วันนี้อาหารช่างหอมกรุ่นนัก เกี๊ยวไส้ผักดองรสเลิศถึงเพียงนี้ อีกเดี๋ยวนางต้องถามซุนเป่าซ่านและซุนเป่าเชี่ยนให้รู้ว่าทั้งคู่กินไปกี่ชิ้น
“ท่านอาจารย์ ท่านไม่กินหัวปลาหรือเจ้าคะ?”
ซูเสี่ยวลู่จ้องมองเนื้อปลาพร้อมลอบกลืนน้ำลาย คิดในใจว่าเมื่ออิ่มหนำจากอาหารจานหลักแล้ว การแทะหัวปลาเป็นการปิดท้ายย่อมทำให้มื้อนี้สมบูรณ์แบบยิ่งนัก
ตาเฒ่าอู๋ส่งเสียงฮึดฮัดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่กิน! หัวปลามีเนื้อเสียที่ไหน หากเจ้าอยากกินก็เชิญตามสบายเถิด”
เขาเห็นท่าทีของเด็กสาวตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากกินเนื้อปลา ย่อมไม่มีความจำเป็นใดที่เขาจะต้องไปแย่งชิงกับนางให้เสียหน้า!
“ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ!”
ซูเสี่ยวลู่เอ่ยขอบคุณอย่างเบิกบาน พร้อมกับเลื่อนถ้วยข้าวไปทางตาเฒ่าอู๋เล็กน้อย
ตาเฒ่าอู๋ส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะใช้ตะเกียบคีบหัวปลาส่งให้ซูเสี่ยวลู่
ทั้งสองกินอาหารจนหมดเกลี้ยง จากนั้นก็จัดเก็บสำรับอย่างง่ายๆ แล้วต่างคนต่างเตรียมตัวไปฝังเข็ม
ซูเสี่ยวลู่มุ่งหน้าไปยังเรือนของซุนเป่าซ่านและซุนเป่าเชี่ยนทันที เมื่อเดินเข้าไปในเรือน เหลียนซื่อก็ส่งยิ้มพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
“เสี่ยวลู่ อาหารวันนี้ถูกปากหรือไม่?”
ซูเสี่ยวลู่กลืนน้ำลายก่อนตอบด้วยเสียงหนักแน่นหลังอิ่มจนเต็มท้องว่า “อร่อยมากเจ้าค่ะ!”
ซุนเป่าเชี่ยนยิ้มพลางเอ่ยว่า “อร่อยจริงๆ วันนี้ข้ากินข้าวไปตั้งครึ่งชามเชียว”
ซูเสี่ยวลู่ลูบท้องกลมป่องของตัวเองก่อนจะถอนหายใจ “พี่เป่าเชี่ยนกินน้อยจริงๆ ข้ากินไปตั้งสองชาม เทียบกันแล้ว ข้าช่างกินมากเกินไปนัก คืนนี้ข้าจะไม่กินอาหารมื้อดึกเด็ดขาด!”
วันนี้นางอิ่มจนจุกจริงๆ
ซุนเป่าเชี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวลู่ แม้ว่าข้าจะกินแค่ครึ่งชาม แต่ข้าก็อิ่มพอๆ กับเจ้านั่นแหละ”
ซุนเป่าซ่านที่อยู่ด้านข้างพึมพำเสียงเบาว่า “ข้าก็เหมือนกัน”
แม้จะไม่ได้กินมากนัก แต่เมื่อเทียบกับที่เคยกินในอดีต ก็นับว่ามื้อนี้เกินพอจนรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างยิ่งแล้ว
ซูเสี่ยวลู่ลูบท้องของตัวเองพลางกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยเจ้าด้วยการฝังเข็มเพิ่มอีกสองจุดเพื่อช่วยย่อยอาหาร”
นางเริ่มลงมือฝังเข็มให้กับซุนเป่าซ่านและซุนเป่าเชี่ยน โดยใช้วิธีการฝังเข็มรูปแบบใหม่
เพราะนางกลัวว่าทั้งสองจะอึดอัดจากการกินอิ่มจนเกินไป ซูเสี่ยวลู่จึงเพิ่มเข็มช่วยย่อยอาหารเข้าไปอีกสองจุด
สำหรับเหลียนซื่อที่สุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ จำนวนเข็มที่ต้องฝังก็ลดลงตามไปด้วย
ซูเสี่ยวลู่ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านอาสะใภ้ พอถึงช่วงตรุษจีน ท่านคงไม่ต้องฝังเข็มอีกแล้วเจ้าค่ะ หลังจากนั้นท่านเพียงกินยาบำรุงร่างกายต่อเนื่องสักครึ่งปี ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยดีแล้ว”
เหลียนซื่อพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ดีมาก ขอบใจเจ้ามากนะ เสี่ยวลู่”
หลังจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซูเสี่ยวลู่ก็เดินไปดูตาเฒ่าอู๋ที่กำลังฝังเข็มให้ซุนปั๋วเฉิงและซุนจื่อเชียน
ตาเฒ่าอู๋มีความอดทนในการอธิบายวิธีการอย่างละเอียด ขณะที่ซูเสี่ยวลู่ตั้งใจฟังและจดจำทุกคำกล่าวของเขาไว้ในใจ
แม้ว่านางจะเรียนรู้ได้รวดเร็ว แต่ก็ยังมีความรู้อีกมากที่ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจ
คืนนี้ซูเสี่ยวลู่ไม่ได้กินอาหารมื้อดึก นางถอนหายใจอย่างโล่งอก คาดว่าตาเฒ่าอู๋ก็คงอิ่มหนำในมื้อค่ำเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา