เมื่อจ้าวซื่อได้ยินเสียงก่นด่า น้ำตาไหลมากกว่าเดิม
ซูเสี่ยวลู่มองดูจ้าวซื่อที่น้ำตาไหลนอง พร้อมกับเสียงก่นด่าของยายแก่คนหนึ่ง ในใจสบถทันที
นางอยู่ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนะ เรียนแพทย์แผนจีนมายี่สิบหกปี ตอนกลางคืนระหว่างแวะกินมื้อดึก ถูกรถคันหนึ่งที่พุ่งขึ้นมาบนทางเท้าชนจนเสียชีวิต
ใครจะไปคิดว่าเมื่อได้สติอีกครั้ง นางจะกลายเป็นเด็กทารก
เมื่อได้ตามกระแสด้วยการทะลุมิติ นางกลับทะลุมิติตั้งแต่อยู่ในท้อง หนำซ้ำยังมาถึงยุคโบราณ
ตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่มาก
ในยุคโบราณที่รักชายชังหญิง การเกิดมาของนางไม่ใช่เรื่องดี ฟังจากเสียงก่นด่าของยายแก่ทำให้รู้ว่าแค่นางเกิดมา ก็มีคนอยากให้นางตายเสียแล้ว
ขณะที่สะลึมสะลือ ซูเสี่ยวลู่รู้สึกว่าจ้าวซื่อผิดปกติ สัญชาตญาณที่แรงกล้าบอกนางว่าจ้าวซื่อกำลังมีอันตราย
เมื่อนึกถึงการเกิดของตัวเอง ในไม่ช้าซูเสี่ยวลู่นึกถึงเรื่องตกเลือด
แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงทารกน้อย อีกทั้งยังพูดไม่ได้ คนอื่นในบ้านก็ฝากความหวังไม่ได้ สายตาของซูเสี่ยวลู่หันมองลูกสาวข้างกายจ้าวซื่อ เมื่อครู่นางได้ยินเด็กหญิงเรียกจ้าวซื่อว่าท่านแม่ จ้าวซื่อเรียกนางว่าซานเม่ย นางจะเป็นพี่สาวสามของนาง
ใครจะช่วยจ้าวซื่อได้? เกรงว่าคงมีแต่นาง แต่นางพูดไม่ได้ จะทำให้พี่สาวสามรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้ท่านแม่มีอันตราย ซูเสี่ยวลู่หาทางออกไม่ได้ ดังนั้นนางจึงกลั้นลมหายใจเต็มที่แล้วร้องไห้
“อุแว้ อุแว้”
ซูเสี่ยวลู่ร้องไห้แทบขาดใจ
สติของจ้าวซื่อจึงถูกปลุกให้ตื่น นางที่เป็นแม่ทำให้ยกมือไปปลอบลูกสาวตามสัญชาตญาณ
“ซื่อเม่ยเด็กดี ไม่ร้อง...ไม่ร้องนะ”
ซูซานเม่ยเองก็ได้สติเช่นกัน นางปีนขึ้นเตียงช่วยจ้าวซื่อปลอบน้องสาว
“น้องเชื่อฟังนะ ไม่ร้อง ไม่ร้อง เดี๋ยวพี่สาวอุ้มนะ”
ซูซานเม่ยคุกเข่าอยู่ด้านในเตียง แล้วอุ้มซูเสี่ยวลู่ขึ้นมาปลอบอย่างระวัง
ซูเสี่ยวลู่ร้องไห้ไม่หยุด กลั้นจนหน้าแดง ลมหายใจไม่พอก็ยังไม่ยอมหยุด ร้องไห้เสียงดังสนั่นจนกลบเสียงก่นด่าของหวังซื่อ
โชคดีที่นางแข็งแรง ดังนั้นเสียงจึงดังกึกก้อง
“อุแว้”
เสียงร้องไห้ของนางทำให้จ้าวซื่อปวดใจ กลัวว่าลูกสาวคนที่สี่จะมีโรคร้ายใดหรือไม่ นางรู้ว่าคงฝากความหวังที่แม่สามีกับพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ ดังนั้นนางจึงดึงแขนเสื้อของซูซานเม่ยเบาๆ แล้วพูดอย่างอ่อนแรง
“ซานเม่ย วางน้องสาวเจ้าลงข้างแม่ แล้วไปเรียกพ่อเจ้ากลับมา”
ซูซานเม่ยเชื่อฟังมาก วางซูเสี่ยวลู่ลง จากนั้นปีนข้ามจ้าวซื่อลงจากเตียง แล้วรีบวิ่งออกนอกประตูทันที
เมื่อเห็นซูซานเม่ยไปหาคนช่วย ซูเสี่ยวลู่จึงไม่ร้องไห้
ส่วนหวังซื่อที่เรือนใหญ่กลับด่าไม่หยุด
“แกมันตัวซวย ร้อง ร้อง ร้อง ร้องให้ตายไปเลย ถ้ายังร้องอีกข้าจะอุดปากแกให้ตาย”
“ตัวไร้ค่าไร้ราคา ร้องให้ตาย ขาดใจตายไปเลย เด็กเปรต”
หวังซื่อด่าทออย่างน่าเกลียด ทำให้จ้าวซื่อที่ได้ยินปวดใจมาก
นางสะอื้นไปด้วยพลางตบซูเสี่ยวลู่เบาๆ จากนั้นเอ่ยเสียงค่อย
“ซื่อเม่ยเด็กดี ต้องแข็งแรงอายุมั่นขวัญยืนนะ...”
ซูเสี่ยวลู่หยุดร้องไห้พร้อมสะอึก ในใจรู้สึกแย่มาก นางสัมผัสถึงความอ่อนโยนและความรักของจ้าวซื่อได้ ไม่ว่าครอบครัวนี้จะต้อนรับนางหรือไม่ แม่ของนางต้อนรับนางแน่นอน
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ นางจะรอดจนเติบใหญ่หรือไม่ยังไม่รู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา