ซือลั่วมองเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดโดยที่ไม่เข้าใจว่าเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ใช้คำเรียกขานว่า “ภรรยา” ที่ทำให้คนขนลุกชูชันจริง ๆ
เว่ยฉงซีมองไปทางช่างไม้หลี่จากหางตาและเห็นว่าเขาตกตะลึงจนเงินในมือทั้งหมดร่วงตกลงไปบนพื้นเสียแล้ว
ป้าไช่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างเช่นเดียวกันจึงเก็บเงินขึ้นมาแล้วผลักเขา “เจ้าลูกชายบ้านหลี่คนที่สาม”
ป้าไช่ไหนเลยจะมองไม่ออกว่าช่างไม้หลี่มีความคิดอะไร หากซือลั่วไม่ได้แต่งงาน ช่างไม้หลี่ก็ยังมีความเป็นไปได้ ทว่าคนเขาแต่งงานไปแล้ว แม้สามีจะพิการแต่ก็คงจะไร้วาสนาเสียแล้ว
ช่างไม้หลี่ได้สติกลับมา เขาจ้องซือลั่วสักพักแล้วจึงค่อยมองไปทางเว่ยฉงซี
นางแต่งงานแล้วและสามีก็ยังพิการอีกด้วย...
ชั่วขณะนั้นช่างไม้หลี่ไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ได้ ป้าไช่ได้เรียกเขาอีกครั้ง เขาถึงได้สติกลับมาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น
"อ้อ!"
เขาตอบรับหนึ่งครั้งและรับเงินมา พร้อมกับยืนนิ่งเฉยไม่พูดไม่จาอยู่ด้านข้าง
ป้าไช่ถึงได้ลอบถอนใจด้วยความโล่งอก
ซือลั่วไม่ได้คิดอะไรหยุมหยิมนัก นางคิดว่าเว่ยฉงซีอาจจะคำนึงว่ากำลังเผชิญหน้ากับคนนอกอยู่ถึงได้เรียกนางเช่นนี้
นางรีบต้อนรับป้าไช่กับคนอื่นให้ดื่มน้ำและจะเตรียมหั่นเนื้อเพื่อมาห่อเกี๊ยว ในบ้านไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานมากเสียแล้ว
“ท่านป้า ครานี้ต้องขอบคุณพวกท่านอย่างมาก วันนี้ก็อยู่กินเกี๊ยวที่บ้านข้าก่อนเถิด” ซือลั่วกล่าวด้วยร้อยยิ้ม
ครานี้ป้าไช่ยังนำไข่ไก่มาตะกร้าหนึ่ง พืชผักจำนวนหนึ่ง แม้กระทั่งสตรอเบอร์รี่ป่าก็ยังมี ซือลั่วไม่ทราบเช่นกันว่าราคาเท่าใด ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงควักเงินออกมามอบให้ป้าไช่ห้าสิบเหวิน
ป้าไช่โบกไม้โบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า "มากเกินไป แค่พืชผักจากครอบครัวชาวนามันไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากนัก”
ซือลั่วจึงกล่าว "ไม่มากหรอก ข้ายังต้องขอบคุณท่านป้าอีกที่มาส่งของให้พวกเราตั้งแต่เช้าตรู่”
นางพูดจามีพิธีรีตองไม่ค่อยเป็นนักและซือลั่วก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเงินอีกด้วย นางชอบหาเงิน เมื่อหาได้แล้วก็ชอบที่จะเสพสุข ในความคิดของนาง แทนที่จะใช้เงินอย่างประหยัดไม่สู้หาให้มากขึ้นอีกหน่อยจึงจะมีความหมาย นางไม่รู้จักใครในตำบลหย่วนซาน ป้าไช่กับหลิวต้าจู้มีนิสัยใจคอไม่เลว ควรค่าแก่การผูกมิตรสนิทสนม ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งของที่พวกเขานำมาก็มีไม่น้อย
ช่างไม้หลี่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีกเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซือลั่วไม่ได้คุ้นเคยกับเขาจึงไม่มีอะไรจะพูดด้วยเป็นธรรมดา
ป้าไช่รีบกล่าวว่า "พวกเราถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนลูกชายด้วยเช่นกัน”
เมื่อซือลั่วได้ยินป้าไช่เอ่ยถึงบุตรชายอีกครั้ง นางก็จำได้ว่าเขาทำงานอยู่ในเมือง
เมื่อเห็นความประหลาดใจของซือลั่ว ป้าไช่จึงพูดว่า "มีคนมาพูดคุยเรื่องการแต่งงานกับพวกเขาสองพี่น้อง แม่นางทั้งสองเป็นพี่น้องจากสกุลถังล้วนก็เป็นคนสกุลจ้าวจากหมู่บ้านข้างเคียงจึงต้องการไปดูหน้าค่าตากันเสียหน่อยในวันรุ่งขึ้น”
ป้าไช่กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง นางเป็นหญิงหม้ายที่เลี้ยงดูหลิวต้าจู้และหลิวเซินมาด้วยตัวคนเดียว สามารถเลี้ยงพวกเขาจนเติบใหญ่ได้ก็ไม่เลวแล้ว หลิวต้าจู้อายุยี่สิบกว่าแล้วอีกไม่นานก็คงต้องครองโสด แต่ครอบครัวไม่สามารถหาเงินได้มากมายถึงเพียงนั้น
ซือลั่วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามว่า "หลิวเซินทำงานอยู่ที่ใดหรือ”
เมื่อป้าไช่กล่าวถึงตรงนี้ก็มีรอยยิ้มปรากฏในดวงตา “เป็นเด็กรับใช้ในหอเทียนเซียง แม้ว่าจะลำบากไปหน่อยแต่ก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้”
หอเทียนเซียง?
ซือลั่วกลืนน้ำลาย คิดในใจว่าคงไม่ใช่หนึ่งในสองคนที่ต้อนรับนางในวันนั้นหรอกนะ
“ท่านป้า พวกท่านนั่งลงก่อน ข้าจะไปซื้อเนื้อมาเสียหน่อย”
"ไม่ต้องหรอก พวกเราจะไปแล้วละ" ป้าไช่โบกมืออย่างรีบร้อน “ประเดี๋ยวหอเทียนเซียงก็จะยุ่งแล้ว”
ซือลั่วก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น จึงไม่ได้รั้งให้เขาอยู่ต่อ
"ใช่สิท่านป้า พี่จ้าจู้ซ่อมหลังคาได้หรือไม่” ซือลั่วถาม
เว่ยฉงซีกระแอมกระไอทีหนึ่งแล้วจึงกล่าว “ภรรยา ข้ากระหายน้ำ”
ซือลั่วมองไปที่ถ้วยชาและกาน้ำที่อยู่ข้างมือเขาแล้วคิดไปว่าเขาคงอยากจะพิสูจน์ตนเอง จึงรินน้ำให้เขาหนึ่งถ้วย
จากนั้นก็หันกายกลับมามองป้าไช่แล้วถามอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...