รอจนพวกซ่งรั่วเจินสามคนกลับขึ้นไปนั่งบนรถม้าเรียบร้อย นึกถึงทุกอย่างที่ได้เห็นเมื่อครู่นี้ พี่น้องตระกูลซ่งก็อดทอดถอนใจไม่ได้
“ท่านอ๋อง ที่เมื่อครู่ท่านเตือนหร่วนหลิงเฟิง เป็นเพราะคิดว่าเรื่องนี้อาจเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงได้อีกหรือเพคะ?”
ซ่งรั่วเจินมองไปทางฉู่จวินถิง นางรู้สึกว่าคำเตือนของฉู่จวินถิงถูกต้องแล้ว หากหร่วนหลิงเฟิงค้นพบแผนร้ายนี้ หวงเชียนเชียนตัวจริงก็คงไม่ต้องลำบากอยู่ถึงสองปี
ไม่ว่าจะเป็นหร่วนหยวนอู่หรือพี่สาวของนางล้วนไม่ใช่คนดีอันใด กระทั่งชีวิตมารดาของนางยังสามารถนำมาเป็นเบี้ยข่มขู่ได้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าสองปีมานี้ชีวิตของพวกนางจะต้องไม่ได้ผ่านมาด้วยดีเป็นแน่
นางรู้สึกว่าหร่วนหลิงเฟิงชดเชยก็สมควรแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขา หวงเชียนเชียนก็คงไม่ต้องได้รับความไม่เป็นธรรมถึงเพียงนี้
แต่หากคิดจะกลับมาคืนดีกัน แล้วถือว่าเรื่องราวสองปีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคงเป็นไปไม่ได้
“ถ้าหวงเชียนเชียนผู้นั้นไม่ได้ไร้สมองเหมือนหร่วนหลิงเฟิงก็คงไม่มีทางรับปาก” ฉู่จวินถิงกล่าว
ซ่งรั่วเจินได้ยินดังนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา “เห็นทีความคิดของพวกเราคงเหมือนกัน”
“แม้ว่าเรื่องนี้หร่วนหลิงเฟิงจะถูกปิดบังเหมือนกัน แต่สองปีกว่ามานี้ เขากลับไม่สังเกตเห็นปัญหาเลยสักนิด สาเหตุก็มาจากตัวเขาเอง”
“ตอนนั้นหวงเชียนเชียนดูแลเขาอย่างเอาใจใส่ ขณะที่นิสัยพี่สาวนางกลับใจแคบถึงเพียงนี้ แค่ดูก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกันแล้ว ถึงจะเสแสร้งได้เหมือนแค่ไหนก็ย่อมจะเผยพิรุธออกมาอยู่ดี”
“ข้าไม่เชื่อว่าหร่วนหลิงเฟิงจะไม่เคยสังเกตพบความผิดปกติเลยสักนิด แต่คงมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัวมากกว่า”
ซ่งอี้อันฟังคำวิเคราะห์ของคนทั้งสอง ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดน้องหญิงห้าจึงชอบฉู่อ๋อง
ปกติเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทุกคนคงจะเข้าใจไปโดยปริยายว่าหร่วนหลิงเฟิงเองก็ถูกหลอกลวงเหมือนกัน หวงเชียนเชียนควรเข้าใจเขา คนทั้งสองจะต้องกลับมาคืนดีกันได้อย่างแน่นอน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...