“ท่านอ๋อง กระหม่อมรับรองว่าต่อไปซวงซวงไม่กล้าอีกแล้ว ขอท่านอ๋องโปรดยั้งมือไว้ไมตรีด้วย!”
หลินจือเยว่พลันหน้าถอดสี รีบดึงฉินซวงซวงโขกศีรษะขอร้อง
ถึงตอนนี้ฉินซวงซวงค่อยได้สติคืนมา ไม่กล้าเอาลิ้นของตัวเองมาเดิมพัน นางตื่นตระหนกจนโขกศีรษะติดต่อกันหลายครั้ง “ต่อไปหม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว ท่านอ๋องโปรดอภัยให้ด้วยเพคะ!”
ทว่าโขกศีรษะหลายครั้งติดต่อกัน ฉู่จวินถิงก็ยังคงไร้ปฏิกิริยาตั้งแต่ต้นจนจบ
ฉินซวงซวงเห็นสายตาฉู่จวินถิงตกลงบนร่างซ่งรั่วเจินโดยไม่มองนางแม้แต่แวบเดียว นางได้แต่หันไปโขกศีรษะขอขมาซ่งรั่วเจินอย่างไร้ทางเลือก
“แม่นางซ่ง เมื่อครู่นี้ข้าพูดไม่คิด ข้าผิดเอง ข้าขออภัยเจ้าด้วย เจ้ายกโทษให้ข้าสักครั้งเถอะนะ!”
แม้ฉินซวงซวงจะไม่ยินยอมพร้อมใจแค่ไหน แต่นี่เป็นเพียงวิธีเดียวในตอนนี้ ต่อให้ซ่งรั่วเจินรังเกียจนาง แต่ต่อหน้าท่านอ๋อง อีกฝ่ายคงจะยอมแกล้งทำเป็นอ่อนโยนรู้ความสักหน่อยกระมัง
แต่เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินไม่คิดเช่นนั้น
“ยามนี้พ่อข้าไม่รู้เป็นหรือตาย แต่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเขาตายไปแล้ว”
“พ่อข้าเป็นขุนนางที่มีความชอบ เจ้ากลับพร่ำดูถูกดูแคลนเขา ถ้าข้ายกโทษให้เจ้าทั้งอย่างนี้ จะมิเป็นการผิดต่อพ่อข้าหรอกหรือ?”
หลินจือเยว่หัวใจหนักอึ้ง หากเรื่องวันนี้ไม่อาจเลิกแล้วต่อกัน พวกเขาเสียเวลาอยู่ตรงนี้ต่อไป เกรงว่าคงไปไม่ทันช่วยองค์ชายรองแล้ว
หากพลาดโอกาสนี้ เขาอยากพลิกสถานการณ์ของตัวเองคงยากเสียยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์!
“ซวงซวง คราวนี้เจ้าทำผิดใหญ่หลวงนัก ข้าเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้สำรวมกิริยาวาจา แต่เจ้ากลับพูดเหลวไหลครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างน่าชังนัก!” หลินจือเยว่กล่าวอย่างหัวเสีย
ฉินซวงซวงงงงัน “จือเยว่ ตอนนี้ท่านคิดจะทอดทิ้งข้างั้นรึ?”
หลินจือเยว่ส่งสายตามาให้ พวกเขาไม่อาจเสียเวลาต่อไปได้อีกแล้ว นอกจากนี้ ขอเพียงเขาช่วยเหลือองค์ชายรองได้ ฝ่าบาทจะต้องพระราชทานรางวัลให้พวกเขาแน่นอน
ถึงตอนนั้น เขาแค่เอ่ยปากขอร้องก็สามารถคลี่คลายเรื่องนี้ได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง