ยฉงซีก็นั่งดื่มชาอยู่ด้านข้างและชมวิวทิวทัศน์  บางทีก็ช่วยนางโดยการเป็นไม้แขวนเสื้อลองชุด

สามวันต่อมา ชุดนอนของซือลั่วก็นับว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ของนางเป็นชุดคลุมผูกเอวตัวยาว ทั้งเรียบง่ายทั้งถอดและสวมใส่สะดวก

เว่ยฉงซีนั่งหรี่ตาอยู่ด้านข้าง

ซือลั่วไม่ได้สังเกตเห็นโดยสิ้นเชิง นางลองคลุมไว้บนตัวแล้วรู้สึกว่าใช้ได้แล้ว จึงโยนของเว่ยฉงซีให้เขา “ท่านอ๋องน้อย ลองหน่อยไหม”

เว่ยฉงซีไม่ได้แสดงว่ามีความสนใจ แต่กลับเหลือบมองนางทีหนึ่ง "เจ้าจะนอนแต่สวมใส่ชุดแบบนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ใครกัน”

ซือลั่วตกตะลึง จากนั้นก็หน้าแดงและจ้องเขาเขม็ง “ไม่ต้องให้เจ้ามายุ่ง!”

เว่ยฉงซีหรี่ตา "อย่าลืมว่าเจ้าเป็นคนของใคร!"

"ท่านอ๋องน้อย อย่าทำให้เสียบรรยากาศแบบนี้ได้ไหม”

เว่ยฉงซีดื่มน้ำอึกหนึ่ง "ที่ข้าพูดไปล้วนเป็นความจริง นอกเสียจากว่าเจ้าต้องการจะใส่ให้ข้าดู”

ซือลั่วโยนชุดนอนของเขาใส่หน้าเขา "หากข้ากล้าใส่ เจ้าจะกล้าดูไหมเล่า”

เว่ยฉงซีกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็มีคนเข้ามาจากนอกประตู

ซือลั่วมองตามสายตาของเขาไปก็เห็นจงซิ่วหลิง

จงซิ่วหลิงเดินช้ามาก ก้าวเท้าเพียงเล็กน้อยและแผ่วเบา เสื้อผ้าของนางพลิ้วไหวไปตามก้าวเดิน  เอวเล็กบอบบางถูกรัดไว้จนแน่น เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแย้มบานราวกับดอกไม้ ในมือยังถือตะกร้าอยู่ใบหนึ่ง

เป็นเรื่องยากที่ซือลั่วจะพบเจอสตรีแต่งตัวเช่นนี้ เมื่อได้เห็นจึงรู้สึกใจจดใจจ่อเล็กน้อย

เว่ยฉงซีมองไปทางจงซิ่วหลิง ในใจกลับคิดว่าหากซือลั่วสวมชุดสีชมพูเช่นนี้จะดูเป็นอย่างไร

จงซิ่วหลิงเห็นทั้งสองคนจ้องมองนางตาค้าง พริบตาเดียวอารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะทันตา สองวันที่ผ่านมานี้นางก็มา แต่เป็นเพราะซือลั่วออกไปซื้อของแล้วใส่กลอนประตูไว้จึงเข้าไม่ได้

ในที่สุดวันนี้ก็คว้าโอกาสที่ยากลำบากนี้ได้ นางแต่งตัวอย่างประณีตที่สุดถึงจะมา

“น้องสาวซือลั่ว” จงซิ่วหลิงร้องเรียกด้วยเสียงที่ชัดเจนไพเราะที่ทำให้รู้สึกประทับใจ

“พี่สาวจง”

จากนั้นซือลั่วจึงได้สติกลับมา ลุกขึ้นยืนพร้อมยิ้มอย่างจอมปลอมให้จงซิ่วหลิงและยื่นมือรับตะกร้าของนางมา “วันนี้พี่สาวจงนำของกินอะไรมาให้ข้าอีกแล้วล่ะ”

ความสะอิดสะเอียนพาดผ่านในดวงตาของจงซิ่วหลิง ในใจก็คิดว่าเสียดายที่ตนเองกระสับกระส่ายไปหลายวันเพราะคิดไปว่าเจ้าโง่เง่าผู้นี้มันเปลี่ยนไปฉลาดแล้ว ที่แท้ก็ยังเป็นเจ้าโง่เง่าอยู่

"บ้านญาติของข้าส่งผลซิ่งจากภูเขามาให้ พอดีนึกถึงเจ้ากับพี่เว่ยจึงนำมามอบให้พวกเจ้า” หลังจากพูดจบสายตาของนางก็ตกลงที่ชุดบนโต๊ะ ชุดนอนของซือลั่วอยู่บนเก้าอี้ แต่ของเว่ยฉงซีอยู่บนโต้ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน