ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่ชอบความวุ่นวาย ต่างพากันติดตามมาดูเหตุการณ์
ส่วนการที่ซูต้าหลางและซูเอ้อร์หลางกำลังพังประตูนั้น ชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
บางคนพูดว่าพ่อเฒ่าใจดำเกินไปแล้ว ตอนลูกชายคนที่สามไม่มีประโยชน์ก็ไล่เขาไป พอมีประโยชน์กลับจะมารับคืน!
บางคนก็ว่าซูซานหลางนั่นแหละใจร้ายเกินไป ไม่ยอมรับบุญคุณพ่อแม่ แบบนี้จะไม่ให้พ่อแม่โกรธได้อย่างไร? ทั้งหมดนี่คงเป็นเพราะจ้าวซื่อคอยยุยงเป็นแน่ ควรจะหย่ากับนาง
ส่วนบางคนก็เริ่มคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว คิดถึงความเกี่ยวดองของครอบครัวตนกับพ่อเฒ่าซู หวังว่าหากพวกเขาแย่งเสือมาได้ บางทีครอบครัวตนเองอาจจะได้ลิ้มรสเนื้อเสือสักชิ้น
เสียงถีบประตูดัง “ปัง ปัง” ทำให้ครอบครัวซูซานหลางสะดุ้งตกใจไปตามกัน
ซูซานหลางรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่ความรู้สึกนั้นก็ถูกความหนาวเย็นแห่งความผิดหวังกลืนกิน ได้ยินเสียงประตูที่ถูกกระแทก ก่อนจะเอ่ยกับจ้าวซื่อด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
“แม่ ไปเอามีดมา”
ซูฉงและซูหวาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซูซานหลางจึงลูบศีรษะพวกเขาทั้งสองเบา ๆ พลางพูดว่า “เจ้าฉง เจ้าหวา อย่ากลัวไปเลย มาช่วยพ่อปกป้องบ้านของพวกเรา เหมือนตอนที่เราล่าเสือตัวนั้น”
ซูฉงและซูหวาไม่อาจเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่พวกเขารู้เพียงแค่ต้องเชื่อฟังพ่อ เมื่อได้ยินคำพูดของซูซานหลาง ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายความแน่วแน่อย่างที่เด็กธรรมดาไม่มี
พวกเขาเดินไปหยิบไม้ท่อนใหญ่ในลานบ้านขึ้นมาถือไว้
แม้แต่ซูซานเม่ยก็หยิบไม้ท่อนใหญ่ขึ้นมาถือไว้ด้วย ส่วนจ้าวซื่อกับซูซานหลางต่างถือเคียวในมือ ทั้งครอบครัวเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้า
ซูเสี่ยวลู่ได้แต่นอนอยู่บนเตียง พลางภาวนาให้ตาเฒ่าอู๋รีบกลับมาโดยเร็ว ขอให้ครอบครัวผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
“โครม!”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ประตูหน้าลานบ้านถูกถีบจนพังลงมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา