วันรุ่งขึ้น กว่าซือลั่วจะตื่นก็สายมากแล้ว
นางรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงไม่อยากขยับตัว กว่าจะลุกขึ้นมาก็สายมากแล้ว
ซือลั่วออกจากห้องและเห็นว่าเว่ยฉงซีกำลังกินโจ๊กอยู่
“ข้าต้มโจ๊กแล้ว” เขาพูดง่ายๆ แค่สี่คำ
ซือลั่วพยักหน้า ตักมาหนึ่งชามแล้วกินอย่างเชื่องช้า
ทันใดนั้นเว่ยฉงซีก็ถอนหายใจ
"เป็นอะไรไป” ซือลั่วอยากจะเพิกเฉยอย่างยิ่ง ทว่าเขาถอนหายใจได้ชัดเจนเกินไปแล้ว
เว่ยฉงซีกล่าวว่า "แม่รองของข้าทำเค้กถั่วแดงเยี่ยมยอดมาก ทุกครั้งพี่ใหญ่กับข้าล้วนต้องแย่งกันกิน น่าเสียดายที่ไม่สามารถกินมันได้อีกแล้ว”
สิ่งที่เว่ยฉงซีพูดเป็นความจริงเช่นกัน
ซือลั่วกล่าวอย่างตกใจว่า "เค้กถั่วแดง?"
จริงๆ แล้วซือลั่วไม่ค่อยชอบเค้กถั่วแดงที่ทำจากยุคโบราณ ตอนที่เห็นมันก็ไม่ได้มีความอยากอาหารมากนัก คาดไม่ถึงว่าเว่ยฉงซีจะชอบกิน
เขาพยักหน้า "ใช่แล้ว สามปีมานี้ข้ายังไม่เคยได้กินมันอีกเลย”
“แต่ว่าข้าทำไมเป็นนะ”
ซือลั่วทำอะไรไม่ถูก นางทำไม่เป็นจริงๆ และเค้กถั่วแดงก็ไม่ใช่ของที่อร่อยอะไรอีกนางจึงไม่เคยเรียนรู้วิธีทำมาก่อน ตอนที่อบขนมเคยเรียนมากที่สุดก็แค่ไม่กี่วัน แต่นางทำถั่วแดงกวนได้ทั้งยังมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมกว่าเค้กถั่วแดงมากโข ทว่าถั่วแดงกวนก็ไม่ได้รสชาติเช่นแม่รองของเขาอีก
เว่ยฉงซีก้มศีรษะไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น
หลังจากที่ทั้งสองกินโจ๊กเสร็จ ดวงตาของซือลั่วก็เป็นประกาย "ข้าไปซื้อกลับมาให้เจ้าหนึ่งห่อก็ได้แล้ว ข้าจำได้ว่าบนถนนมีร้านขนมอยู่หนึ่งแห่ง”
เว่ยฉงซีส่ายหัว "ถึงซื้อมาก็ไม่เหมือนรสมือของแม่รองข้า"
ซือลั่วเดินไปข้างกายเขาและปลอบใจด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "ท่านได้จากไปแล้ว หากเจ้าอยากกินข้าค่อยไปเรียนรู้วิธีทำก็ได้"
เว่ยฉงซีผงกหัวอย่างเชื่อฟังและหลุบตาลง
ซือลั่วล้างจานและกลับมาเปลี่ยนชุด แล้วจึงถามว่า "เจ้าอยากกินสิ่งใดอีกไหม"
เว่ยฉงซีส่ายหัว "ไม่มีแล้ว"
เมื่อซือลั่วเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่ถามใดๆ อีก วันนี้นางยังต้องไปหอจวี้เซียนอีกรอบเพื่อดูว่าผู้ดูแลร้านเจียงกลับมาแล้วหรือยัง
ซือลั่วพึ่งจะออกจากบ้านก็บังเอิญพบกับหลี่ซื่อ หลี่ซื่อเหลือบมองซือลั่วด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร ซือลั่วก็ชะงักครู่หนึ่งเช่นเดียวกัน เมื่อเดินผ่านไปแล้วจึงนึกขึ้นได้ว่าหลี่ซื่อเป็นใคร
มารดาของจงซิ่วหลิง
พอซือลั่วหันกลับไปหลี่ซื่อก็ยังจ้องมองนางอยู่ ทั้งสองประสานสายตากันจนเกือบจะมีประกายไฟพวยพุ่งออกมา
ซือลั่วรู้สึกว่าหญิงผู้นี้ไม่ธรรมดา
เมื่อคิดกลับกัน นางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดจงซิ่วหลิงที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงแค่หญิงสาวจากชนบทจึงได้มีเล่ห์เหลี่ยมมากถึงเพียงนั้น เกรงว่าจะเป็นเพราะหลี่ซื่อผู้นี้เสี้ยมสอนมา
นางหลุบตาลง นึกถึงห่อยาเมื่อวาน ถ้าหากพวกนางไม่มายุ่งเกี่ยวกับนาง ตัวนางเองก็จะไม่ลงมือก่อน แต่หากจงซิ่วหลิงมาทำร้ายนางอีกก็อย่าโทษว่าข้าใจดำก็แล้วกัน
หลังจากมองตามจนซือลั่วออกลับไปจากตรอก หลี่ซื่อจึงละสายตากลับมา นางรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าเจ้าโง่ซือเหมือนจะแตกต่างไปจากแต่ก่อน
จนถึงหน้าประตูใหญ่หลี่ซื่อเห็นเว่ยฉงซีกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตอนที่นางมองเขาจู่ๆ เว่ยฉงซีก็ลืมตาขึ้นมามองนางเช่นเดียวกัน หลี่ซื่อตกใจกับสายตาของเขา สายตาคู่นั้นดุดันยิ่งนักและแฝงการตักเตือนอยู่เป็นนัยๆ อย่างเข้มข้น บนกายของเขายังมีกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ที่เหนือกว่าอีกด้วย
เมื่อครั้งที่หลี่ซื่อยังไม่ออกเรือนนางเคยเป็นสาวรับใช้ในเรือนของผู้สูงศักดิ์อยู่หลายปีเลยได้เรียนรู้อะไรมาไม่น้อยจากหญิงสาวผู้นั้น ต่อมาคุณหนูใช้วิธีการของตนเองจนสามารถแต่งไปอยู่หลานจิง ส่วนหลี่ก็ก็กลับมาอยู่ตำบลหย่วนซาน จากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคุณหนูทำให้นางใช้ชีวิตอยู่ในตำบลหย่วนซานเล็กๆ นี้ได้อย่างไม่เลวเลยทีเดียว ดังนั้นนางจึงสั่งสอนวิธีการเหล่านั้นให้กับบุตรสาวของนาง เพียงแต่ดูเหมือนจงซิ่วหลิงจะไม่ได้เรียนรู้ถึงสาระสำคัญ
เมื่อเห็นซือลั่วกับเว่ยฉงซีในวันนี้ หลี่ซื่อมีสัญชาตญาณอย่างหนึ่งว่าพวกเขาไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านี้
หลี่ซื่อก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะมองเว่ยฉงซีอีกและรีบกลับบ้านไปอย่างรีบร้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...