ฉู่มู่เหยามีสีหน้าร้อนตัว แต่ก็รู้ว่าถึงตนเองจะไม่ได้พูดออกมาจนหมด ซ่งจิ่งเซินก็รู้กระจ่างแล้ว
คิดถึงตรงนี้ นางจึงตัดสินใจไม่ปิดบังอำพรางแล้วกล่าวอย่างเปิดเผยว่า “เอาเป็นว่าข้าเตรียมจะทำเรื่องไม่ดีจริงๆ นั่นแหละ ถ้าเจ้าจะดุข้าก็ดุมาเลย อย่างไรเสียข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ดีมีสุข”
ซ่งจิ่งเซินเห็นท่าทางพร้อมพุ่งชนของนางแล้วก็กล่าวว่า “ยาสลบแค่นี้ของท่านเกรงว่าคงไม่พอ”
“อะไรนะ?” ฉู่มู่เหยาตกตะลึง ออกจะงุนงงอยู่บ้าง
ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจด้วยความอ่อนใจ “ความคิดของท่านเรียบง่ายเกินไปแล้ว ท่านคิดว่าวันนี้เสิ่นหวยอันจงใจนัดหมายท่านมาสถานที่เช่นนี้เพราะต้องการยอมรับผิดขออภัยท่านหรือพยายามรั้งท่านไว้อย่างนั้นหรือ?”
ฉู่มู่เหยามองซ่งจิ่งเซินด้วยความสงสัย สัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากลได้รำไร แต่ก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ซ่งจิ่งเซินต้องการจะสื่อ
“เขารอท่านอยู่ที่นั่นมาแต่แรกแล้ว กลัวแต่ว่าท่านยังไม่ทันได้วางยาเขา ตัวเองกลับโดนวางยาสลบไปเสียก่อน รอจนท่านรู้สึกตัวขึ้นมา ท่านว่า...ยังจะเหลืออันใดงั้นรึ?”
สิ้นประโยคนี้ ฉู่มู่เหยาพลันหน้าเปลี่ยนสี “ข้า ข้าพาองครักษ์มาด้วย”
สีหน้าซ่งจิ่งเซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดวงตาดอกท้อคู่นั้นเพียงมองนางนิ่งๆ
ฉู่มู่เหยาย่อมตระหนักได้แล้วเช่นกัน องครักษ์อารักขาอยู่ข้างนอก หากปราศจากเสียงร้องของนางแล้ว คิดว่าคงไม่มีทางเข้ามาในทันที
เพียงคิดว่าเสิ่นหวยอันอาจทำมิดีมิร้ายอันใดกับตนเอง นางก็รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าแล้ว!
“งั้น…งั้นตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี?”
นางเงยหน้าขึ้นมองซ่งจิ่งเซิน ยึดถือเขาเป็นที่พึ่งโดยไม่รู้ตัว จำต้องยอมรับว่าชายผู้นี้เฉลียวฉลาดยิ่ง แม้ว่าภาพลักษณ์ในความทรงจำของนางจะเป็นพวกเสเพลมาโดยตลอด แต่เขาก็เปี่ยมความสามารถและมีกลเม็ดแพรวพราว
“ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบของท่าน แค่ให้องครักษ์เข้าไปตีเขาให้สลบก็ได้แล้ว”
ฉู่มู่เหยา “???”
“อีกประเดี๋ยวซ่งปี้อวิ๋นมาแล้วจะทำอย่างไรเล่า?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...