“โดยทั่วไปสิงโตหินใหญ่จะวางไว้หน้าประตูใหญ่เพื่อปกปักรักษาเรือน แต่สิงโตหินน้อยมักพบเห็นได้ที่ใดเล่า?”
ซ่งรั่วเจินมองทางคนรอบกายเหล่านั้น นี่เดาได้ไม่ยาก
สีหน้าหร่วนเนี่ยนถังค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เมื่อวานตอนนางมาค้างแรมเรือนของพี่รอง ได้เห็นสิงโตหินสองตัวนี้ก็รู้สึกแปลก ยังตั้งใจเอ่ยปากถามสองประโยค
อย่างไรเสียโดยทั่วไปสิงโตหินก็มักวางไว้ที่หน้าประตูใหญ่ สิงโตของผู้ใดวางไว้ที่หน้าประตูรองบ้างเล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น ที่แห่งนี้คือเรือนเล็กแห่งหนึ่ง เทียบกับสกุลหร่วนแล้ว เล็กเสียยิ่งกว่าเล็ก หากไม่ใช่เพราะพี่รองได้รับคำสั่งจากพี่สะใภ้รอง ก็คงไม่มาอยู่ที่นี่
บัดนี้ได้ยินคำอธิบายของรั่วเจิน นางเพียงรู้สึกเย็นสันหลังวูบวาบ ช่างชวนให้คนตกใจโดยแท้!
“สิงโตหินน้อยเฝ้าสุสาน นั่นไม่ได้หมายความว่าสถานที่ที่คุณชายรองสกุลหร่วนอยู่คือ...”
ภายในสายตาของซ่งอี้อันเปี่ยมความตกตะลึง เพียงพูดถ้อยคำนี้ออกมาก็รู้สึกว้าวุ่นแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดว่าอาศัยอยู่ที่นี่
มิน่าเล่าน้องหญิงห้าถึงพูดว่าบนตัวแม่นางหร่วนมีไอมรณะจางๆ ส่วนคุณชายรองสกุลหร่วน ต่อให้เขาไม่มีสายตาแหลมคมเช่นเดียวกับน้องหญิงห้า แต่มองผ่านหน้าตาก็สามารถมองออกได้
อิดโรยถึงเพียงนี้ คล้ายคนป่วยจนไม่อาจรักษาให้หายได้
ฉู่จวินถิงเงียบงันไม่พูดจา เพ่งพินิจมองทุกสิ่งภายในเรือน ไม่พูดไม่ได้ว่าหลังคบหากับรั่วเจิน เขาได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ
“ความหมายของพวกเจ้าคือหากข้าอยู่ที่นี่ ร่างกายจะแย่ลงเรื่อยๆ ต่อให้ภายภาคหน้าไปจากที่นี่ก็ไม่มีวันดีขึ้น?”
หร่วนหลิงเฟิงนี่ถึงดึงสติกลับมาได้ จู่ๆ น้องหญิงของตนก็พาคนมามากถึงเพียงนี้ กลับไม่สามารถตอบสนองในทันทีเลยได้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น
จนกระทั่งตอนนี้สีหน้าทุกคนกลายเป็นเคร่งขรึม ถึงรับรู้ความไม่ชอบมาพากล
“ใช่แล้ว หากถูกสูบพลังหยางไปจนหมด ถึงตอนนั้นต่อให้ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นคนป่วยคนหนึ่ง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...