ซูซานเม่ยเดินมาถึงนอกเรือนหลัก เคาะประตูเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วว่า “ตาเฒ่าอู๋ ข้ายกโจ๊กมาให้ท่าน ทานสักหน่อยนะเจ้าคะ”
ซูซานเม่ยยืนอย่างเก้อเขินอยู่หน้าประตู ความเปลี่ยนแปลงในครอบครัวทำให้นางต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้น นางรู้ว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว นางไม่มีบ้านอีกต่อไป
ตาเฒ่าอู๋อาศัยอยู่ในหมู่บ้านคนเดียว ไม่มีบุตรชายบุตรสาว ถ้าได้อยู่ที่นี่ก็คงจะดี
อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ การไร้บ้าน ไม่มีที่หลบหนาวสำหรับครอบครัวของพวกเขา หมายถึงความตาย และนางยังไม่อยากตายเลย
ซูซานเม่ยยืนอยู่หน้าประตูไม่ไปไหน แต่ก็ไม่กล้าเคาะประตูอีก
ผ่านไปสักพัก ตาเฒ่าอู๋จึงลุกขึ้นมาเปิดประตู พอประตูเปิดออก เห็นเด็กหญิงที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางว่านอนสอนง่ายและเอาอกเอาใจ ตาเฒ่าอู๋พูดเสียงเรียบว่า "เจ้ากินเถอะ ข้าแก่แล้ว กินมากตอนกลางคืนย่อยไม่ทัน จะทำให้อาหารไม่ย่อย"
"กลับไปเถอะ"
สำหรับเด็กคนนี้ ตาเฒ่าอู๋รู้สึกว่าโกรธไม่ลงจริงๆ ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของซูซานเม่ย เขาไม่ต้องมองก็เข้าใจ นี่เป็นความคิดที่คนปกติทั่วไปก็มีกัน ถ้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ใครจะอยากตายกันล่ะ
แต่การให้ครอบครัวนี้อยู่ต่อ ก็หมายความว่าต่อไปจะยุ่งยากมาก
เรื่องเศร้าในโลกนี้มีมากมาย เขาคงไม่สามารถจัดการทุกเรื่องที่เห็นได้หรอก ถ้าจัดการเรื่องนั้นเรื่องนี้ เขาจะใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปได้อย่างไร ยิ่งมีคนมาก เรื่องก็ยิ่งมาก ยิ่งมีเรื่องมาก ก็ยิ่งไม่สงบ
ตาเฒ่าอู๋ไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นคนที่เข้าถึงง่าย
ด้วยท่าทีเรียบเฉยและมีระยะห่างเช่นนี้ ซูซานเม่ยเพียงแค่พยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย ยิ้มหวานให้ตาเฒ่าอู๋พลางพูดว่า "เจ้าค่ะ ขอบคุณคุณท่านปู่อู๋"
พูดจบ ซูซานเม่ยก็ถือถ้วยกลับไปที่ครัว
เห็นซูซานเม่ยว่านอนสอนง่ายเช่นนั้น ตาเฒ่าอู๋ก็ปิดประตูกลับเข้าห้องใน เขายิ้มน้อยๆ ถอนหายใจพลางพึมพำกับตนเองว่า "ฉลาดก็ฉลาด น่ารักก็น่ารัก แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ใครใช้ให้ตาแก่อย่างข้าใจแข็งเป็นหินเล่า ไม่ว่าจะทำอย่างไร คนที่ควรจากไปก็ต้องจากไปอยู่ดี"
แม้ว่าตาเฒ่าอู๋จะไม่ได้เป็นกันเองนัก ครอบครัวของซูซานหลางก็ยังคงแสดงความกตัญญูผ่านการกระทำ
ซูซานหลางนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง ซูเสี่ยวลู่ก็ถูกวางไว้ข้างๆ ซูซานหลาง จ้าวซื่อพาลูกๆ ทั้งสามคนทำความสะอาดเรือนของตาเฒ่าอู๋จนสะอาดเอี่ยม
ซูฉง ซูหวา และซูซานเม่ยไปให้อาหารไก่และเป็ด ถอนหญ้า จับแมลง ไม่ได้หยุดพักเลยทั้งวัน
เมื่อรู้ว่าตาเฒ่าอู๋ตื่นแต่เช้าและออกไปข้างนอกทุกวัน จ้าวซื่อจึงตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อนึ่งซาลาเปาและหมั่นโถว
แม้ว่าเฒ่าอู๋จะไม่ขาดแคลนข้าวปลาอาหาร ครอบครัวของซูซานหลางก็ไม่ได้กินดื่มอย่างฟุ่มเฟือย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา