“พวกเจ้าสี่คนบังเอิญผ่านไปบริเวณนั้นพอดี?”
ฮ่องเต้กวาดสายตาผ่านพวกซ่งเยี่ยนโจวสี่พี่น้อง ดูเหมือนถามคำถามทั่วไป แต่กลับทำให้คนรู้สึกกดดันอย่างมาก
ซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันล้วนเคยเข้าเฝ้าฮ่องเต้มาก่อน แม้จะรู้สึกกดดันไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับแตกตื่น ซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินกลับรู้สึกว่าสายพระเนตรของฮ่องเต้มีแรงกดดันใหญ่หลวง ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“พวกกระหม่อมสี่คนกำลังล่าสัตว์อยู่แถวนั้นพอดี น้องสามของกระหม่อมไปพบเข้าก่อน พวกกระหม่อมได้ยินเสียงน้องสามจึงรีบตามไปพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวตอบอย่างไม่เย่อหยิ่งและไม่ต่ำต้อย
ฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็ทอดพระเนตรซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ หน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียด แต่กลับมีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินเกี่ยวกับพี่น้องฝาแฝดตระกูลซ่งคู่นี้ว่านิสัยต่างกันสุดขั้ว ด้วยเหตุนี้จึงสามารถระบุตัวซ่งจืออวี้ได้อย่างง่ายดาย
“เราได้ยินว่ามีมือสังหารถึงแปดคน แต่เจ้าตัวคนเดียวก็กล้าบุกเข้าไป?”
ซ่งจืออวี้ตอบด้วยท่าทางกริ่งเกรง “ฝ่าบาท ตอนนั้นกระหม่อมเห็นองค์ชายทั้งสองตกอยู่ในอันตรายจึงกระโจนเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก กระหม่อมคิดว่าพวกพี่ใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ จะต้องตามมาทันแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“วรยุทธ์ของเจ้าไม่เลวเลย เหมือนว่าจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลแต่กำเนิดด้วย?”
ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้รับทราบอาการบาดเจ็บจากรายงานของราชองครักษ์แล้ว รวมถึงอาวุธที่พวกซ่งจืออวี้ใช้ บาดแผลจากดาบที่สะดุดตาที่สุดในนั้นคือฝีมือซ่งจืออวี้
คนคนเดียวฝ่าเข้าไปในวงล้อม แต่กลับสามารถปลิดชีพมือสังหารสองคนได้ภายในเวลาสั้นๆ เห็นได้ชัดว่ามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ
“กระหม่อม...กระหม่อมไม่ฉลาดเท่าพี่ใหญ่พี่รอง ปกติชอบฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จึงพอมีวรยุทธ์ติดตัวบ้าง พละกำลังก็ย่อมมีมากกว่าคนทั่วไปเป็นธรรมดาพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งจืออวี้กล่าวอย่างกระดากอาย
ฮ่องเต้บังเกิดความสนพระทัยขึ้นมาหลายส่วน “เห็นหินยักษ์ก้อนข้างนอกนั่นหรือไม่? ในหมู่ราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งมีเพียงหัวหน้าราชองครักษ์เท่านั้นที่ยกขึ้น”
สายตาทุกคนกวาดไปทางหินยักษ์ข้างนอกโดยสัญชาตญาณ ขนาดใหญ่โตอย่างแท้จริง ปกติคงต้องใช้คนหลายคนช่วยกันยกจึงจะยกขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง