เหล่ามือสังหารอึ้งไปชั่วเวลาสั้นๆ ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
“รนหาที่ตายอีกคน งั้นก็จัดการไปด้วยกันนี่แหละ!”
อาชาพันธุ์ดีถูกแทงบาดเจ็บจึงส่งเสียงร้องแหลมวิ่งเตลิดหนี ส่วนฉู่อี้ชวนก็ถูกบังคับให้ต้องกระโดดลงมาจากม้า ตกอยู่ในวงล้อมมือสังหารด้วยกันกับฉู่เทียนเช่อ
“น้องรอง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” ฉู่อี้ชวนขมวดคิ้วมุ่น สายตาสำรวจไปรอบด้านไม่หยุด คิดว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถออกไปจากที่นี่
จะว่าไปก็ประหลาดนัก ทั่วเขตล่าสัตว์หลวงมีคนไม่น้อย แต่ระหว่างทางมาเขากลับพบว่าบริเวณนี้มีคนน้อยยิ่งนัก
ยามนี้เกิดความวุ่นวายใหญ่โตแบบนี้ รอบด้านกลับไม่มีคนปรากฏตัว หากจะรอให้มีคนมาช่วยเหลือพวกเขา ความเป็นไปได้คงมีน้อยมาก
ความสับสนวาบผ่านแววตาฉู่เทียนเช่อ สีหน้ายังคงตื่นตระหนกลนลานดุจเดิม
“ข้าล่าสัตว์มาแถวนี้พอดีจึงถูกพวกเขาทำร้ายบาดเจ็บ เสด็จพี่ ท่านรีบหนีไปเถอะ ครั้งนี้เป้าหมายของพวกเขาคือข้า!”
ฉู่อี้ชวนนึกทอดถอนใจ สถานการณ์ตอนนี้เขาไม่อยากหนีเสียที่ไหน แต่เป็นเพราะหนีไม่พ้นต่างหากเล่า!
“ยันไว้ได้เท่าไรก็เท่านั้น รอจนสบโอกาสค่อยหาทางหนีออกไป”
“เคร้ง ๆ ๆ!”
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น เหล่ามือสังหารลงมืออย่างดุดัน เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาชีวิตพวกเขาสองคน
แม้ว่าฉู่อี้ชวนกับฉู่เทียนเช่อจะมีวรยุทธ์ไม่เลว แต่ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากเกินไป สองมือยากจะต่อกรสี่มือ ในไม่ช้าก็ได้รอยแผลฝากร่างไว้หลายรอย
เลือดสดๆ หยดลงบนพื้น กลิ่นคาวเลือดจางๆ แพร่กระจายออกไป
เมื่อสี่พี่น้องตระกูลซ่งเห็นองค์ชายใหญ่มาแล้วก็ยิ่งแน่ใจว่าการคาดการณ์ของพวกตนไม่ผิดเลย น้องหญิงห้าพูดได้ทำได้จริงๆ ด้วย!
“ถึงตาพวกเราออกโรงแล้ว!”
ซ่งเยี่ยนโจวเหลียวมองซ่งจืออวี้ บอกเป็นนัยให้อีกฝ่ายออกไปก่อน
ซ่งจืออวี้รออยู่นานแล้ว เห็นว่าในที่สุดก็มีโอกาสลงมือเสียทีก็บุกเข้าไปโดยไม่ลังเล!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง