ฉู่จวินถิงผินมองฉู่เทียนเช่อนิ่งๆ แวบหนึ่ง ฝ่ายหลังเผยรอยยิ้มมีเมตตา “น้องสาม วันนี้ในพิธีล่าสัตว์จะต้องแสดงออกดีๆ เล่า แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าขี่ม้ายิงธนูได้โดดเด่นเหนือกว่าพวกเรามากนัก”
“เสด็จพี่โปรดวางใจ ข้าจะออมมือให้อย่างแน่นอน” ฉู่จวินถิงยกมุมปากเบาๆ ราวกับไม่คิดปกปิดท่าทีหยิ่งทะนง
สีหน้าฉู่เทียนเช่อดำทะมึน เขามิอาจทนต่อท่าทีเย่อหยิ่งโอหังเช่นนี้ของฉู่จวินถิงได้อย่างที่สุด ทั้งๆ ที่อายุน้อยกว่าเขา แต่อาศัยว่าเกิดจากครรภ์ฮองเฮา ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตามาโดยตลอด
พูดเรื่องขี่ม้ายิงธนู เขาเองก็พยายามมากมาโดยตลอด เจ้าคนผู้นี้ช่างเย่อหยิ่งโอหังยิ่งนัก!
ถังเสวี่ยหนิงเห็นฉู่อ๋องปรากฏตัว ทั้งๆ ที่ภายในงานมิได้มีเขาเป็นองค์ชายคนเดียว ทว่านับตั้งแต่เขาปรากฏตัวออกมา นางก็คล้ายถูกดึงดูดความสนใจไปจนหมด ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
หากฉู่อ๋องกลายเป็นสามีของนาง จะมีคนมากน้อยเพียงใดอิจฉานางกันเล่า!
นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งหมดก็จะกลายเป็นจริง!
ใบหน้าถังเสวี่ยหนิงเผยรอยยิ้มต้องได้ดั่งใจหวัง กลับมองเห็นฉู่จวินถิงเดินออกมาแล้วก็เดินไปทิศทางที่ซ่งรั่วเจินอยู่ รอยยิ้มหายไปจนหมดสิ้น
“เมื่อครู่เห็นเจ้ากำลังหันซ้ายหันขวา คงมิใช่ว่ากำลังมองหาข้าอยู่หรอกกระมัง?”
ฉู่จวินถิงยกมุมปาก มองคนงามผิวขาวละเอียดตรงหน้า วันนี้สวมชุดแดง ช่างมีเสน่ห์ชวนให้คนหลงใหล
ซ่งรั่วเจินช้อนตาขึ้น พยักหน้าเบาๆ “กำลังหาท่าน”
ท่าทีตรงไปตรงมาของฝ่ายหญิงทำให้ฉู่จวินถิงชะงักเบาๆ สายตาลุ่มลึกฉายแววประหลาดใจ ใบหน้าหล่อเหลากลับประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ครู่ต่อมาลูบใบหู
“อีกเดี๋ยวพิธีล่าสัตว์เริ่มขึ้นแล้ว ท่านสามารถไปกับหม่อมฉันได้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม
ต้องการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ยังต้องให้ฉู่จวินถิงร่วมมือถึงจะเหมาะสมที่สุด อีกทั้งยังลดความเปลี่ยนแปลงได้มากยิ่งขึ้น
ฉู่จวินถิงช้อนตา ความประหลาดใจระคนความสุขมาอย่างกะทันหันถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“อะไรนะ?” เถียนเจียวเจียวชะงัก
“มีความสามารถเจ้าก็ไปขอสิ! ไม่มีใครห้ามเจ้าเสียหน่อย พูดแขวะอยู่ที่นี่ไปไยกัน?”
พูดไป ซ่งรั่วเจินก็มองถังเสวี่ยหนิงที่อยู่ข้างกายเถียนเจียวเจียวแวบหนึ่ง หัวเราะเบาๆ พลางพูด “หรือว่าอยู่ต่อหน้าแม่นางถังเจ้าจึงรู้สึกเกรงใจ เหตุใดต้องใส่ใจด้วยเล่า อย่างไรเสียสายสัมพันธ์พี่น้องหญิงของพวกเจ้าก็เปราะบาง เดิมทีก็ไม่ต้องให้คนเตือนอยู่แล้ว”
ถ้อยคำนี้พูดออกไป คนที่เดิมทีต้องการเห็นเรื่องน่าขันของซ่งรั่วเจินล้วนถูกถ้อยคำนี้ทำให้ขบขันออกมาแล้ว สายตาตกลงบนตัวเถียนเจียวเจียวและถังเสวี่ยหนิง
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? ข้าเปล่า! เจ้าคิดว่าไม่ว่าใครก็ไร้ยางอายเหมือนเจ้ากระนั้นรึ?”
“ก็ดีกว่าบางคนเพื่อให้ได้ชิดใกล้กับพี่รองข้า วางอุบายตกน้ำ มิหนำซ้ำยังปรักปรำแม่นางคนอื่นมากนัก
พูดเรื่องหน้าหนาไร้ยางอาย ข้าอยู่ต่อหน้าเจ้าได้แต่คารวะเท่านั้นแล้ว” ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก ตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...