ซือลั่วฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ในใจนางรู้สึกเคารพเลื่อมใสในเว่ยเซียวอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในตอนนี้นางเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าเว่ยเซียวไม่มีทางวางแผนก่อกบฏอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นเขาคงจับหลี่หยวนเป็นตัวประกันเพื่อยึดครองราชสำนักตั้งแต่ปีนั้นไปแล้ว
ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะความหวาดระแวงและความใจคอคับแคบของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันที่กริ่งเกรงในอำนาจของเว่ยเซียว การได้มาซึ่งอำนาจของจักรพรรดิล้วนเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล เพียงแค่รู้สึกสงสารเว่ยฉงซีกับคนสกุลเว่ยเท่านั้น
“ตระกูลเว่ยของพวกข้ากับอาณาจักรจิน สามสิบหกชนเผ่าในซีอวี้ รวมถึงอนารยชนจากทางตอนใต้ต่างก็มีหนี้แค้นบัญชีเลือดต่อกัน พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่รับตัวข้าไว้เท่านั้น ในทางกลับกันคงจะกำจัดข้าให้สิ้นซากเสียอีก สำหรับแคว้นหนานเยว่นั้น...”
เว่ยฉงซีส่ายหัว "ในช่วงปีแรกๆ ข้าได้ไปล่วงเกินจักรพรรดิแห่งแคว้นหนานเยว่ เซียวเซิ่นจือเป็นคนอาฆาตแค้นอย่างมาก หากเขารู้ว่าข้าไปแคว้นหนานเยว่ล่ะก็ เกรงว่าข้าคงได้ตายอย่างอนาจยิ่งกว่านี้”
หลังจากที่เว่ยฉงซีกล่าวจบก็มองไปทางซือลั่ว "ดังนั้น จักรพรรดิจึงไม่ได้กังวลเลยว่าข้าจะหลบหนี เขาทิ้งข้าไว้ที่นี่เพื่อให้ข้าตกอยู่ในสภาพลำบากยากแค้นจนรู้สึกว่าอยู่ไม่สู้ตาย! แน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่า...”
ซือลั่วกล่าว "เป็นเพราะกองกำลังทหารซีเป่ยใช่หรือไม่”
เว่ยฉงซี พยักหน้า
ซือลั่วรู้นิดหน่อยว่าในปีนั้นที่องค์จักรพรรดิได้นองเลือดสกุลเว่ย เพื่อที่จะปลอบขวัญเหล่ากองกำลังทหารซีเป่ยกว่าแสนนายจึงได้เหลือตัวเว่ยฉงซีไว้ แน่นอนว่าสามปีที่ผ่านมานี้ เหล่าผู้อาวุโสในกองกำลังซีเป่ยในปีนั้นต่างถูกกำจัดไปน้อย ผู้ที่ภักดีต่อสกุลเว่ยอย่างแท้จริงยังมีอยู่มากน้อยเพียงใดก็ไม่มีใครรู้ อย่างไรก็ตามทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ต่างก็มีคนในครอบครัวกันทั้งนั้น จึงไม่สามารถสละชีพเพื่อท่านอ๋องที่สิ้นชีพไปแล้วกับท่านอ๋องน้อยที่พิการได้ อีกทั้งการต่อต้านของพวกเขาก็อาจจะไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อย
เว่ยฉงซีพยักหน้า จากนั้นจึงหัวเราะด้วยความขมขื่น "ตระกูลเว่ยของพวกข้าสร้างความลำบากให้กับพวกเขาแล้ว”
หลังจากกล่าวจบเขาก็หลุบตาลง
สาเหตุที่เขาได้รับบาดเจ็บเมื่อสามปีก่อนเป็นเพราะเขาถูกองค์จักรพรรดิส่งตัวให้ไปต่อสู้กับอาณาจักรจิน ขณะนั้นเว่ยฉงซียังไม่ทราบว่าตระกูลเว่ยกำลังจะเกิดเรื่อง เขาเพียงแค่นำกองกำลังสามพันนายบุกทะลวงเข้าไปยังดินแดนชาวหู ผลสุดท้ายกลับโดนลอบโจมตี เหล่าทหารสามพันนายดิ้นรนต่อสู้สุดชีวิตจึงสามารถส่งตัวเขาออกมาได้
ซือลั่วมองเขาโดยไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี
นางก้าวไปข้างหน้าแล้วกุมมือเขาไว้ "เว่ยฉงซี..."
เว่ยฉงซีเงยหน้าขึ้นโดยกลับคืนสู่ความเฉยเมยก่อนหน้านี้ไปแล้ว ราวกับผู้ที่เล่าเรื่องราวที่แสนจะโศกเศร้าเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เขา
"ไม่เป็นไร" เขาพูด
ซือลั่วลอบถอนหายใจ มองดูลานบ้านที่ตนเองอยู่อาศัยอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจได้ในที่สุดว่านางจะต้องไปจากที่นี่อย่างแน่นอน
การอาศัยอยู่ที่นี่นั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่านางกับเว่ยฉงซีจะอัดอั้นตันใจจนเป็นบ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากที่กองทัพซีเป่ยถูกจักรพรรดิยึดครองอย่างสมบูรณ์ เกรงว่าตอนนั้นคงจะเป็นเวลาตายของนางกับเว่ยฉงซีเป็นแน่
ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ซือลั่วจึงถามว่า "ตระกูลโจวที่โจวซืออี้อาศัยอยู่เป็นตระกูลเดียวกับโจวกุ้ยเฟยหรือไม่”
เว่ยฉงซีพยักหน้า "ปีนั้นจิ้นอ๋องเป็นผู้นำในการยึดทรัพย์สินตระกูลเว่ย”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบอย่างยิ่ง ทว่ามือที่อยู่ในแขนเสื้อกลับกำเข้าหากันจนแน่น
เขารู้ดีว่าหลี่ฉงเหยียนทำอะไรลงไปบ้าง
ซือลั่วสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขา แต่นางก็รู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับมัน บางทีคงจะดีกว่าที่ได้ระบายมันออกมา
"ตระกูลโจวเปิดหอเทียนเซียง เช่นนั้นเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังหอจวี้เซียนเป็นใครกัน”
ซือลั่วอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก ผู้ที่กล้าต่อกรกับเหลาสุราที่มีเชื้อพระวงศ์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังได้นั้นจัต้องเป็นพระบรมวงศานุวงศ์เป็นแน่
“เจ้าปราดเปรื่องนักซือลั่ว” เว่ยฉงซีมองนาง “เดาดูสิ”
ซือลั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่ฉงเหยียนเป็นโอรสสวรรค์ทั้งยังมีโจวกุ้ยเฟยเป็นผู้หนุนหลังอีก เช่นนั้นการที่หอจวี้เซียนยังมีความคิดที่จะกดข่มพวกเขาเช่นนี้ได้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันเป็นแน่ องค์รัชทายาทหรือจะเป็นเย่าอ๋องหลี่ฉงหลิน
“เย่าอ๋อง?” ซือลั่วถาม
“เหตุใดจึงไม่ใช่องค์รัชทายาทเล่า” เขาถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...