“ข้ากลับสงสัยมากว่าท่านอ๋องพระชายาออกคำสั่งห้ามมิให้ใครพูดคุยกับซื่อจื่อหรือ? หรือว่าพวกเจ้าสามารถเป็นตัวแทนของท่านอ๋องกับพระชายาได้?”
“มิสู้ไล่ข้าออกไปโดยตรงเสียเลย หาไม่แล้วหากข้ายังอยู่ต่อไป มิใช่ว่าจะกลายเป็นข้าล่วงเกินจวนเซียงอ๋องหรอกหรือ?”
เพราะการกระทำบนโต๊ะไม่เบา สองสามโต๊ะรอบข้างเองก็ได้ยินแล้ว เดิมทีงานเลี้ยงไม่มีอะไรน่าสนใจ กลับครึกครื้นขึ้นมาแล้ว
“ข้าเห็นว่าซ่งรั่วเจินเองก็พูดได้ไม่เลว ต่อให้พูดคุยกับซื่อจื่อสองสามประโยคจริงยังมีอันใดพิเศษกันเล่า? ก็เพราะหัวใจสายตาสกปรกมองสิ่งใดก็สกปรก!”
“ปกติพวกเจี่ยงเหวินจิ้งก็เชี่ยวชาญเรื่องรังแกคนมิใช่หรือ? แต่ละคนล้วนปากร้าย ดังนั้นทุกคนจึงเลือกเดินอ้อมไม่ขอข้องเกี่ยว ไม่ยอมสนใจพวกเขาเท่านั้นแล้ว”
“เมื่อครู่ข้าได้ยินตอนพระชายาเซียงอ๋องและซ่งฮูหยินพูดคุยกัน ได้ยินว่าแม่นางซ่งใจดีมีเมตตา เมื่อแรกซื่อจื่อเร่ร่อนอยู่ภายนอกเกือบหิวตาย เป็นแม่นางซ่งไม่รังเกียจ มอบเงินก้อนหนึ่งให้เขา”
“ซื่อจื่อจำเรื่องนี้ไว้อยู่ตลอด ดังนั้นถึงตั้งใจเชิญทั้งจวนสกุลซ่งมา ครั้นอยู่ในปากพวกเขาก็กลายเป็นซ่งรั่วเจินหาทางยั่วยวนซื่อจื่อ ทำเลยเถิดเกินไปจริงๆ!”
เพียงทุกคนได้ยินก็เข้าใจเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ภายใน มิน่าเล่าวันนี้พระชายาเซียงอ๋องจึงพูดว่าสกุลซ่งเป็นแขกสำคัญ
“ถังเสวี่ยหนิง เจ้าเสแสร้งทำเป็นสุขุม ใครบ้างไม่รู้เจ้าและเจียงเหวินจิ้งเป็นสหายกัน? เมื่อครู่ตอนแม่นางซ่งยังไม่มา พูดได้หยาบคายยิ่งนัก!”
เมิ่งชิ่นเปิดปาก สีหน้าเปี่ยมความรังเกียจ ปกตินางก็ไม่ชอบท่าทางวางอำนาจของถังเสวี่ยหนิงอยู่แล้ว
จงใจตามใจพวกเจี่ยงเหวินจิ้งพูดจาว่าร้าย จากนั้นตนเองแสร้งเป็นคนดีพรั่งพร้อมไปด้วยศีลธรรมออกมาทวงความยุติธรรม เรื่องชั่วล้วนมอบให้คนอื่นทำ ชื่อเสียงที่ดีกลับเก็บไว้ในตัวของนางเอง
ปกติทุกคนล้วนกริ่งเกรงถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสาวอัครมหาเสนาบดี ไม่อยากถือสาหาความกับนาง ต่อให้ได้รับความลำบากก็สามารถฝืนอดกลั้นเอาไว้ได้ บางครั้งนางก็อยากช่วยพูด จนใจที่คนถูกรังแกหวาดกลัวคิดเพียงต้องการยุติเรื่องราว นางเองก็ทำได้เพียงล้มเลิกความคิด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...