จ้าวซื่อกล่าวด้วยความโมโหจนแก้มพองว่า “ใครกันอยากจะมาค้าขายกับบ้านพวกเจ้า ไม่ใช่เพราะพวกเจ้าเองหรือที่หน้าด้านตามมา”
แม่เฉินเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อ “อย่ามาพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ ที่จริงบ้านข้าก็แค่ถามดูเท่านั้น พอพวกเจ้าได้ยินว่าจะได้แย่งลูกค้าจากซูซานหลางก็รีบตอบตกลงทันที ตอนนี้ยังกล้าคิดเข้าข้างตัวเองอีก”
ทั้งสองครอบครัวต่างมองหน้ากันด้วยสายตาแค้นเคือง ไม่ต่างจากยักษ์มารที่พร้อมจะกลืนกินกันและกัน
บรรยากาศหนาวเย็นถึงขีดสุด
เมื่อทั้งหมดมาถึงในตัวเมือง ต่างก็เห็นว่าร้านค้าฝั่งตรงข้ามทำธุรกิจได้อย่างรุ่งเรือง จนความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังฉายชัดอยู่บนใบหน้าของทั้งสองครอบครัว
เมื่อร้านของพวกเขาเปิดขึ้นมา กลับไม่มีแม้แต่เงาของลูกค้าเดินเข้าไปเลย
แขกที่เดินผ่านมาบางคนตั้งใจจะถามไถ่ดูอยู่บ้าง แต่พอเห็นว่าร้านไม่ให้ลองชิม ก็พากันเลี้ยวกลับไปยังร้านฝั่งตรงข้ามทันที
สองครอบครัวที่เป็นเจ้าของร้านต่างพากันไม่ลงรอยกัน เพราะอารมณ์ไม่ดี จึงทำให้ท่าทางที่แสดงออกไม่เป็นมิตร ผู้คนเมื่อเห็นก็พากันรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเงินที่จ่ายไปนั้นไม่ใช่เพื่อมาซื้อความหงุดหงิดจากเจ้าของร้าน
พ่อซูเอ่ยขึ้นว่า “ต้าหลาง เจ้าไปซื้อมาให้ข้าสักสองชั่ง ข้าจะลองดูว่ารสชาติมันต่างกันเพียงใด”
ซูต้าหลางพยักหน้ารับคำ แล้วรีบเดินไปซื้อทันที
ซูซานหลางและจ้าวซื่อพาเฉินต้านิว เฉินเอ้อร์นิวและซูเสี่ยวหลิง มาช่วยกันขายของในร้าน ทุกคนยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง ใครอยากลองชิมหรืออยากซื้อ พวกเขาก็ให้บริการอย่างเอาใจใส่
แม้ลูกค้าจะชิมแล้วไม่ซื้อ แต่พวกเขาก็ยังกล่าวคำอำลาด้วยรอยยิ้มว่า “เดินทางปลอดภัย”
วันพรุ่งนี้เป็นวันตรุษจีน ซึ่งร้านค้าทั้งหลายจะปิด ไม่เปิดทำการ จึงมีลูกค้าจำนวนมากมาซื้อของเตรียมไว้ล่วงหน้า
วันนี้พวกเขาจึงแบกของมาเพิ่มกว่าปกติ
เมื่อเห็นซูต้าหลางเดินเข้ามา จ้าวซื่อชะงักเล็กน้อย ส่วนซูซานหลางยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม ก่อนเอ่ยถามเสียงสุภาพว่า “ลูกค้าอยากซื้ออะไรหรือ? ที่นี่สามารถลองชิมก่อนได้”
ซูต้าหลางทำหน้าบึ้งตึง ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า “อย่างละหนึ่งชั่ง เร็วๆ”
ในใจเขารู้ดีอยู่แล้วว่ามาซื้ออะไร ยังจะต้องถามอีก ช่างน่ารำคาญเสียจริง!
ซูต้าหลางเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แต่ซูซานหลางกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ เขาจัดการช่วยบรรจุสินค้าอย่างรวดเร็ว เมื่อซูต้าหลางจ่ายเงินเสร็จแล้ว ก็ยังกล่าวอย่างสุภาพว่า “เดินทางปลอดภัย”
จ้าวซื่อเหลือบมองไปยังร้านฝั่งตรงข้าม สีหน้านางขมวดมุ่นไปชั่วครู่ แต่ไม่นานก็สลัดความคิดนั้นออกไป เพราะเรื่องของร้านอื่นไม่เกี่ยวอะไรกับนาง ขอเพียงดูแลร้านของตัวเองให้ดีก็เพียงพอแล้ว
เมื่อซูต้าหลางนำของกลับไป พ่อเฒ่าซูและหวางซื่อรีบลองชิมทันที เมื่อเปรียบเทียบกับของที่บ้านตัวเอง สีหน้าของพวกเขาก็ดำคล้ำไปในทันใด
พ่อเฉินและแม่เฉินเองก็ลองชิมด้วยเช่นกัน ทันทีที่รสชาติสัมผัสลิ้น พวกเขาหันไปมองหยางซื่อและอู๋ซื่อด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว
แม่เฉินหยิกอย่างแรง “นังสารเลว! พวกเจ้าไม่ได้บอกหรือว่ารสชาติเหมือนกันเป๊ะ? ไม่ได้บอกหรือว่าเจ้าก็ทำได้เหมือนนางน่ะ? สมบัติบ้านข้า ให้พวกเจ้าผลาญไปหมดแล้ว! นังสารเลว! ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย...!”
หยางซื่อและอู๋ซื่อต่างร้องทุกข์ในใจ นึกไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา