หากเขาไม่มา ผลลัพธ์ก็จะลดลงมากมิใช่หรือ?
“ไม่กระมัง?” เถียนเจียวเจียวรู้สึกประหลาดใจ “งานสำคัญถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องไม่น่าจะไม่มาร่วมงาน”
ฉินซวงซวงหันมองทางหลินจือเยว่โดยไม่รู้ตัว นางพบว่านับตั้งแต่ซ่งรั่วเจินมาแล้ว หลินจือเยว่คล้ายมองไปทางนั้นโดยไม่รู้ตัว
“จือเยว่ ท่านกำลังมองอะไร? หรือท่านยังไม่ลืมไมตรีเก่าก่อนที่มีต่อซ่งรั่วเจินกระนั้น?”
หลินจือเยว่ได้เห็นสตรีในชุดแดงคนนั้นอยู่ไกลๆ ก็อึ้งงันไป ที่ผ่านมาคิดเพียงว่าซ่งรั่วเจินหัวโบราณ มองดูแล้วเรียบร้อย แท้จริงแล้วกลับน่าเบื่อไม่มีความน่าสนใจ
หลังกลับถึงเมืองหลวง เขาพบว่าซ่งรั่วเจินแตกต่างจากภายในความทรงจำของเขาอย่างสมบูรณ์ ทั้งๆ ที่ผ่านไปแล้วสองปี แต่นางมองดูแล้วงดงามมีเสน่ห์ยิ่งกว่าตอนแรก
คำพูดของมารดาดังก้องอยู่ภายในสมองของเขาไม่หยุด ชนิดที่ว่าวันนี้ยามได้พบซ่งรั่วเจินอีกครั้ง ภายในสมองของเขาก็คิดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่าหากคนที่ตนแต่งงานด้วยเป็นนาง คล้ายก็ไม่เลว...
เมื่อครู่แม้แต่องค์ชายรองก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน มองออกว่าซ่งรั่วเจินงดงามมากเพียงใด ไม่แน่ว่าวันนี้ทุกคนล้วนอิจฉาตนเองที่มีภรรยางดงามคนหนึ่ง มิใช่อย่างตอนนี้...
“จะเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?” หลินจือเยว่เก็บซ่อนความคิดไว้ภายในใจ เอ่ยว่า “ข้าก็แค่คิดว่าองค์ชายรองพูดคุยกับนาง ใช่หรือไม่ว่าพวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อน?”
ฉินซวงซวงมองเขาอย่างสงสัยแวบหนึ่ง “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้น น่าจะเพียงแค่บังเอิญได้พบกันวันนี้เท่านั้น”
ชาติก่อน องค์ชายรองเองก็เคยพบซ่งรั่วเจิน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังสัมผัสได้อย่างว่องไวว่าองค์ชายรองชมชอบความงามของซ่งรั่วเจิน แต่ถูกนางใช้ลูกไม้เล็กน้อยก็เท่านั้น
บัดนี้องค์ชายรองได้พบซ่งรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ก็ยังมีความคิดนี้ กระนั้นมีฉู่อ๋องอยู่ ต่อให้องค์ชายรองมีความคิดอื่นก็ไร้ประโยชน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง