“แม่หนูนี่เลือกที่จะถอนหมั้นในวันแต่งงาน ในเมืองหลวงไม่มีแม่นางที่ใจกล้าเช่นนี้มานานแล้ว ข้ากลับชื่นชมนัก”
“ตอนนั้นหลินจือเยว่ไปออกรบ มอบมารดาผู้ชราที่สุขภาพอ่อนแอให้แม่นางที่เพิ่งหมั้นหมายกันดูแลเดิมทีก็ไม่เหมาะสม เรื่องนี้เขาเป็นฝ่ายผิด ยามนี้ทุกคนกลับมาบอกว่าแม่หนูนี่โง่งม แม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งก็มาจุนเจือสกุลหลินเสียแล้ว”
“ข้าอยู่มาจนอายุปูนนี้ ยังจะมองเรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจอีกรึ?”
“หลินจือเยว่ก็แค่รู้ว่าแม่หนูนี่จิตใจดีงามถึงได้จงใจหาประโยชน์จากนาง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงไม่รับปาก”
“จิตใจดีกลายเป็นเหตุผลที่ถูกเยาะเย้ยถากถางไปตั้งแต่เมื่อใด? ส่วนเรื่องถอนหมั้นก็เป็นเพราะความกล้าหาญของนาง”
“ฮองเฮา เจ้าว่ามีตรงไหนไม่ดีงั้นรึ?”
แววตาที่ไทเฮามองซ่งรั่วเจินฉายแววชื่นชม แม่นางที่มีความคิดของตัวเองเช่นนี้กลับพบได้ไม่มากนัก
คุณหนูที่แต่ละตระกูลใหญ่อบรมออกมานั้นว่าง่ายเชื่อฟังไม่ผิด ทุกคนล้วนปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่พอเห็นมากเข้าก็รู้สึกว่าเหมือนๆ กันหมด ไม่น่าสนใจเลยสักนิด กลับไม่สู้แม่หนูนี่ที่ใจเด็ดกล้าหาญ กล้าทำกล้ารับ
ฮองเฮาอึ้งไป นางเข้าใจว่าไทเฮาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับซ่งรั่วเจิน ไม่คิดเลยว่าไทเฮาจะรู้มากมายขนาดนี้!
ฉู่อวิ๋นกุยกับฉู่มู่เหยามองหน้ากัน ทั้งสองกำลังใช้สายตาถามว่าฝ่ายตรงข้ามบอกเรื่องพวกนี้กับเสด็จย่าไปตอนไหน?
เมื่อครู่พวกเขาพูดอะไรแค่สองประโยคเท่านั้น เสด็จย่าก็ยอมให้เชิญออกมาแล้ว ท่าทางเหมือนคาดการณ์ได้ถึงเรื่องนี้มาแต่แรกอย่างไรอย่างนั้น
“หรือเสด็จพี่สามจะเคยบอกเสด็จย่าไว้ก่อนหน้านี้?” ฉู่มู่เหยาอดประหลาดใจไม่ได้
ฉู่อวิ๋นกุยลดเสียง “เรื่องนี้เป็นไปได้จริงๆ นั่นแหละ คืนวานเสด็จพี่สามได้เจอแม่นมข้างกายเสด็จย่า”
ฉู่มู่เหยาเข้าใจในทันที ที่แท้คืนวานก่อนจะไปค่ายทหาร เสด็จพี่สามก็คาดการณ์ได้แล้วว่าวันนี้อาจเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นจึงแจ้งเสด็จย่าไว้แล้วสินะ
เกรงว่าต่อให้นางกับเสด็จพี่ห้าไม่ไป เสด็จย่าก็คงเสด็จมาอยู่ดี


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...