หวังซื่อทำหน้าตึง
“เจ้าเด็กเวรที่ไม่มีหัวใจนั่นกลับมา ข้าจะยิ้มแย้มได้อย่างไร ปากข้าเป็นแผลพุพองก็เพราะโกรธลูกชั่วนั่น ข้าไม่ตีเขาก็ดีเท่าใดแล้ว”
วันนี้ ภายใต้การรบเร้าที่ไม่ลดละของหวังซื่อ พ่อเฒ่าซูทนนางไม่ไหว จึงให้ลูกชายคนโตแบกนางออกมากินอาหารที่เรือนใหญ่ ระหว่างกินอาหาร หวังซื่อด่าทอไม่หยุด พ่อเฒ่าซูทนไม่ได้จึงพูดออกไปอย่างเมื่อครู่
ตอนนี้เมื่อได้ยินหวังซื่อกล่าวเช่นนี้ พ่อเฒ่าซูขมวดคิ้ว
“ไม่ว่าอย่างไร นั่นก็เป็นลูกชายของเรา เขาย้ายไปอยู่ข้างนอกหลายเดือน เขาสำนึกผิดก็พอแล้ว”
“ข้าแค่คิดก็โมโหแล้ว ได้ของจากในป่ามาตั้งมากมาย แต่เขาไม่คิดจะแบ่งมาให้ที่บ้านแม้แต่น้อย ซ้ำยังเลี้ยงดูเมียที่คลอดแต่ลูกไม่ได้เรื่องจนมีน้ำมีนวล อีกทั้งทำเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ยัยเด็กไร้ค่านั้น เงินพวกนี้ เก็บไว้ซื้อพู่กันกับกระดาษให้หลายชายคนโตไม่ดีกว่าหรือ”
หวังซื่อกลอกตามองบน แล้วพูดออกมาอย่างโมโห
หลังจากหลี่ซื่อกับโจวซื่อกลับมา ได้เล่าเรื่องราวที่เห็นในบ้านซูซานหลางพร้อมใส่สีตีไข่ให้หวังซื่อฟัง ตอนนั้นหวังซื่อโกรธจนหมั่นเขี้ยว
แค่นึกถึงหมูน้ำค้างที่หลี่ซื่อบอกว่าแขวนไว้หลายสิบเส้น ถ้าเอาไปขายคงได้เงินมากโข
ซูซุ่นเงยหน้าขึ้นจากถ้วยข้าวตัวเอง จากนั้นยิ้มและเอ่ยด้วยปากมันแผลบ
“ท่านย่า ท่านซื้อกระดาษกับพู่กันให้ข้า ข้าจะตั้งใจเรียนหนังสือ ต่อไปสอบเป็นจอหงวน เชิดชูเกียรติตระกูลซู”
ซูต้าหลางได้ยินแล้วดีใจ
“ดี สมกับเป็นลูกชายข้าซูต้าหลาง”
หลี่ซื่อเองก็ดีใจจนหัวเราะ
“งั้นต่อไปข้าก็ได้เป็นแม่ของจอหงวนนะสิ”
โจวซื่อดันตัวลูกชายคนเล็กที่นั่งข้างกาย
ซูชิงวางตะเกียบลงอย่างไม่เต็มใจ พร้อมเอ่ยขึ้น
“ท่านปู่ท่านย่า ต่อไปข้าก็จะสอบเป็นจอหงวน รอให้ข้าสอบได้แล้ว จะมาสร้างบ้านหลังใหญ่ให้พวกท่านอยู่ จะซื้อบ่าวรับใช้มาให้พวกท่านใช้สอย”
ซูเอ้อหลางหัวเราะ
“อย่างนั้นก็ดีนะสิ ความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลซูคงอีกไม่นานแล้วละสิ”
โจวซื่อลูบผมของซูชิง จากนั้นหัวเราะแล้วเอ่ยกับพ่อเฒ่าซู
“ท่านพ่อ เจ้าชิงช่างกตัญญูเหลือเกิน”
เมื่อเห็นหลายชายทั้งสองที่มีปณิธานยิ่งใหญ่ ใบหน้าพ่อเฒ่าซูมีรอยยิ้มจางๆ
เขาจึงประกาศออกมา
“ข้าคาดว่าในมือซานหลางน่าจะมีเงินสิบกว่าตำลึง รอให้เขากลับมาจะเอาเข้าเงินกองกลาง ปู่จะได้พาพวกเจ้าไปสมัครเรียนที่โรงเรียน”
หวังซื่อเอ่ยเสียงเย็น
“เสื้อสกปรกของข้าพวกเจ้าไม่ต้องซักแล้ว รอให้จ้าวซื่อกลับมาซัก นางแพศยาสบายมาหลายเดือน คงสบายพอแล้ว รอให้กลับมาข้าต้องกำราบนางเสียงบ้าง เจ้าสามเป็นคนกตัญญูมาตลอด คงเป็นนางที่ยุยงจนพวกเราแม่ลูกผิดใจกัน ไม่สั่งสอนนางแพศยาอย่างนางเสียบ้าง ไม่รู้ว่าต่อไปนางจะทำเรื่องงามหน้าอะไรอีก”
“หากไม่สั่งสอนนางให้ดี คงทำให้ลูกหลานตระกูลซูไปในทางผิดไปด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา