ซือลั่วเข้าครัว เตรียมต้นหอมสับกับหัวไชเท้าหั่นเต๋า เติมเกลือลงไปในไข่ไก่และตีให้เข้ากัน แล้วจึงใส่ต้นหอมสับกับหัวไชเท้าหั่นเต๋าลงไปในไข่ จากนั้นเติมแป้งบะหมี่หมี่แล้วคนให้เข้ากันจนเหลว รอจนกระทะร้อนได้ที่จึงใส่น้ำมันเล็กน้อยแล้วค่อยเทไข่ลงไปเป็นแผ่นกลม เมื่อย่างจนพอประมาณจึงกลับด้านแล้วตักออกมา เท่านี้ก็ทำแป้งไข่ไก่ใส่ต้นหอมเสร็จเรียบร้อยไปหนึ่งแผ่น นางยังอุ่นโจ๊กเมื่อคืนวานให้ร้อนแล้วค่อยตักออกมาอีกด้วย
ซือลั่วลองชิมดูหนึ่งคำ รสชาติสมบูรณ์แบบ ไข่ไก่และต้นหอมจากยุคสมัยโบราณล้วนมาจากธรรมชาติ แป้งไข่ไก่ที่ทำออกมาจึงมีรสชาติแสนโอชะ ซือลั่วอดกินอีกคำไม่ได้ถึงจะยกอาหารเข้าไปในบ้าน
เว่ยฉงซีกำลังชมดอกไม้บนขอบต่างหน้าด้วยความเบื่อหน่าย
“กินข้าว” นางวางอาหารเช้าลงบนโต๊ะ
เว่ยฉงซีเคยกินแป้งไข่ไก่มาก่อน ทว่ามันก็ตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว ขณะนี้ได้กินอีกคราจึงรู้สึกว่ามันช่างอร่อยล้ำเหลือ
เมื่อเขาเห็นว่าซือลั่วเอื้อมมือมาจะหยิบอีกก็ได้หยิบตะเกียบตีไปที่มือนาง “คนละครึ่ง ส่วนของเจ้าหมดแล้ว”
ซือลั่วพูดไม่ออก
นางมองแล้วมองอีก เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่ายังมีอีกมากกว่าครึ่งแผ่น เหตุใดจึงไม่มีส่วนของนางแล้วเล่า
“ตอนที่ยกเข้ามามันก็แหว่งไปแล้ว ต้องเป็นเพราะเจ้าแอบกินไปอย่างแน่นอน ดังนั้นส่วนที่เหลือจึงเป็นของข้า”
เว่ยฉงซีตะครุบมันขึ้นมาฉีกออกและใส่เข้าปากสองสามที จากนั้นยกชามและดื่มโจ๊กในชามจนเรียบวุธ
ซือลั่วมองดูโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่าและขมวดคิ้ว
เว่ยฉงซีเช็ดปาก "ข้าอยากออกไปอาบแดด"
ซือลั่วลุกขึ้นยืนทันใด "คนเนรคุณ ปีนออกไปเอง!”
กล่าวจบก็จากไปพร้อมกับชามที่ว่างเปล่า
นางยังกระแทกประตูเสียงดังอีกด้วย
หลังจากที่นางจากไป มุมปากของเว่ยฉงซีก็ยกขึ้นเล็กน้อย วันนี้เขาอารมณ์ดีเสียจริง
จนเมื่อเขาออกมา อากาศข้างนอกดีมากดังคาด เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามคราแล้วจึงนั่งอาบแดดอยู่บนเก้าอี้
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นซือลั่วถือแป้งไข่ไก่อีกสองแผ่นออกมาและมอบให้หนึ่งแผ่น
"ระวังลวก"
เว่ยฉงซีตกตะลึง
ซือลั่วพูดอีกว่า "รีบรับไปเร็วเข้า ข้าจะโดนลวกจนตายแล้ว”
เว่ยฉงซีรับมันมา ซือลั่ววางแป้งลงในชามและหยิบมากินทีละชิ้น หลังจากกินไปได้กว่าครึ่งก็เห็นว่าเว่ยฉงยังไม่ขยับเขยื้อน
“ทำไมไม่กินเล่า ข้าคิดว่าเจ้ากินไม่อิ่มเสียอีก
ซือลั่วถาม
เดิมทีนางโมโหมาก เมื่อเข้าไปในครัวจึงตัดสินใจจะทำเองแค่แผ่นเดียวและไม่ให้เว่ยฉงซีกิน ทว่าหลังจากทำเสร็จไปหนึ่งแผ่นความโกรธของนางก็สลายหายไป เมื่อคิดถึงพฤติกรรมแบบเด็กน้อยของเว่ยฉงซี นางก็ใจอ่อนยวบลงไปหลายส่วน
เขาจะต้องกินไม่อิ่มอย่างแน่นอน
ซือลั่วจึงทำอีกแผ่น
เว่ยฉงซีถือแป้งไข่ไก่ไว้ในมือด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เขาคิดไปว่าซือลั่วจะโกรธจนไม่สนใจเขาแล้วเสียอีก
แต่ทว่า…
เขามองไปทางแป้งในมือด้วยความรู้สึกอันมากมายที่ประดังประเดเข้าสู่หัวใจ
“ซือลั่ว!”
"หา?"
ซือลั่วกินจนปากมันไปหมดและไม่หลงเหลือภาพลักษณ์อันใดเลย
"เหตุใดเจ้าจึงได้ดีต่อข้า" เว่ยฉงซีถาม
ซือลั่วชะงัก เงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงตาดำขลับอันล้ำลึกของเว่ยฉงซี
นางจะต้องพูดอย่างไร?
ชดเชยแทนเจ้าของร่างเดิมหรือ? ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะสงสารเขาหรือ
ดูเหมือนก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว
“เพราะพวกเราเป็นสามีภรรยากัน”
ซือลั่วกล่าว
เว่ยฉงซีมองไปที่นางและถามอย่างบีบคั้นว่า "พวกเราเป็นสามีภรรยากันหรือ"
ซือลั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายหัว "ก็ไม่เชิง ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจนถึงตอนนี้ พวกเรามีกันอยู่เพียงเท่านี้ที่ให้พึ่งพากันได้ ตระกูลซือหวังจะให้ข้าไปข้างตายอยู่ข้างนอก เจ้ากับข้าอยู่ที่นี้ไร้ญาติขาดมิตร เจ้าจึงเป็นญาติเพียงคนเดียวของข้า”
เว่ยฉงซีชะงัก เขาคาดไม่ถึงว่าซือลั่วจะตอบเช่นนี้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...