ดูเหมือนองค์ชายรองจะไล่ล่าสัตว์มาจนถึงที่นี่โดยไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายบริเวณนี้เลยสักนิด
พี่น้องตระกูลซ่งสบตากันพลางเฝ้ารอโอกาสอย่างเงียบๆ
พวกมือสังหารเห็นว่ามีองค์ชายรองคนเดียว รอบด้านไม่มีคนอื่นก็บุกเข้ามาทันที
“ลงมือ!”
ฉู่เทียนเช่อกำลังตามล่าสัตว์อย่างคึกคัก ทันใดนั้นเห็นคนชุดดำกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาหาตนเอง ใบหน้าพลันฉายแววตกใจ
“บังอาจ! พวกเจ้าเป็นใคร!”
หัวหน้ามือสังหารแค่นหัวเราะ “คนที่จะมาเอาชีวิตเจ้า!”
ฉู่เทียนเช่อรีบถอยหนี หากจนใจที่เมื่อครู่เขาทิ้งม้าไว้ข้างหลังเพราะไม่ต้องการให้สัตว์ที่ล่าไหวตัวทัน ชั่วขณะนี้จึงได้แต่พึ่งสองขาวิ่งหนีเอาเท่านั้น
“พวกเราลงมือตอนนี้เลยไหม?”
ซ่งจิ่งเซินมองสถานการณ์ตรงหน้า ต่อให้ในมือองค์ชายรองมีเกาทัณฑ์ มือสังหารมากมายขนาดนั้นก็คงรับมือได้ไม่นานอยู่ดี
ทว่าพวกซ่งเยี่ยนโจวกลับมองสถานการณ์ตรงหน้าโดยไม่ขยับเขยื้อน ท่าทีหนักแน่นยิ่งนัก
“น้องหญิงห้าบอกแล้ว องค์ชายใหญ่จะมา พวกเรารอไปก่อน” ซ่งอี้อันกล่าว
ซ่งจืออวี้พยักหน้า “ในเมื่อน้องหญิงห้าบอกไว้ว่าจะชักนำองค์ชายใหญ่มา พวกเราก็ต้องรอไปก่อน”
“นอกจากนี้ พวกเราลงมือเร็วขนาดนี้ น้ำใจที่ช่วยชีวิตจะไม่ลึกซึ้งมากพอ” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวอย่างครุ่นคิด
ซ่งจิ่งเซินมองไปทางพี่ใหญ่ของตนเองอย่างเหลือเชื่อ คำพูดนี้ออกมาจากปากใครในหมู่พวกเขาพี่น้องก็ได้ทั้งนั้น มีแค่พี่ใหญ่เท่านั้นที่เป็นไปไม่ได้
“พี่ใหญ่ ท่านเปลี่ยนไปแล้ว!”
ทว่าซ่งเยี่ยนโจวกลับไม่ละอายใจเลยสักนิด “คนเราไม่อาจไม่เปลี่ยนแปลง ขอเพียงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็พอแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง