บรรยากาศที่เงียบงันอย่างแปลกประหลาดแผ่กระจายไปทั่วระหว่างพวกเขาทั้งสอง อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นกายของกันและกัน ในลานบ้านเงียบงันจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มหล่น
หลังจากนั้นไม่นาน เว่ยฉงซีชักมือกลับเข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นจึงกล่าว “ซือลั่ว ข้าหิวแล้ว”
ซือลั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากมากที่จะให้เว่ยฉงซีมาเชื่อใจนางในชั่วพริบตา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ฆ่านาง แน่นอนว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาวางแผนที่จะทำให้นางตายด้วยอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันอย่างเงียบเชียบ
“กินเกี๊ยวไหม” นางถาม
"ได้" เว่ยฉงซีไม่คัดค้าน
ซือลั่วเปลี่ยนชุดไปตลาดและซื้อเนื้อหมูหนึ่งจิน* ผักกาดขาวหัวใหญ่หนึ่งหัวแล้วจึงกลับบ้าน (คำอธิบาย หนึ่งจิน เท่ากับ ครึ่งกิโลกรัม)
ตลอดช่วงสาย นางวุ่นอยู่กับการนวดแป้งบะหมี่ รอแป้งขึ้นฟู สับไส้และห่อเกี๊ยวในครัว
ในตอนกลางวันเกี๊ยวก็พร้อมขึ้นโต๊ะ ทั้งสองกินกันอย่างเต็มปากเต็มคำ แม้แต่น้ำแกงของเกี๊ยวเว่ยฉงซีก็ซดจนเกือบจะหมดแล้ว
ซือลั่วหัวเราะเยาะเขา "ท่านอ๋องน้อย คนที่ไม่รู้คงนึกว่าข้าดูแลเจ้าไม่ดีนะเนี่ย"
เว่ยฉงซีเหลือบมองนาง แล้วนางไม่เหมือนกันหรืออย่างไร จวนจะเลียชามอยู่แล้ว
ทั้งสองต่างก็ไม่ได้เอ่ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนสาย ทำราวกับว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนไปโดยปริยาย
ทว่าซือลั่วเข้าใจดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
…
เมื่อป้าไช่และคนอื่น ๆ ออกไป ช่างไม้หลี่ก็ยังหันกลับมามองเรือนของซือลั่วเสียหลายครา
ป้าไช่จึงพูดว่า "เจ้าลูกคนที่สาม มีแม่นางดี ๆ อยู่อีกมากมาย กลับไปป้าจะแนะนำให้เจ้าหนึ่งคน”
นางกำลังพูดตามมารยาทเพื่อเป็นการเตือนช่างไม้หลี่ทางอ้อมอยู่กลาย ๆ
ช่างไม้หลี่พยักหน้าอย่างเอื่อยเฉื่อย "ขอบคุณท่านป้า ข้ารับทราบแล้ว"
ป้าไช่จึงไม่พูดมากอีก เมื่อถึงทางเข้าตรอก ช่างไม้หลี่พูดว่า "ท่านป้าข้ายังต้องไปซื้อของอีกเล็กน้อยในเมือง พวกเราค่อยพบกันที่ประตูเมืองยามโพล้เพล้แล้วกัน”
ป้าไช่พยักหน้าและพูดว่าตกลง
หลังจากแยกกับป้าไช่ ช่างไม้หลี่ยังคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่พึ่งจะออกจากตรอกก็พบกับจงซิ่วหลิงที่กลับมาจากด้านนอกพอดี จบงซิ่วหลิงเห็นมาแต่ไกลว่าเขาออกมาจากบ้านซือลั่ว จึงอดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ว่าคนผู้นี้มาทำอะไรที่นี่
นอกจากนี้บุรุษผู้นี้ก็ดูดีเลยทีเดียว
จงซิ่วหลิงแสร้งทำเป็นตกใจวัวจนล้มลงบนพื้น
ช่างไม้หลี่ตกอกตกใจและรีบเข้าไปดู เมื่อเห็นว่าแม่นางที่ล้มอยู่เบื้องหน้าเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่น เขาก็หน้าแดงในทันใด
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาประหม่าจนไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน
"ไม่เป็นไร" จงซิ่วหลิงพยุงรถและลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่นุ่มนวลบอบบาง
“แม่นาง ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้เจ้ากลัว” ช่างไม้หลี่กล่าวขอโทษอีกครั้ง
จงซิ่วหลิงส่ายหัวด้วยท่าทางใจดีและอ่อนโยน "ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร"
หลังจากที่นางกล่าวจบก็กลอกตา "พี่ชายท่านนี้มาจากบ้านของซือลั่วหรือ"
ช่างไม้หลี่ชะงักแล้วจึงพยักหน้า
จงซิ่วหลิงสงสัย "เจ้าไปทำอะไรที่บ้านของซือลั่วหรือ"
ท่าทีที่เย็นชาอย่างดะทันหันของนางทำให้ช่างไม้หลี่รู้สึกงุนงง แต่เขาก็ยังพูดว่า "แม่นางซือสั่งทำเก้าอี้หนึ่งตัว"
หลังจากกล่าวจบก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า "ข้าเป็นช่างไม้"
จงซิ่วหลิงชะงักและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เช่นนั้นจะต้องสั่งทำให้พี่เว่ยเป็นแน่ น้องซือลั่วเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ แต่ก่อนนางไม่เคยเป็นเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...