ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลังกัวเยว่หลินกลับมาแล้ว เหอเซียงหนิงถึงเพิ่งรู้ว่าฉินจื้อหย่วนเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว หวาดกลัวกัวเยว่หลินขนาดนั้น ถึงขั้นไม่กล้ามีสัมพันธ์กับนางในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
อย่างไรเสียถ้าวันนี้ไม่สามารถเอาตัวรอดไปได้ นางก็จบสิ้นแล้ว ย่อมไม่กลัวว่าจะต้องสู้จนตายตกไปทั้งสองฝ่าย!
“เจ้าบอกว่าเจ้ามีสัมพันธ์กับจื้อหย่วน เจ้ามีหลักฐานอันใด?”
กัวเยว่หลินสีหน้าปั้นยากถึงที่สุด แต่ก็ยังแข็งใจคาดคั้น ไม่แน่ว่าพวกซ่งรั่วเจินอาจจงใจหลอกลวงพวกตนเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกตนก็เป็นได้
“ก่อนหน้านี้ฉินจื้อหย่วนเคยมอบชาดของหออวิ๋นเยว่ให้ข้า ตอนข้าไปยังจงใจทิ้งไว้ในห้องของพวกเจ้า”
“ไม่เพียงเท่านี้ ข้ายังทิ้งกระโปรงสีเหลืองขนเป็ดอีกตัวหนึ่งไว้ในตู้เสื้อผ้าของพวกเจ้า”
ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงก็ไม่ยินดีที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวกับคนอื่นจึงจงใจทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไว้เพื่อให้ความจริงเปิดเผย จะได้เป็นอนุภรรยาของฉินจื้อหย่วนอย่างถูกต้องชอบธรรม
ผู้ใดจะคิดว่ากัวเยว่หลินกลับสมองช้าถึงปานนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังจับไม่ได้!
ตอนกัวเยว่หลินได้ยินคำว่าชาดจากหออวิ๋นเยว่ ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี
วันนั้นตอนเห็นชาดตลับนั้นนางก็ประหลาดใจแล้ว ดูแล้วก็เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยใช้แล้ว แต่พอคิดถึงว่าฉินจื้อหย่วนมีใจรักเดียวให้นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
กระทั่งว่าแม้แต่กระโปรงตัวนั้นนางก็เคยเห็นเหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าประหลาดนัก แต่ฉินจื้อหย่วนพูดไม่กี่ประโยคก็กลบเกลื่อนไปได้
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสิ่งของที่เหอเซียงหนิงทิ้งไว้!
ฉินจื้อหย่วนหน้าเปลี่ยนสี รีบมองไปทางกัวเยว่หลิน “น้องหญิง เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน”
เพียะ!
กัวเยว่หลินสุดจะกลั้นไว้ได้ สะบัดมือตบฉาดทั้งดวงตาแดงก่ำ
“ฉินจื้อหย่วน หมายความว่าช่วงหลายวันที่ข้ากลับบ้านเดิมไป ท่านคลุกคลีกับเหอเซียงหนิงอยู่บนเตียงข้าตลอดเลยสินะ? ท่านยังเป็นคนอยู่ไหม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง