“เจ้าพูดว่าคนสกุลเหยาของข้าลงทำไปโดยเจตนา มีหลักฐานหรือไม่? ถ้าไม่มีหลักฐานก็เท่ากับว่าพวกเจ้าใส่ร้าย!”
“ท่านแม่ แจ้งความ! พวกเราแจ้งความจะต้องหาหลักฐานเจอแน่นอนเจ้าค่ะ!” ฉินซวงซวงรีบร้อนเอ่ย
ดวงตาเหยาจิ่นเฉิงสาดประกายดูแคลน “ตอนนี้ข้ายังไม่ได้แต่งอนุภรรยา แม่นางที่อยากเข้าจวนสกุลเหยาของพวกข้ามีมากมาย ข้ายังต้องชายตาแลคนที่ไม่สะอาดอย่างเจ้าด้วยรึ?”
“ถ้าเจ้าอยากแจ้งความ งั้นเจ้าก็เชิญไปแจ้งความได้เลย ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าทุกคนจะเชื่อเจ้าหรือว่าเชื่อข้า!”
สวี่ซืออี้และเหยาจิ่นเฉิงสบตากัน ทราบว่าหากตนเองจัดการเก็บกวาดให้ดีจะต้องไม่มีหลักฐานให้คนจับได้แน่นอน จิตใจก็พลันสงบลง
“ข้าขอเตือนเจ้าสักหน่อย เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ไม่น่าดูมากพอแล้ว ถ้าเจ้ายังจะโพนทะนาต่อไป คนที่เสียหน้าก็คือพวกเจ้าเอง!”
สวี่ซืออี้มีสีหน้าไม่แยแส เรื่องนี้ถ้าเอาเรื่องกันจนถึงที่สุด คนที่เสื่อมเสียชื่อเสียงสุดท้ายแล้วก็เป็นฝ่ายหญิง
ส่วนผู้ชาย อย่างมากก็แค่ถูกเยาะเย้ยถากถางพักหนึ่งเท่านั้น นับประสาอะไรกับที่ภรรยาของเหยาจิ่นเฉิงยังเสียชีวิตไปแล้ว พอมีเรื่องนี้ขึ้นมา คนอื่นอย่างมากก็คงพูดว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมที่ไปยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของคนอื่น
แต่ถ้ามีคนเชื่อว่าฉินซวงซวงเป็นคนเสนอตัวมาให้เอง อย่างนั้นผลกระทบต่อตัวเฉิงเอ๋อร์ก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด
ฉินซวงซวงใบหน้าเผือดสี สวี่ซืออี้แสดงออกหนักแน่นเกินไป ทำให้นางอดกังวลไม่ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามทำลายหลักฐานไปหมดแล้วใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีหลักฐานให้สืบสาวแล้วน่ะสิ?
ตอนแรกหลินจือเยว่ยังเชื่ออยู่บ้างว่าฉินซวงซวงถูกรังแก แต่ครั้นเห็นนางเงียบไปไม่เอ่ยปาก ใบหน้าเผยความลนลานออกมา หัวใจก็พลันจมดิ่ง
เขาอุ้มฮูหยินผู้เฒ่าหลินขึ้นมาแล้วเดินจากไปโดยไม่ลังเล
“ท่านพี่!” ฉินซวงซวงรีบร้องเรียก
แต่หลินจือเยว่ยังคงก้าวเท้ายาวๆ จากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...