ทว่าหลังพูดจบ ฝ่ายชายก็ดึงสติกลับมา รู้ว่าแม่นางซ่งตรงหน้าไม่มีวันจำเขาได้
ซ่งรั่วเจินมองฝ่ายชายตรงหน้า ใบหน้าเผยรอยยิ้ม “ซื่อจื่อ?”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าคือซื่อจื่อ?” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันและซื่อจื่อเคยพบหน้ากันหนึ่งครั้งเพคะ”
“เจ้าจำได้จริงหรือ?” ฉู่จิ่นหวยเบิกตากว้าง “ไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าที่ข้าสวมใส่ แต่เพราะใบหน้าข้านี้จึงจำข้าได้?”
“หม่อมฉันยังจำได้ เพียงแต่คิดไม่ถึงท่านจะเป็นซื่อจื่อของจวนอ๋อง”
ฉู่จิ่นหวยยิ้มกว้างยิ่งขึ้น โค้งคำนับต่ำๆ ทีหนึ่ง “แม่นางซ่ง เมื่อแรกขอบคุณเงินช่วยชีวิตของเจ้ามาก มิเช่นนั้น เกรงว่าตอนนี้ข้าก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดว่าข้ามีความหวังจะได้พบท่านพ่อท่านแม่”
แม้ว่าระยะนี้อยู่ในจวนอ๋องค่อยๆ ปรับตัวได้แล้ว แต่นึกถึงเรื่องทั้งหมดในตอนแรก เขายังสลดใจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
หากมิใช่เพราะวาสนาดีได้พบซ่งรั่วเจิน ชาตินี้ของเขาก็จบสิ้นแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอกาสได้พบบิดามารดา จนกระทั่งตายไปก็ยังไม่รู้ว่าตกลงตนเองเป็นใคร
“ซื่อจื่อไม่ต้องเกรงใจ ท่านกับข้าได้พบกันในตอนแรกก็คือวาสนา เกรงว่าตอนนี้ไม่รู้มีคนกี่มากน้อยอิจฉาวาสนาดีของข้านี้”
ครั้นซ่งปี้อวิ๋นและเคอหยวนจื่อมาถึงก็ได้เห็นฉากนี้ เปล่งเสียงเยาะหยันอย่างอดไม่ได้
“ข้าว่าญาติผู้พี่ ดูท่าแล้วหลังท่านถอนหมั้นก็ได้รับความสะเทือนใจไม่น้อย อายุมากแล้วแต่งไม่ออกจึงร้อนใจ ข้าสามารถเข้าใจได้ แต่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง จับผู้ชายเลือกได้คนหนึ่งก็พูดมากหลายประโยค ใช่หรือไม่ว่าร้อนใจจนไม่เลือกวิธีการ?”
ซ่งปี้อวิ๋นสำรวจฉู่จิ่นหวยขึ้นลงแวบหนึ่ง สวมใส่นับว่าไม่เลว แต่มองดูแล้วไม่คุ้นตามาก คาดว่าฐานะไม่ได้สูงมากมายอะไร
“ข้าว่าคุณชายท่านนี้อายุน้อยกว่าท่านกระมัง? หากท่านหาคนไม่ได้ มิสู้ให้ข้าช่วยหา ข้ากลับสามารถแนะนำให้ท่านได้สองสามคน”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...