เมื่อมองไปที่ร้านอาหารที่มีผู้คนพลุกพล่าน ผู้ดูแลร้านเจียงยุ่งมาตั้งแต่เช้าจวบจนตอนนี้ ที่จริงตอนแรกก็มีคนไม่มากนัก แต่คนเรามักจะชอบทำตามกระแส ที่หอจวี้เซียนทำอาหารเมื่อวานเหล่านั้นออกมาก็มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาลิ้มลอง แต่เพราะราคาอาหารทั้งถูกและอร่อย รสชาติก็แปลกใหม่ และยังทำให้หอเทียนเซียงปลดป้ายร้านได้อีก แน่นอนว่าต้องมีคนมาเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา
ผู้ดูแลร้านเจียงมีความสุขจนยิ้มปากไม่หุบ คาดไม่ถึงว่าหอจวี้เซียนที่โดนกดข่มมาหลายปีถึงเพียงนั้น จะมีวันหนึ่งที่สามารถกดข่มหอเทียนเซียงได้อย่างเกิดคาด
ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้อยู่ ก็มีคนมาส่งจดหมายมาจากด้านนอก
เมื่อเห็นจดหมาย ผู้ดูแลร้านเจียงก็จริงจังขึ้นมาทันที
มีคนสำคัญกำลังมา...
ผู้ดูแลร้านเจียงเข้าใจ อาหารไม่กี่อย่างในร้านของตนเหมาะสมกับลูกค้าระดับกลางถึงล่าง นอกจากนี้วิธีการทำก็เรียบง่ายมากจนอาจถูกผู้อื่นลอกเลียนได้ในไม่ช้า
เมื่อถึงเวลานั้น หอจวี้เซียนก็ยังคงต้องตกเป็นรองและพ่ายแพ้ให้กับหอเทียนเซียงอยู่ดี
นับประสาอะไรกับอาหารไม่กี่อย่างนี้ที่เดิมทีคงขายไม่ออก ถ้าอยากชนะหอเทียนเซียงยังต้องใช้กลยุทธ์มากกว่านี้
ผู้ดูแลร้านเจียงคิดถึงซือลั่ว แต่ทว่าฐานะของนางมีความพิเศษ หากจัดการได้ไม่ดีก็อาจพัวพันถึงหอจวี้เซียน
ผู้ดูแลร้านเจียงอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
…
อย่างไรก็ตาม ซือลั่วไม่ได้รับรู้สถานการณ์เรื่องราวของร้านอาหารทั้งสอง
นางซื้อผ้ามาแล้วจึงทำชุดนอนอย่างสบายใจ ฝีมือปักเย็บของซือลั่วไม่ค่ออยดี หากฝึกฝนมากหน่อยอาจจะพอได้ แต่หากให้เทียบกับเหล่าสตรีในยุคนี้แล้วล่ะก็ ยังห่างชั้นกันอยู่มาก
ตอนที่นางทำชุด เว่ยฉงซีก็นั่งดื่มชาอยู่ด้านข้างและชมวิวทิวทัศน์ บางทีก็ช่วยนางโดยการเป็นไม้แขวนเสื้อลองชุด
สามวันต่อมา ชุดนอนของซือลั่วก็นับว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ของนางเป็นชุดคลุมผูกเอวตัวยาว ทั้งเรียบง่ายทั้งถอดและสวมใส่สะดวก
เว่ยฉงซีนั่งหรี่ตาอยู่ด้านข้าง
ซือลั่วไม่ได้สังเกตเห็นโดยสิ้นเชิง นางลองคลุมไว้บนตัวแล้วรู้สึกว่าใช้ได้แล้ว จึงโยนของเว่ยฉงซีให้เขา “ท่านอ๋องน้อย ลองหน่อยไหม”
เว่ยฉงซีไม่ได้แสดงว่ามีความสนใจ แต่กลับเหลือบมองนางทีหนึ่ง "เจ้าจะนอนแต่สวมใส่ชุดแบบนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ใครกัน”
ซือลั่วตกตะลึง จากนั้นก็หน้าแดงและจ้องเขาเขม็ง “ไม่ต้องให้เจ้ามายุ่ง!”
เว่ยฉงซีหรี่ตา "อย่าลืมว่าเจ้าเป็นคนของใคร!"
"ท่านอ๋องน้อย อย่าทำให้เสียบรรยากาศแบบนี้ได้ไหม”
เว่ยฉงซีดื่มน้ำอึกหนึ่ง "ที่ข้าพูดไปล้วนเป็นความจริง นอกเสียจากว่าเจ้าต้องการจะใส่ให้ข้าดู”
ซือลั่วโยนชุดนอนของเขาใส่หน้าเขา "หากข้ากล้าใส่ เจ้าจะกล้าดูไหมเล่า”
เว่ยฉงซีกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็มีคนเข้ามาจากนอกประตู
ซือลั่วมองตามสายตาของเขาไปก็เห็นจงซิ่วหลิง
จงซิ่วหลิงเดินช้ามาก ก้าวเท้าเพียงเล็กน้อยและแผ่วเบา เสื้อผ้าของนางพลิ้วไหวไปตามก้าวเดิน เอวเล็กบอบบางถูกรัดไว้จนแน่น เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแย้มบานราวกับดอกไม้ ในมือยังถือตะกร้าอยู่ใบหนึ่ง
เป็นเรื่องยากที่ซือลั่วจะพบเจอสตรีแต่งตัวเช่นนี้ เมื่อได้เห็นจึงรู้สึกใจจดใจจ่อเล็กน้อย
เว่ยฉงซีมองไปทางจงซิ่วหลิง ในใจกลับคิดว่าหากซือลั่วสวมชุดสีชมพูเช่นนี้จะดูเป็นอย่างไร
จงซิ่วหลิงเห็นทั้งสองคนจ้องมองนางตาค้าง พริบตาเดียวอารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะทันตา สองวันที่ผ่านมานี้นางก็มา แต่เป็นเพราะซือลั่วออกไปซื้อของแล้วใส่กลอนประตูไว้จึงเข้าไม่ได้
ในที่สุดวันนี้ก็คว้าโอกาสที่ยากลำบากนี้ได้ นางแต่งตัวอย่างประณีตที่สุดถึงจะมา
“น้องสาวซือลั่ว” จงซิ่วหลิงร้องเรียกด้วยเสียงที่ชัดเจนไพเราะที่ทำให้รู้สึกประทับใจ
“พี่สาวจง”
จากนั้นซือลั่วจึงได้สติกลับมา ลุกขึ้นยืนพร้อมยิ้มอย่างจอมปลอมให้จงซิ่วหลิงและยื่นมือรับตะกร้าของนางมา “วันนี้พี่สาวจงนำของกินอะไรมาให้ข้าอีกแล้วล่ะ”
ความสะอิดสะเอียนพาดผ่านในดวงตาของจงซิ่วหลิง ในใจก็คิดว่าเสียดายที่ตนเองกระสับกระส่ายไปหลายวันเพราะคิดไปว่าเจ้าโง่เง่าผู้นี้มันเปลี่ยนไปฉลาดแล้ว ที่แท้ก็ยังเป็นเจ้าโง่เง่าอยู่
"บ้านญาติของข้าส่งผลซิ่งจากภูเขามาให้ พอดีนึกถึงเจ้ากับพี่เว่ยจึงนำมามอบให้พวกเจ้า” หลังจากพูดจบสายตาของนางก็ตกลงที่ชุดบนโต๊ะ ชุดนอนของซือลั่วอยู่บนเก้าอี้ แต่ของเว่ยฉงซีอยู่บนโต้ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...