เมื่อซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งจืออวี้ลงมือโดยมีซ่งอี้อันกับซ่งจิ่งเซินคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ในไม่ช้าก็สังหารไปได้หลายคน ขณะเดียวกันก็เหลือผู้รอดชีวิตไว้สองคน มีสองคนที่หนีไปได้
ฉู่เทียนเช่อถูกแทงที่อกหนึ่งกระบี่ เลือดไหลย้อมอาภรณ์ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหมดสติล้มลงไป
อาการของฉู่อี้ชวนดีกว่าบ้าง แต่ก็ได้แผลน้อยใหญ่มาไม่น้อย สีหน้าเผือดขาว
ในเวลาเดียวกันนั้น ซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงก็มาถึงบริเวณใกล้เคียงแล้ว
เมื่อมาเห็นภาพนี้ ทั้งคู่ก็ ‘ประหลาดใจ’ อย่างมาก
ฉู่จวินถิงตามไปจับสองคนที่หนีไปได้อย่างรวดเร็ว ซ่งรั่วเจินส่งเชือกให้อย่างเอาใจใส่
“ต้องเก็บคนเป็นๆ เอาไว้ กลับไปเค้นหาตัวการเบื้องหลัง”
“เจ้าพูดถูก” ฉู่จวินถิงพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง
คนทั้งสองคุมตัวมือสังหารเดินมาทางนี้ก็เห็นฉู่เทียนเช่อหมดสติ ฉู่อี้ชวนก็แลดูอ่อนแออย่างมาก
“องค์ชายใหญ่ ท่านไม่เป็นไรกระมัง? พวกกระหม่อมจะส่งท่านกลับไปเดี๋ยวนี้” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ฉู่อี้ชวนมองสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยตรงหน้าก็ไม่รู้เลยว่าควรพูดอย่างไรดี แค้นใจนักที่ไม่สามารถจัดการพวกคนตรงหน้าหนักๆ สักยก!
แล้วมองซ่งรั่วเจินกับน้องสามของตนเอง ทันใดนั้นเขาพลันไม่เข้าใจว่าทั้งสองมีจุดมุ่งหมายใดกันแน่
น้องสามคงไม่ได้เสียสติถึงขั้นจงใจวางกับดักพวกเขาเพื่อให้ตระกูลซ่งได้รับตำแหน่งสำคัญหรอกนะ
ทันทีที่พวกเขาบอกเล่าสถานการณ์ออกมา อนาคตของน้องสามกับตระกูลซ่งก็จะถึงคราวจบสิ้น อีกฝ่ายไม่มีทางทำเรื่องโง่งมถึงขั้นนี้
เขาจะต้องใคร่ครวญเลศนัยของเรื่องนี้ให้ดี
ด้วยเหตุนี้ ฉู่อี้ชวนจึงพยักหน้าโดยไม่แสดงท่าทีผิดปกติออกมา “วันนี้ขอบใจพวกเจ้ามากที่ยื่นมือช่วยเหลือ ถ้าไม่มีพวกเจ้า เกรงว่าข้ากับน้องรองคงไม่รอดแล้ว”
“ผ่านมาเจอเหตุร้ายย่อมต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดาเพคะ” ซ่งรั่วเจินเอ่ยพร้อมยิ้มบาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง