เมื่อเห็นซูซานหลางโขกศีรษะลงกับพื้น ทุกคนในห้องต่างถอนหายใจโล่งอก
ซูต้าหลางถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า “น้องสาม เจ้าจะทำถึงเพียงนี้ไปไย? ตอนนี้ยอมรับผิดเสียเถิด พ่อแม่ย่อมให้อภัยเจ้า”
ซูเอ้อร์หลางยิ้มพลางเสริมว่า “พี่ใหญ่พูดถูก เจ้าก็แค่หัวแข็งเกินไปเท่านั้น ในร้อยคุณธรรม ความกตัญญูย่อมมาก่อน หากเจ้ายังทำเช่นนี้ ระวังจะได้กินข้าวแดงในคุก พ่อแม่ก็ดูแลเจ้าอย่างดีมาโดยตลอด เจ้าควรเรียนรู้ที่จะสำนึกบุญคุณบ้าง”
พ่อเฒ่าซูที่ตกตะลึงกับการกระทำของซูซานหลางเมื่อครู่ ค่อย ๆ กลับมามีท่าทีสงบลง สีหน้าอันขึงขังเมื่อครู่พลันอ่อนลง
ก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของซูซานหลาง เขายังคิดว่าบุตรชายคนนี้จะกล้าขัดขืนจนถึงที่สุดเสียอีก
แต่สุดท้าย เขาก็คิดมากไปเอง การถูกขับออกจากตระกูลย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืน
ครั้งนี้ การกดดันซูซานหลางสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่นี้ไป ซูซานหลางคงไม่มีความดื้อรั้นหลงเหลืออีกต่อไป บ้านสามกลายเป็นบ้านที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง บัดนี้ ในฐานะอาสาม ซูซานหลางควรทุ่มเททุกสิ่งที่มีเพื่อสนับสนุนหลานชายในสายเลือดอย่างเต็มที่
เมื่อพ่อเฒ่าซูคิดถึงอนาคตว่า หากหลานชายเติบโตมีความสามารถ เขาย่อมจะพึ่งพิงได้ในยามแก่เฒ่า
มองดูซูซานหลางที่โขกศีรษะจนเลือดไหลอาบหน้าผาก พ่อเฒ่าซูคิดว่าบทเรียนครั้งนี้คงเพียงพอแล้ว เขาจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “พอได้แล้ว ไม่ต้องโขกอีก เรื่องนี้ให้มันจบลงเพียงเท่านี้ เจ้าจงจำไว้ให้ดีว่าอย่าให้มีครั้งหน้า ต่อไปจงช่วยเหลือหลานชายในสายเลือดของเจ้าให้ดี เมื่อเจ้าแก่ตัวไป จะได้มีคนดูแลพึ่งพา”
ซูซานหลางโขกศีรษะครบเก้าครั้ง เลือดสีแดงสดไหลรินลงมาตามหน้าผาก เขาลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ
“ท่านพ่อ... ท่านแม่...”
ซูซานหลางเรียกพวกเขา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าไร้อารมณ์ แต่คำพูดกลับเย็นชาและชัดเจน “ข้าขอเลือกถูกลบออกจากวงศ์ตระกูล พรุ่งนี้ท่านพ่อท่านแม่ไปเชิญผู้ใหญ่บ้านและเหล่าญาติพี่น้องมาเป็นพยานเถิด ถึงเวลานั้นเพียงเรียกข้าก็พอ”
พ่อเฒ่าซูไม่คาดคิดว่า หลังจากซูซานหลางโขกศีรษะเสร็จ ยังกล้าปฏิเสธและขัดคำสั่งของเขาอีก ความโกรธทำให้ร่างกายของพ่อเฒ่าซูสั่นสะท้าน เขายกมือชี้ไปที่ซูซานหลาง พลางกล่าวเสียงสั่น “เจ้า... เจ้า เจ้า...”
แต่หลังจาก “เจ้า” ไปหลายคำ เขากลับไม่สามารถเปล่งคำใดออกมาได้อีก ความรู้สึกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่กลางอก ทำให้เขาทั้งโกรธและอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
“สำหรับสิ่งที่ท่านพ่อท่านแม่จัดการให้ข้า ข้าไม่เคยมีคำกล่าวโทษใด ๆ พี่ใหญ่แต่งพี่สะใภ้ ผ่านพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี พี่รองแต่งพี่สะใภ้รอง ก็ได้รับการจัดการเช่นเดียวกัน แต่พอมาถึงข้า ท่านแม่กลับบอกว่าบ้านยากจน ไม่มีเงินมากพอที่จะจัดการหาภรรยาให้ได้ จ้าวซื่อใช้เพียงหนึ่งตำลึงเพื่อแต่งเข้ามาเป็นภรรยาของข้า ข้าก็ยอมรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา