นี่เป็นหัวข้อที่แหลมคมยิ่งนัก
ซุนจื่อเชียนถึงกับรู้สึกกังวลใจเมื่อได้ยิน เขาเกรงยิ่งนักว่าซูฉงและซูหวาจะโกรธจนกระทำสิ่งที่เกินควบคุมออกมา
เขากำลังจะพูดแทรก แต่หลินผิงเซิงกลับมองมาด้วยสายตาที่ไม่เกรงใจนัก พร้อมกล่าวกับซุนจื้อเชียนว่า “ท่านซุน นี่คือกฎเกณฑ์ของข้าในการรับศิษย์ ขอได้โปรดอย่าได้เข้าก้าวก่าย”
ซุนจื่อเชียนถึงกับนิ่งอึ้ง หลินผิงเซิงเป็นคนที่มีนิสัยดื้อรั้นเช่นนี้ จึงทำให้ถูกผู้คนไม่น้อยเคียดแค้นนัก
ความเข้มงวดในข้อกำหนดของเขา ทำให้ผู้ที่ไม่สามารถบรรลุถึงมาตรฐานในปีที่สองถูกให้ออกจากการศึกษาโดยทันที โดยปราศจากความปรานีหรือการพิจารณาน้ำใจใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้ที่เข้าใจในตัวเขาย่อมมองว่าเขาเป็นคนดี แต่สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจในความเคร่งครัดของเขา จะเห็นเพียงว่าเขาเป็นคนไม่ดีและเข้มงวดเกินไปนัก
ซุนจื่อเชียนมองเห็นซูซานหลางกำหมัดทั้งสองแน่น
ซูหวาเอ่ยขึ้นในยามนั้นว่า “ศิษย์ซูหวาขอตอบคำถามของท่านอาจารย์ ข้าคิดว่าท่านพ่อของข้าทำถูกต้องแล้ว และตลอดชีวิตนี้ข้าจะรู้สึกซาบซึ้งต่อการตัดสินใจของเขาในครั้งนั้น หากท่านอาจารย์อยากทราบเหตุผล ศิษย์ก็จะบอก เหตุผลนั้นเรียบง่ายยิ่งนัก เพราะตั้งแต่พ่อนำพาศิษย์และครอบครัวออกจากตระกูลมา ครอบครัวของศิษย์ก็ได้อิ่มท้อง”
กล่าวจบ ซูหวาก็หันไปมองซูซานหลางด้วยแววตาเปี่ยมด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะกล่าวต่อว่า
“พวกเรายังได้สวมใส่เสื้อผ้าอบอุ่นด้วย ก่อนหน้านี้ ศิษย์เป็นคนหัวไม่ดี ความทรงจำส่วนใหญ่ในอดีตมีแต่การอดอยากหนาวเหน็บ ถูกท่านปู่ท่านย่ารังเกียจ และถูกพี่น้องในตระกูลกลั่นแกล้ง แต่ตอนนี้ ศิษย์และพี่ชายก็หายป่วย พวกเรารู้หนังสือ และได้รับโอกาสในการเรียน แม้ท่านพ่ออาจถูกผู้คนปฏิเสธไปตลอดกาล แต่ในใจของศิษย์ ท่านเป็นพ่อที่ดีที่สุด สิ่งที่ท่านทำล้วนถูกต้องเสมอ และศิษย์จะภาคภูมิใจตลอดไปที่ได้เกิดมาเป็นลูกของท่าน”
กล่าวจบ ซูหวาก็หันหน้าไปมองซูซานหลางด้วยสายตาแน่วแน่ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ท่านพ่อ ขอบคุณท่าน”
ซูซานหลางดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลออยู่ในดวงตาTop of FormBottom of Form
ยามนั้นเอง ซูฉงกล่าวขึ้นว่า “คำตอบของข้าเหมือนกับน้องหวา ข้าก็คิดว่าท่านพ่อของข้าไม่ได้ทำผิด ข้าไม่สนใจว่าผู้อื่นจะประเมินท่านพ่อของข้าอย่างไร แม้ทั้งโลกจะกล่าวว่าท่านทำผิด ข้าก็ยังเชื่อว่าท่านทำถูก ในฐานะลูก ข้าได้รับความรักและการดูแลจากท่าน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพียงท่านพ่อคุ้มครองพวกเรา ต่อให้คนทั้งโลกกล่าวว่าท่านไม่ดี พวกเราก็ยังเห็นว่าท่านดี แต่หากท่านไม่สนใจพวกเรา แม้คนทั้งโลกจะสรรเสริญว่าท่านเป็นคนดี พวกเราก็จะเห็นว่าท่านไม่ดีเช่นกัน”
ซูฉงมองซูซานหลางด้วยความซาบซึ้ง เขายิ้มพลางกล่าวเสียงดังว่า “ท่านพ่อ ขอบคุณท่านและท่านแม่”
ซูซานหลางกลั้นน้ำตาไว้พร้อมเผยรอยยิ้มออกมา ในชีวิตนี้ของเขา ต่อให้ตายก็ไม่มีสิ่งใดให้ต้องเสียใจอีกแล้ว
หัวใจของเขาอบอุ่นยิ่งนัก อบอุ่นเหลือเกิน
ซุนจื่อเชียนถึงกับทึ่งและยอมรับในถ้อยคำของซูฉงและซูหวา เหตุผลที่เรียบง่ายเพียงนี้ แต่ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่สามารถเข้าใจได้?
ซุนจื่อเชียนอดไม่ได้ที่จะสังเกตสีหน้าของหลินผิงเซิง ทว่าใบหน้าของหลินผิงเซิงกลับไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทำให้ซุนจื่อเชียนไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา