ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 44

"เว่ยฉงซี ข้าเข้าไปนะ!" ซือลั่วกล่าว

เว่ยฉงซีไม่ได้ตอบ ซือลั่วก็ผลักประตูเปิดเข้ามาแล้ว และเห็นเว่ยฉงซีนั่งเช็ดกระบี่อยู่ข้างโต๊ะ

ซือลั่วกำลังจะพูด แต่เว่ยฉงซีก็หันคมกระบี่ชี้มาทางนาง

ทั้งสองสบสายตาและเห็นถึงความเดียวดายที่คุ้นเคยในดวงตาของกันและกัน...

"เจ้าทำอะไร"

ซือลั่วดูสงบแต่ลอบหวาดหวั่นอยู่ในใจ "ต้องการจะฆ่าข้าหรือ เจ้าอย่าลืมว่ารับปากแล้วว่าจะให้โอกาสข้าอีกครั้ง!"

เว่ยฉงซีไม่ตอบ เพียงแค่มองนางแล้วถามอย่างเย็นชา "เจ้าเป็นใคร"

"ข้าชื่อซือลั่วไง เจ้าเป็นบ้าอะไรกัน!" ซือลั่วปกปิดความรู้สึกร้อนตัว ประหม่าจนฝ่ามือมีเหงื่อออก

เว่ยฉงซียิ้มหยัน "ข้าไม่เชื่อ ซือลั่วตายไปแล้ว นางจมน้ำตาย ส่วนคนที่ฟื้นกลับมาไม่ใช่นาง!"

ซือลั่วตึงเครียดจนเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาไม่หยุด นางรู้ว่าตนเองมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ แต่หากจะให้นางทำทุกการเคลื่อนไหว คำพูดคำจา และกิริยาท่าทางเหมือนกับเจ้าของร่างเดิมทุกประการก็เป็นไปไม่ได้หรอก ถึงแม้ว่านางจะตั้งใจลอกเลียนแล้ว แต่ก็ปกปิดเว่ยฉงซีที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนางมาสามปีไม่ได้หรอก

ซือลั่วอยากจะบอกความจริงกับเขาอย่างยิ่ง นางกำลังลังเลว่าจะลองเดิมพันชีวิตของตนเองสักครั้งดีไหม

ขณะที่นางกำลังลังเลและสับสนอยู่นั้น จู่ๆ เว่ยฉงซีก็วางกระบี่ลงและกล่าวว่า "ซาลาเปาเสร็จแล้วหรือยัง ข้าหิวจะตายแล้ว!"

ซือลั่วตกใจ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาเป็นปกติก็ยิ่งฉงนสงสัยเข้าไปกันใหญ่ นางไม่เข้าใจว่าเขามีแผนการอะไรอยู่กันแน่

หากสิ่งที่เขาคิดก่อนหน้านี้เป็นการคาดเดาทั้งหมด เช่นนั้นตอนนี้เว่ยฉงซีได้รับการยืนยันจากปฏิกิริยาเมื่อครู่ของซือลั่วเรียบร้อยแล้ว ว่าซือลั่วในตอนนี้ไม่ใช่ซือลั่วผู้นั้นตั้งนานแล้ว

อารมณ์ความรู้สึกที่อัดอั้นไม่มีทางที่จะระบายเนื่องจากพวกหมอกงของเว่ยฉงซี พริบตาเดียวก็มีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย

ไม่ใช่ก็ดี

เขารู้สึกอย่างเบาบางว่า ซือลั่วอาจเป็นเทพเซียนที่พระเจ้าส่งนางมาให้ช่วยเหลือเขา หลังจากเห็นความอยุติธรรมของตระกูลเว่ย

ซือลั่วโดนเว่ยฉงซีทำให้ตกใจกลัวจนเหลือทน นางหวาดกลัวจนตัวสั่นว่าจะถูกสังเวยชีพให้กับสวรรค์ในฐานะปีศาจ

เมื่อเห็นเว่ยฉงซีที่กลับมาสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นางจึงกล่าวด้วยความลังเลว่า "ข้าจะแบกเจ้า"

เว่ยฉงซีส่ายหัว "ไม่ต้อง ข้าจะปล่อยให้เจ้าแบกไปตลอดไม่ได้"

ความอ่อนโยนที่มาอย่างกะทันหันของเขาทำให้ซือลั่วตัวสั่นระริก

เว่ยฉงซีรู้สึกว่าตนเองเปลี่ยนไปเร็วเกินไป เขาจัดระเบียบความคิดก่อนที่จะพูดว่า "ข้าขยับเองได้!"

ซือลั่วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดูเขาคลาน ยิ่งดูก็ยิ่งทนดูไม่ไหวจนต้องเบนสายตาออกไป

รูปลักษณ์ของซาลาเปาดูไม่ค่อยดี แต่รสชาติกลับไม่เลวเลยทีเดียว

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทานอาหาร เว่ยฉงซีก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นซาลาเปาไส้เนื้อลูกใหญ่สองลูกที่เห็นได้ชัดว่าดีกว่าซาลาเปาของซือลั่วมาก

มันเป็นอันที่จงซิ่วหลิงนำมาให้ แต่ซือลั่วกลับไม่ได้โยนมันทิ้งไป

“เอาพวกนี้ไปโยนทิ้งซะ!” เว่ยฉงซีกล่าว

ซือลั่วอดไม่ได้ที่จะถลึงตามองเขาและเคาะตะเกียบบนชาม "เพิ่งกินอิ่มมาไม่กี่วันก็ลืมไปแล้วว่ารสชาติของความอดอยากเป็นอย่างไร เหตุใดจะต้องเอาของดีๆ ไปโยนทิ้งด้วย”

เว่ยฉงซีชำเลืองมองนาง ของที่จงซิ่วหลิงนำมาให้นางก็ไม่แม้แต่จะรังเกียจที่จะกินมัน

“เจ้าไม่กลัวว่าจงซิ่วหลิงจะวางยาเจ้าจนตายหรือ” เว่ยฉงซีตีบบะหมี่เย็นกินไปพลางถามไปพลาง

ซือลั่วตะลึง แล้วจึงส่ายหัว "ไม่ใช่ว่านำมาให้เจ้าหรือ นางไม่ได้ต้องการจะวางยาพิษเจ้าเสียหน่อย!"

เมื่อเว่ยฉงซีเห็นว่านางไม่ได้หึงหวงแม้แต่น้อย กระทั่งยังดูมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอีกก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "ถ้าหากมีของส่งเสริมอารมณ์อะไรผสมอยู่ด้านใน ข้าไม่เป็นไรหรอก ข้าแค่เกรงว่าเจ้าจะรับไม่ไหว”

ซือลั่วตกใจจากนั้นหน้าก็แดง หรือว่าเขาได้ยินที่นางคุยกับหมอกง

สุดท้ายซือลั่วก็ทิ้งซาลาเปาไป ถ้าหากถูกวางยาขึ้นมาจริงๆ คงได้ไม่คุ้มเสีย  คนอย่างจงซิ่วหลิงจะทำเรื่องอะไรออกมาก็ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน